1 ปีมีครั้งเดียว แห่งเดียวในไทย นอนแช่น้ำว่าน 3 วัน 3 คืน พิธีบุญบูรพาจารย์สำนักเขาอ้อ แช่น้ำว่านสมุนไพร 108 ชนิด พิธีกรรมไสยศาสตร์และความเชื่อ สำหรับชายชาตรีสร้างความขลัง อยู่ยงคงกระพัน ตามรอยพิธีกรรมสำนักเขาอ้อ เดือน 3 ของทุกปี
3 กุมภาพันธ์ 2568 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา บริเวณวัดเขาอ้อ ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ภายหลังที่พระสงฆ์ รวมไปถึงลูกศิษย์ของวัด ได้มีการจัดเตรียมประกอบพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ “แช่ว่านยา 108 ชนิด” เป็นไปตามแบบฉบับของวัดเขาอ้อ ตามประเพณีเก่าแก่โบราณ ด้านไสยศาสตร์และความเชื่อเรื่องการอยู่ยงคงกระพัน
โดยวันนี้เริ่มต้นของการทำพิธีทางพระสงฆ์ รวมถึงลูกศิษย์ และผู้ศรัทธาได้ทยอยเดินทางมาร่วมในพิธีตั้งแต่ช่วงเช้ามืด โดยมีพระปลัดวิเชียร สีลโชโต เจ้าอาวาสวัดเขาอ้อ พร้อมด้วยอาจารย์เปลี่ยน หัถยานนท์ ฆราวาสอาวุโสแห่ง สำนักเขาอ้อ ทำพิธีให้กับผู้ร่วมแช่น้ำว่านทั้ง 12 คน โดยพิธีกรรมเริ่มตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา
โดยใช้ฤกษ์ 09.00 น. ซึ่งพิธีกรรมแรกจะเป็นการชำระล้างบาปตามหลักพระพุทธศาสนา โดยจะมีการให้ทางผู้ร่วมแช่ว่านทั้ง 12 ราย นุ่งขาวห่มขาวเข้าไปทำพิธีภายในอุโบสถ โดยทุกคนจะต้องมีการ บริกรรมคาถาตามตำราเก่าแก่ โดยมีอาจารย์เปลี่ยน หัถยานนท์
ในส่วนของผู้ร่วมแช่ว่านทั้ง 12 ราย จะต้องทำพิธีด้วยความสำรวมและตามหลักข้อปฎิบัติ ในการถือศีลหรือข้อห้ามในการร่วมพิธี หลังจากเสร็จพิธี แรกแล้วทางผู้ร่วมแช่ว่านจะต้องเข้าไปทำพิธีในส่วนของศาสนาพราหมณ์ โดยใช้เวลารวมทั้งสิ้นประมาณ 30 นาที ก่อนที่ทางเจ้าอาวาสรวมไปถึงลูกศิษย์ จะมีการพาผู้ร่วมว่านทั้ง 12 ราย ขึ้นไปไปยังบริเวณรางแช่ว่าน (อ่าง) ที่ได้มีการทำพิธีและลงอักขระยันต์ไปเมื่อวานนี้
ก่อนที่ผู้เข้าร่วมจะลงไปแช่ในราง หรือ อ่างแช่น้ำว่าน ทางเจ้าอาวาสได้มีการบริการคาถา รวมไปถึงให้ทางผู้ร่วมทั้ง 12 คน ทำพิธีก่อนอีกครั้ง พร้อมกับให้ถอดเสื้อผ้า ก่อนจะมีการเดินเข้าไปยังรางแช่ยา โดยต้องใช้เท้าซ้ายย่างเข้าไป ส่วนลำดับบุคคลที่จะเดินเข้าไปแช่นั้น ตามหลักโบราณจะเรียงลำดับตามวันเกิด ตั้งแต่วันอาทิตย์ถึงวันเสาร์ คนแรกที่จะได้ลงไปแช่จะต้องเกิดวันอาทิตย์ และเรียงไปจนถึงคนสุดท้ายที่เกิดวันเสาร์ โดยขั้นตอนในการแช่จะใช้เวลา 3 วัน 3 คืน แต่ในระหว่างที่มีการแช่ว่าน ด้วยจำนวนของผู้เข้าร่วมทั้ง 12 ราย กับขนาดของรางหรืออ่าง จำกัดได้แค่ 6 คนต่อรอบ เลยต้องมีการสลับ 6 คนแรกแช่ 2 ชั่วโมง และสลับ 6 คนหลัง ไปมาตลอดระยะเวลาทั้ง 3 วัน
แม้ว่าขั้นตอนการเข้าพิธีแช่ว่านยาจะยุ่งยากละเอียดอ่อน แต่ผู้คนจำนวนมากโดยเฉพาะผู้ที่เหลื่อมใสในวิชาไสยศาสตร์ของวัดเขาอ้อ อยากจะแช่ว่านยาสักครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะเชื่อว่าผู้ที่ผ่านพิธีกรรมแช่ว่านยา ตามหลักวิชาของวัดเขาอ้อแล้ว จะทำให้บุคคลนั้นมีตบะและมีอำนาจอย่างเสือ มีความอดทนอย่างหมี มีความเข้มแข็งแคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง สามารถแก้โรคภัยไข้เจ็บต่างๆได้เป็นอย่างดี และมีความเชื่อว่าผู้ที่แช่ว่านยาวัดเขาอ้อ ติดต่อกันถึง 3 ครั้งขึ้นไป จะทำให้ร่างกายอยู่ยงคงกระพันต่ออาวุธทุกชนิด
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ผ่านการแช่ว่านยาทุกคนจะต้องปฏิบัติตามข้อห้ามอย่างเคร่งครัด จะต้องปฏิบัติตนเป็นคนดี ห้ามผิดลูกเมียผู้อื่น ห้ามกินอาหารที่มีชื่อไม่เป็นมงคล หากไม่ปฏิบัติจะทำให้ความศักดิ์สิทธิ์เสื่อมเสีย
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีพิธีกรรมและกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น พิธีสะเดาะพระเคราะห์ ต่ออายุเสริมดวงชะตา พิธีหุงข้าวเหนียวดำในอุโบสถวัดเขาอ้อ พิธีกินข้าวเหนียวดำการแสดงศิลปะวัฒนธรรม มโนราห์ หนังตะลุง ลิเกป่า และมรสพเป็นต้น โดยงานเริ่มระหว่างวันที่ 3 - 5 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ และจะมีพิธีเปิดวันนี้ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 19.19 น. โดยนายปรีชา นวลน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ประธานเปิดงาน “ตามรอยพิธีกรรมวัดเขาอ้อ”
สำหรับวัดเขาอ้อถือเป็นแหล่งวิชาอาคมทางไสยเวท ที่มีชื่อเสียงโด่งดังตั้งแต่สมัยโบราณและมีพระเกจิอาจารย์ ผู้สืบต่อวิชาทางไสยเวท ที่ประชาชนเคารพศรัทธา เช่น พระอาจารย์ทองเฒ่า พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ พระอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา พระอาจารย์คง วัดบ้านสวน พระอาจารย์ปาน วัดเขาอ้อ และพล.ต.ต.ขุนพันธ รักษ์ราชเดช เป็นต้น ซึ่งนอกจากเรื่องไสยเวทแล้ว อีกจุดเด่นของวัดเขาอ้อก็คือวิชาทางแพทย์แผนโบราณ
.012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี