5 ก.พ. 2568 ศ.ดร.ณัฐวุฒิ เผ่าทวี อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ ประจำมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง ประเทศสิงคโปร์ เขียนบทความ “นามสกุลนั้นสำคัญไฉน” เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊ก “Nattavudh Powdthavee - ณัฐวุฒิ เผ่าทวี” เนื้อหาดังนี้
ผมเจอกับพีพีเมื่อเดือนกันยายน ปี 2023 ที่งานแบงก์ชาติ ผมจำได้ว่าในตอนนั้นผมได้พูดกับตัวเองว่า โอ้โห นี่เรามีคนไทยรุ่นใหม่ที่เก่งระดับโลกถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย (สำหรับใครที่ไม่รู้จักพีพี พีพีเป็นนักวิจัยในเรื่องของ AI-Human Interaction ที่ MIT) และผมก็ยังจำได้อีกว่ามีความรู้สึกอยากจะร่วมทำงานวิจัยกับพีพีมาก แต่เรามันอยู่คนละสายวิชาการกันเลย--ผมเป็นนักเศรษฐศาสตร์ ส่วนพีพีเป็นนักวิทคอมพ์ -- เราคงจะหาหัวข้อที่จะมาทำงานด้วยกันลำบาก
แต่แล้วเราก็หาหัวข้อที่เราสามารถทำงานร่วมกันได้จนได้ (และก็ไม่ใช่หัวข้อเพียงแค่หัวข้อเดียวอีกด้วย) และเปเปอร์แรกที่เราทำด้วยกันสำเร็จเป็นเปเปอร์แรกก็คือเปเปอร์ที่มีชื่อว่า
Algorithmic Inheritance: Surname Bias in AI Decisions Reinforces
Intergenerational Inequality
ซึ่งถ้าจะให้แปลเป็นภาษาไทยก็คงจะเป็น "นามสกุลนั้น สำคัญไฉน: อคติที่ AI มีต่อนามสกุลธรรมดาอาจจะนำมาซึ่งความเหลื่อมล้ำที่ไม่จบไม่สิ้นเสียที"
ชื่อยาวไปไหมครับ
แต่จะให้พูดง่ายๆก็คือเราสองคนเริ่มต้นด้วยข้อสมมติฐานง่ายๆเกี่ยวกับอคติที่คนเรามีต่อคนที่มีนามสกุลธรรมดา เมื่อเทียบกันกับคนที่มีนามสกุลที่มาจากตระกูลที่มีชื่อเสียง หรือตระกูลเก่าแก่ ในสังคมของเรา ข้อสมมติฐานนั้นก็คือสังคมไทยเรามักให้โอกาสกับคนที่มาจากตระกูลใหญ่โตมากกว่าคนที่ไม่ได้มาจากตระกูลที่เป็นที่รู้จักกัน
และเราทั้งสองก็เลยตั้งคำถามขึ้นมาว่า แล้ว AI ล่ะ เวลาที่ AI จะต้องตัดสินใจอะไรซักอย่างหนึ่งเกี่ยวกับคน เช่น จะจ้างคนนี้ดีไหม จะให้เขากู้เงินดีหรือเปล่า จะเลื่อนตำแหน่งให้เขาเป็นผู้บริหารดีไหม AI จะให้น้ำหนักกับคนที่มีนามสกุลใหญ่โตในสังคมของเรามากกว่าคนที่มีนามสกุลธรรมดาๆไหม
ในการทดลองของเรา เราได้นำนามสกุลที่เป็นนามสกุลของคนรวยมากๆของประเทศไทยมา 50 นามสกุล (ซึ่งนามสกุลของคนรวยนั้นมาจาก Top Richest 50 People in Thailand) และนำนามสกุลเก่าแก่ที่เป็นนามสกุลพระราชทานมาอีก 50 นามสกุล และนามสกุลของคนธรรมดามาอีก 50 นามสกุล
แค่นั้นไม่พอ เรายังสร้างนามสกุลที่ออกเสียงคล้ายๆกับนามสกุลจริงที่เราใช้แต่สะกดไม่เหมือนกันมาอีก 150 นามสกุลมาทดลอง
หลังจากนั้นเราก็ feed นามสกุลพวกนี้เข้าไปให้ large language model (LLM) โดยให้ LLM ประเมินนามสกุลแต่ละนามสกุลให้เรื่องของ
- อำนาจ (powerfulness)
- ความมั่งคั่ง (wealthiness)
- ความฉลาด (intelligence)
- ความเป็นธรรมดาของชื่อ (commonness)
และเรายังขอให้ LLM ประเมินอีกว่า แล้วถ้าเราอยากจะจ้างคนนี้มาทำงาน หรือให้คนนี้กู้เงิน หรือแนะนำให้คนนี้มาเรียนโรงเรียนนานาชาติ คุณจะให้คะแนนเท่าไหร่
สรุปง่ายๆแบบไม่พูดพร่ำทำเพลงมากนะครับ เราพบว่า LLM มักจะประเมินนามสกุลของคนรวยและนามสกุลเก่าแก่ว่าฉลาดกว่า รวยกว่า และมีอำนาจมากกว่านามสกุลธรรมดา ทั้งๆที่เราไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรอย่างอื่นกับ AI เลยนอกจากนามสกุลเหล่านี้
แค่นั้นไม่พอ เรายังพบว่า LLM ยังมอบโอกาสชีวิตให้กับคนที่มีนามสกุลเก่าแก่และนามสกุลรวยมากกว่าอีกด้วย เช่น คนที่มีนามสกุลเก่าแก่และรวยมักจะได้รับคะแนนของการเป็นผู้นำและจะมีโอกาสได้งานบริหารที่มากกว่าคนที่มีนามสกุลธรรมดา เพียงเพราะว่า LLM ประเมินว่าคนที่มีนามสกุลเก่าแก่และนามสกุลที่รวยมีความฉลาดมากกว่าคนที่มีนามสกุลธรรมดา
สรุปคืออะไร สรุปก็คือ AI มีอคติต่อนามสกุลธรรมดาเหมือนๆกันกับที่อคติที่คนทั่วไปมีนั่นเอง
และอคติที่ AI มีต่อนามสกุลธรรมดานี้ก็จะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนที่มีนามสกุลไม่ดังไม่สามารถมีโอกาสชีวิตที่พอๆกันกับคนที่มีนามสกุลเก่าแก่หรือนามสกุลที่รวยๆในชีวิตได้
แต่โชคดีที่เราสามารถ correct AI bias ได้ ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถ correct human bias ในสังคมไทยเราได้ก็ตาม
สำหรับคนที่สนใจงานชิ้นนี้ สามารถหาอ่านได้จากเพจที่พีพีเป็นคนสร้างขึ้นมานะครับ ส่วนเปเปอร์จะตามมาในอีกไม่กี่วันนี้
https://www.media.mit.edu/projects/algorithmic-inheritance/overview/
ขอบคุณเรื่องจาก
https://www.facebook.com/photo/?fbid=122210936906070329&set=a.122111918168070329
043...
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี