เมื่อเร็วๆ นี้ สภาองค์กรของผู้บริโภคลงพื้นที่ชุมชนคลองเตย เพื่อสำรวจความคิดเห็นการสร้างชุมชนที่เป็นธรรม หลังการท่าเรือแห่งประเทศไทยได้เสนอโครงการ Smart Community และขอเปลี่ยนพื้นที่ผังเมืองจากสีน้ำเงินส่วนราชการเป็นสีแดงเพื่อการพาณิชย์ แม้จะยังไม่ชัดเจนว่า รัฐบาลจะใช้พื้นที่ชุมชนคลองเคยเป็นที่ตั้งของ Entertainment Complex ครบวงจร ที่มีอุตสาหกรรม “กาสิโน” หรือไม่ แต่ทำให้ชุมชนคลองเตยกังวล และขอเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการปรับปรุงพื้นที่ และการจัดการที่อยู่อาศัยของชุมชนเพื่อสร้างความเป็นธรรม
นายก้องศักดิ์ สหะศักดิ์มนตรี อนุกรรมการด้านอสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัย สภาองค์กรของผู้บริโภค ลงพื้นที่เพื่อสำรวจปัญหาผังเมืองชุมชนคลองเตย กล่าวว่า ชัดเจนแล้วว่าการท่าเรือได้เสนอเปลี่ยนผังเมืองจากสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นพื้นที่ราชการ มาเป็นสีแดงเพื่อการพาณิชย์ แต่จะนำมาพัฒนาเป็น EntertainmentComplex ที่มีกาสิโนอยู่ในนั้นหรือไม่นั้น ยังไม่ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม เห็นว่า ชุมชนต้องมีส่วนร่วมในการออกแบบชุมชนของตนเอง เนื่องจากประชาชนในแต่ละหลังคาเรือนมีความหลากหลายทั้งในเรื่องของจำนวนคนในครอบครัว อาชีพ รวมไปถึงสถานภาพต่างๆ เนื่องจากเมืองที่เป็นธรรมจะต้องเริ่มที่ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการทุกมิติทั้งชีวิตความเป็นอยู่ สาธารณูปโภค การออกแบบที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับตนเอง หากเรื่องพื้นฐานยังไม่เป็นธรรมหรือไม่มีคุณภาพ จะทำให้สิ่งที่ตามมาจะมีความไม่เป็นธรรมสูงขึ้นเรื่อยๆ
นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ เลขาธิการมูลนิธิดวงประทีป กล่าวว่า อยากเห็นเมืองที่เป็นธรรมที่หมายถึงการที่ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาด้านต่างๆ มีความเคารพในสิทธิ มีการช่วยเหลือเกื้อกูลเพื่อจะให้เติบโตอย่างงดงามและก้าวไปด้วยกัน สำหรับคลองเตย เมืองที่เป็นธรรมคือความหมายนี้ เนื่องจากคนในพื้นที่เป็นคนยากจนที่อพยพมา “บุกเบิก” ตั้งแต่ช่วงก่อสร้างการท่าเรือ แต่หลายครั้งก็ถูกว่าเป็นผู้ “บุกรุก” เป็นผู้สร้างปัญหา แต่แท้จริงแล้วเราคือผู้สร้างเศรษฐกิจของประเทศ
อย่างไรก็ตามเพื่อสร้างความเป็นธรรมชาวชุมชนคลองเตยต้องการมีส่วนร่วม ทุกโครงการที่จะเข้ามาดำเนินการในพื้นที่โดยเฉพาะโครงการ Smart Community ที่การท่าเรือเสนอ และได้เสนอเปลี่ยนสีผังเมืองจากสีน้ำเงินส่วนราชการเป็นสีแดง ซึ่งส่งผลกระทบต่อชุมชนคลองเตยมากถึง 26 ชุมชน จาก 43 ชุมชน พี่น้องชาวคลองเตยจึงเสนอ ขอมีส่วนร่วมในการออกแบบพื้นที่และขอ 20% ของพื้นที่ทั้งหมด หรือประมาณ 400 ไร่ เพื่อพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยให้กับชุมชนคลองเตย
“ชุมชนได้ยื่นข้อเสนอมากกว่าสองครั้ง ขอมีส่วนร่วมในการจัดที่อยู่อาศัยและเสนอ
ขอพื้นที่ 20% เพื่อนำที่ดินดังกล่าวมาพัฒนาที่อยู่อาศัย เนื่องจากรัฐบาลก็อยากให้มี Smart Community แต่พี่น้องชาวคลองเตยคิดว่าน่าจะเป็น Smart Khlong Toei City ที่ภาคประชาชนสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการคิดหรือวางแผนร่วมกันในการออกแบบและสร้างเมืองที่น่าอยู่และเมืองที่เป็นธรรมสำหรับทุกคน” เลขาธิการมูลนิธิดวงประทีป กล่าว
ด้าน นางสาวนิตยา พร้อมพอชื่นบุญ แกนนำชุมชนคลองเตย กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดของเมืองที่เป็นธรรมคือการมีส่วนร่วมของผู้อยู่อาศัย ว่าประชาชนในพื้นที่ต้องการอยู่อาศัยแบบไหน
และอยู่ได้โดยมีทุกสิ่งที่จำเป็นอยู่ในพื้นที่ของเมืองที่มาจากการมีส่วนร่วมของประชาชน อาทิ
การเดินทางสะดวก ที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ และสามารถอยู่ได้โดยสอดคล้องกับรายได้ การเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะที่ราคาเป็นมิตร มีคุณภาพและปลอดภัย อาหารราคาถูกรวมไปถึงสิทธิในการอยู่อาศัยในระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมที่ดีมีความปลอดภัยและยั่งยืน
“ตลาดของผู้คนในชุมชนในเมืองนั้นเป็นอาชีพของเขา และชาวบ้านสามารถเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน ดังนั้นบ้านที่อยู่อาศัยต้องมีหลากหลายรูปแบบ ที่มิใช่เพียงไม่ใช่ตึกสี่เหลี่ยมสวยหรูสูงเสียดฟ้าอย่างเดียว เพราะที่อยู่อาศัยต้องเหมาะสมกับความเป็นอยู่ เช่น ถ้าบ้านไม่มีแก๊ส หรือไม่สามารถจุดเตาถ่านได้จะไม่สามารถประกอบหรือขายอาหารได้ เพราะฉะนั้นจะต้องมีความหลากหลายของที่อยู่อาศัยเพื่อให้คนทุกระดับ ทุกอาชีพ ทุกสถานะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในทุกมิติของความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ดังนั้น คนคลองเตยอยากเห็นว่า ชาวบ้านกว่าหมื่นครอบครัวจะได้มีส่วนร่วม ในการคิดและออกแบบบ้านที่ตัวเองต้องการ มีการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกันมีตลาด สนามเด็กเล่น สวนสาธารณะรวมทั้งสถานที่ราชการต่างๆ อย่างโรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก อนามัย โดยทั้งหมดเกิดจากการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน” แกนนำชุมชนคลองเตย กล่าว
นายทวีทอง ลาดทอง สภาองค์กรชุมชนคลองเตย กล่าวว่า ชุมชนคลองเตยได้เสนอทางเลือกให้กับการท่าเรือในการทำโครงการ Smart Community และการเปลี่ยนผังเมืองจากสีน้ำเงินมาเป็นสีแดง โดยจะขอความเป็นธรรมให้พี่น้องที่อยู่ในพื้นที่มานานให้เปลี่ยนสีผังเมืองเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของคนคลองเตยเพราะเป็นพื้นที่ชุมชนดั้งเดิม
ส่วนของเสนอของการท่าเรือที่พี่น้องชาวคลองเตยได้รับ 3 ทางเลือกและมีข้อเสนอกลับไป คือ 1.ข้อเสนอสร้างอาคารชุดให้ชุมชนคลองเตย ชาวชุมชนคลองเตยจึงเสนอขอพื้นที่ในห้องเป็น 36 ตารางเมตร สำหรับครอบครัวเล็ก และ 48 ตารางเมตรสำหรับครอบครัวขยาย
2.ข้อเสนอให้พี่น้องชาวคลองเตยไปตั้งถิ่นฐานที่หนองจอก ชาวคลองเตยเสนอขอที่ดิน 19.5 ตารางวา และขอให้การท่าเรือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างที่อยู่อาศัยให้แล้วเสร็จก่อน พร้อมสลักหลังโฉนดว่าห้ามโอนย้ายหรือขายกรรมสิทธิ์เป็นระยะเวลา 10 ปี เพราะมีบทเรียนในอดีตที่เคยย้ายคนคลองเตยไปอยู่วัชรพลโดยไม่มีการสลักโฉนดที่ดิน แล้วมีการขายกรรมสิทธิ์แล้วมาอยู่ที่เดิม
3.ข้อเสนอให้กลับภูมิลำเนา โดยให้เงิน จำนวน 500,000 บาท ซึ่งพี่น้องชาวคลองเตยเห็นว่าไม่เป็นธรรม เนื่องจากราคา 500,000 บาท ในวันนี้กับในอนาคตไม่เท่ากัน จึงเสนอให้ใช้ราคาคอนโดฯ ในวันที่จะย้ายออกจากพื้นที่เป็นฐานคิดเช่น หากราคาคอนโดฯในวันที่จะย้ายเป็นเท่าไหร่ ก็ให้ส่วนนั้นให้กับคนที่จะกลับไปภูมิลำเนาเพื่อไปตั้งต้นชีวิตใหม่ในอนาคตได้อย่างเป็นธรรม
4.ข้อเสนอที่ 4 ที่การท่าเรือไม่ได้เสนอ แต่เป็นพี่น้องชาวคลองเตยเป็นผู้เสนอเอง คือ ขอที่ดิน 20% ของพื้นที่ทั้งหมด เพื่อพัฒนาพื้นที่การท่าเรือให้เป็นที่อยู่อาศัย สำหรับชาวชุมชนคลองเตยที่ไม่ต้องการย้ายออกจากพื้นที่ ส่วนในเรื่องสีของผังเมือง ชาวคลองเตยเห็นว่าอยากได้สีเพื่อการอยู่อาศัยของชุมชนเดิม เนื่องจากถ้าเป็นพื้นที่สีแดง หรือพื้นที่เชิงพาณิชยกรรมค่าเช่าพื้นที่อาจสูงขึ้นจากราคาภาษีที่ดิน และจะไม่ใช่ 5 บาท / ตารางวา อีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2568ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎรได้จัดรับฟังความคิดเห็น เรื่องที่อยู่อาศัยบนพื้นที่ท่าเรือกรุงเทพฯ ซึ่งชาวชุมชนคลองเตยมีความกังวลในการนำพื้นที่ไปพัฒนาในเชิงพาณิชย์ และย้ำข้อเสนอของการมีส่วนร่วมในการจัดการที่อยู่อาศัย และยืนยันข้อเสนอเรื่องการขอพื้นที่ 20% เพื่อมาจัดการที่อยู่อาศัยให้กับคนในชุมชนโดยประชาชนในชุมชนมีส่วนร่วมในการออกแบบพื้นที่และที่อยู่อาศัยของตน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี