ฮือฮา!ค้นพบ‘สมุนไพรไทย’ แก้ปัญหา‘ตะกรัน’ในระบบทำความเย็น ครั้งแรกของโลก พร้อมจดสิทธิบัตรเป็น‘สมบัติชาติ’ ชี้มูลค่าตลาดโลกพุ่ง 1.5 แสนล้านบาท
ในยุคที่สิ่งแวดล้อมเป็นประเด็นสำคัญระดับโลก การพัฒนานวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติได้รับความสนใจอย่างมาก ล่าสุด เอ็มกรุ๊ปโฮลดิ้ง จับมือ วิสาหกิจชุมชนรำมะสัก เปิดตัว นวัตกรรมสมุนไพรไทยแก้ปัญหาตะกรันในระบบทำความเย็น นับเป็นการค้นพบครั้งแรกของประเทศไทย และอาจเป็นครั้งแรกของโลก!
ภิญญ์ชยุตม์ อัครกุลศานต์ หรือ “คุณหมี” ประธานเอ็มกรุ๊ปโฮลดิ้ง คือหนึ่งในนักธุรกิจที่สนใจทำธุรกิจที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม โดยเข้าไปสนับสนุนต่อยอดงานวิจัยเพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยการค้นพบครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการศึกษาวิจัยของ บริษัท เฮิร์บ อินโนเทค จำกัด บริษัทในเครือเอ็มกรุ๊ปฯ ร่วมกับวิสาหกิจชุมชนรำมะสัก อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ขณะนี้ส่งออกจำหน่ายในตลาดแถบเอเชีย และอยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตรให้เป็นสมบัติของชาติไทย เพื่อยกระดับสมุนไพรไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยนวัตกรรมนี้สามารถ กำจัดและป้องกันการเกิดตะกรันในระบบ Evaporative Condenser และ Cooling Tower ซึ่งเป็นปัญหาหลักในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ด้วยสารสกัดจาก สมุนไพรไทยแท้ 100% เช่น น้ำด่างธรรมชาติ, สับปะรด, มะละกอ, มะกรูด และมะนาว
#จากภูมิปัญญาชาวบ้าน สู่ผลิตภัณฑ์ที่เปลี่ยนอุตสาหกรรม
พ.ท.ชเนศร์ บุตรเทพ ผู้เชี่ยวชาญด้านสารสกัดสมุนไพรจาก บริษัท เฮิร์บ อินโนเทค จำกัด เปิดเผยว่า นวัตกรรมนี้เป็นผลลัพธ์ของการศึกษาค้นคว้าด้าน Bio-fermented จากสมุนไพรไทยมานานกว่า 20 ปี โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก วิสาหกิจชุมชนรำมะสัก จังหวัดอ่างทอง ที่มีความเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น สบู่ น้ำยาซักผ้า และน้ำยาล้างห้องน้ำ โดยเราได้นำจุดแข็งของสมุนไพรไทยมา พัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ทดแทนสารเคมีในอุตสาหกรรม นอกจากจะช่วยลดปัญหาตะกรันที่เกิดจากการใช้ระบบทำความเย็น ยังสามารถ สร้างฟิล์ม Hydrophobic ป้องกันการกัดกร่อน ลดความกระด้างของน้ำ และกำจัดแบคทีเรียและตะไคร่ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือ “ผลิตภัณฑ์อัดก้อน” ที่ช่วยกำจัดและป้องกันตะกรัน ซึ่งถือว่าเป็น นวัตกรรมแรกของโลกที่พัฒนาได้จากสมุนไพรไทย ขยายโอกาสสู่ตลาดโลก ลดการพึ่งพาสารเคมี” พ.ท.ชเนศร์ ย้ำ
ด้าน ปรียาวรรณ คำอยู่ ผู้บริหาร บริษัท MGREEN ENVIRONMENT ในเครือ M Group Holding กล่าวเสริมว่า ปัจจุบัน การกำจัดตะกรันในอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย ทั้งต่อผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อม แต่ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยสามารถช่วย ลดการใช้สารเคมี ลดโลกร้อน และลดต้นทุนในการบำบัดน้ำเสีย ผลิตภัณฑ์ของเราได้รับการตอบรับดีจากลูกค้าในต่างประเทศ เช่น เกาหลีและฟิลิปปินส์ โดยมีแนวโน้มการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะตลาดผลิตภัณฑ์กำจัดตะกรันในอุตสาหกรรมทั่วโลกมีมูลค่าถึง 1.5 แสนล้านบาท และเติบโตปีละ 6%”
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรในด้านอื่น เช่น ผลิตภัณฑ์ป้องกันการจับตัวของไขมัน, ผลิตภัณฑ์ล้างคราบน้ำมัน ลดปัญหาน้ำเสียในภาคอุตสาหกรรม , ผลิตภัณฑ์ดับกลิ่น ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
#ภูมิปัญญาไทยสร้างเศรษฐกิจชุมชน – ต่อยอดสู่อุตสาหกรรมยั่งยืน
นางสงัด พรมเมศ ประธาน วิสาหกิจชุมชนรำมะสัก กล่าวว่า ในอดีตเราใช้สมุนไพรไทยในงานซักล้างภายในครัวเรือน แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะสามารถนำมาต่อยอดเป็น นวัตกรรมในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ได้สำเร็จ โครงการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยัง สร้างงานสร้างรายได้ให้กับชุมชน โดยแรงงานในพื้นที่กว่า 200 คน ได้มีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการผลิต
“ทั้งหมดนี้คือความภูมิใจที่เราได้นำ ภูมิปัญญาท้องถิ่น มาพัฒนาเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ตลาดโลก และช่วยส่งเสริมความยั่งยืนของอุตสาหกรรมไทย” นางสงัดกล่าว
การค้นพบครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึง ศักยภาพของสมุนไพรไทย ในการเป็น ทางเลือกที่ยั่งยืนแทนสารเคมีอุตสาหกรรม ทั้งในและต่างประเทศ โดยการเตรียม จดสิทธิบัตร เพื่อให้เป็น สมบัติของชาติ จะช่วยยกระดับประเทศไทยให้เป็น ศูนย์กลางด้านนวัตกรรมสมุนไพรเพื่อสิ่งแวดล้อมในระดับโลก
“สมุนไพรไทยไม่ได้เป็นแค่ทางเลือก แต่เป็นอนาคตของอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน”
ทั้งนี้ ติดตามความคืบหน้าของ “นวัตกรรมสมุนไพรไทยเพื่อสิ่งแวดล้อม” ได้ที่ M Group Holding และวิสาหกิจชุมชนรำมะสัก ///-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี