เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 ที่วัดเทพมงคล ต.บุ่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ ถือว่าเป็นวัดเก่าแก่ ก่อตั้งมาพร้อมกับอำเภออำนาจเจริญ มีเจ้าอาวาสผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนหลายรูป ปัจจุบัน ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเทพมงคลยังว่างอยู่ เนื่องจาก พระครูมงคลวรวัตร เจ้าอาวาสวัดเทพมงคล ได้มรภาพเมื่อปลายปี (66) ที่ผ่านมา  วดแห่งนี้ มีพระสงฆ์ สามาเณร จำนวนหนึ่ง รวมถึงคณะกรรมการวัด สังกัดมหานิกาย บนเนื้อที่ 43 ไร่ มีทั้งกุฏิสงฆ์ ศาลาการเปรียญ อุโบสถ ที่พักคนชราและสระน้ำเลี้ยงปลาตามธรรมชาติ โดยกำหนดให้เป็นเขตอภัยทานด้วย

นอกจากนี้ ยังกันพื้นที่จำนวน 6 ไร่ สำหรับจัดตั้งโรงเรียนเทศบาลเมืองอำนาจเจริญ 1.เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมปีที่ 6 ปัจจุบันมีนักเรียนอยู่หลายร้อยคน โดยมีเทศบาลเมืองอำนาจเจริญบริหารกำกับดูแล ส่วนศูนย์รับเด็กก่อนเกณฑ์ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 1 ไร่ ด้านทิศเหนือภายในวัดเทพมงคล รับเด็กอายุ 2 - 3 ขวบ เข้าเรียน โดยมีผู้ปกครองที่มีบ้านพักอยู่ใกล้วัดนำบุตรหลานมาเรียนจำนวนหนึ่ง โดยมีครูพี่เลี้ยงคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

สำหรับหอวัฒนธรรมนิทัศน์ เป็นสถานที่จัดเก็บวัตถุโบราณพื้นบ้านและสิ่งของเครื่องใช้โบราณเก่าแก่ เช่น วัตถุมงคล ไหโบราณอายุ 500 ปี เล่ากันว่า ชาวบ้านใกล้วัดเทพมงคล ขุดขึ้นมาจากที่นาแล้วนำไปเก็บไว้ที่บ้าน เกิดอาถรรพ์ ทั้งพ่อและลูกฆ่าตัวตาย ผู้เป็นภรรยา จึงนำมามอบให้ทางวัดและเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ เชื่อว่า เจ้าของไหโบราณ ต้องการอยู่วัด นอกนั้นก็มีอุปกรณ์ทางการเกษตรและอื่นๆ อีกมากมาย ที่รอให้ผู้ที่หลงใหลนิยมชมชอบในวัฒนธรรมอีสาน วัตถุโบราณเก่าแก่เข้ามาเยี่ยมชม โดยเปิดให้ชมตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น.ทุกวัน แบบฟรี เพื่อต้องการอนุรักษ์และเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเยาวชนรุ่นหลัง

ส่วนด้านหน้าอุโบสถ จัดเป็นเขตพุทธสถาน ภายในเป็นแท่นประดิษฐานพระพุทธบาทจำลอง โดยมีหลังคาครอบอย่างดี ถัดไปด้านขวา ก็จะพบเห็น เจดีย์ บรรจุอัฐถิ พระสงฆ์ที่เคยจำพรรษาที่นี่ ซึ่งมรณภาพไปแล้ว ตั้งอยู่ไม่สูงมากนัก เพื่อให้พุทศาสนิกชนได้ชม

และขอนำพระธรรมเทศนา อดีตเจ้าอาวาสวัดเทพมงคลเทศนาตอนหนึ่งว่า ทุกวันนี้ ผู้คนเริ่มไม่ค่อยเข้าวัด อาจเป็นเพราะว่ามีบางคนเข้ามาอาศัยผ้าเหลืองหากิน ส่งผลให้วงการพระสงฆ์เสียหาย จึงกระทบมาถึงพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เหมือนคำว่า ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง จึงต้องช่วยกันปกป้อ ศาสนา ไม่ให้คนไม่ดีเข้ามาทำลายไปมากกว่านี้ ซึ่งทุกคนจะต้องสอดส่องและติดตามในพฤติกรรมไม่เหมาะสมของพระสงฆ์บางรูป หากพบเห็น ให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับสึกทันที

อดีตเจ้าอาวาสวัดเทพมงคล กล่าวว่า พุทธศาสนิกชน ญาติโยมทั้งหลาย อย่าเพิ่มเบื่อหน่ายวัด เพราะมีพระสงฆ์บางรูปที่ประพฤติไม่ดี ส่วนพระดีมีอีกมาก ก็ต้องเดินหน้าทำบุญ ทำนุบำรุงพุทธศาสนากันต่อไป

สำหรับการทำบุญ ไม่ว่าทำมากหรือน้อย ก็ได้บุญเหมือนกัน เพราะหลายคนเข้าใจผิด หลงกับการโฆษณาชวนเชื่อ ที่ว่า ทำบุญมากได้มาก ทำบุญน้อยได้บุญน้อย ซึ่งไม่ถูกต้อง ไม่เป็นความจริง หากทำบุญแล้ว จะมากหรือน้อย ถ้าไม่เดือดร้อน กระเป๋าตัวเอง ไม่เป็นหนี้เป็นสิน ไม่เป็นทุกข์ ก็ถือว่า ได้สร้างกุศลบุญแล้ว ถ้าถามว่า แล้วคนที่มีบ้านใหญ่โต มีทรัพย์สินเงินทองเหลือกินเหลือใช้ เวลาเขาทำบุญจะทำบุญบริจาคทรัพย์สินมากๆ จึงทำให้เขารวย ก็ไม่ใช่เสียทีเดียว ชาติก่อนอาจจะทำบุญไว้มาก ประกอบกับชาตินี้ยังไม่หยุดทำบุญ แถมทำบุญไม่ได้ขาด และช่วยเหลือผู้อื่นตลอดเวลา ทำให้ผลทาน ผลบุญ คูณทวีมากขึ้น รวยทั้งเงินทอง บ้านช่อง และมีน้ำใจ จิตใจก็จะมีแต่ความสุข ไร้ทุกข์ ผู้คนรักใคร่ นับถือ นี่แหละผลบุญที่ทำมาทั้งชาตินี้และชาติที่แล้ว

อดีตเจ้าอาวาสวัดเทพมงคล เทศนาท้ายสุดว่า ทุกวันนี้สังคมสับสนวุ่นวายไม่รู้จบ เพราะว่าคนเราขาดศีลธรรมประจำใจ มีความเห็นแก่ตัวกันมาก ถ้าหากมีศีลธรรม ถือศีล 5 ข้อ ที่ว่า ห้ามฆ่าสัตว์ ห้ามลักทรัพย์ ห้ามพูดเท็จ ห้ามดื่มสุรา และห้ามทำผิดในกาม ถ้าหากถือปฏิบัติได้ทั้ง 5 ข้อ สังคมสงบสุข กลายเป็นโลกของคนดี มีศีลธรรม ถ้าปฏิบัติยาก ไม่สามารถทำได้ ขอให้หยุดความเห็นแก่ตัว จะทำให้สังคมสงบสุขและน่าอยู่นั่นเอง...

- 006