สำนักงานพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดราชบุรี จัดโครงการบูรณาการสร้างสรรค์ครอบครัวทุกช่วงวัยในชุมชน หยิบยกภูมิปัญญาพื้นบ้าน ฝึกการปฏิบัติ ทำว่าวปักเป้า สร้างสันทนาการร่วมกันอย่างสนุกสนาน
พาไปดูการจัดกิจกรรมวันครอบครัวแบบสบาย ๆ มีความสุข ระหว่างพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตายาย ผู้ปกครอง นักเรียน หนู ๆ น้อง ๆ ที่ได้ร่วมกันทำว่าวปักเป้าไทย ซึ่งมีมาแต่สมัยโบราณจัดโดย นางสมพิศ หลวงแจ่ม พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดราชบุรี ได้มอบหมายให้นางรุ่งทิพย์ พิษณุ หัวหน้ากลุ่มการพัฒนาสังคมฯ จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นถือเป็นกิจกรรมแรกใน 5 กิจกรรมเป้าหมายที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดราชบุรี กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดโครงการบูรณาการสร้างพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับครอบครัวทุกช่วงวัยในชุมชนระดับจังหวัด และส่งเสริมสัมพันธภาพทุกวันอาทิตย์เป็นวันครอบครัว ประจำปี 2568 (รุ่นที่ 1) ที่ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุตำบลเขาชะงุ้ม อ.โพธาราม โดยมีนายวุฒิภัค จันทร์เมฆา ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคม อบต.เขาชะงุ้ม เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อให้สมาชิกครอบครัวทุกช่วงวัยในชุมชนมาทำกิจกรรมสันทนาการร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งการจัดโครงการรุ่นที่ 1 เป็นการฝึกปฏิบัติสืบสานภูมิปัญญาพื้นบ้าน ทำว่าวปักเป้า มีเด็กและเยาวชน ผู้ปกครองรวม 45 คน มีนายพันธุ์ แก้วนุ้ย ผู้ชำนาญด้านการทำว่าวไทย มาเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ให้กับเด็ก ๆ และผู้ปกครองที่มาร่วมกิจกรรม
เริ่มจากการเตรียมไม้ 2 ชิ้น ได้แก่ ไม้อก และไม้ปีก ใช้เชือกนำมาผูกให้แน่นใช้การผูกเงื่อนสมัยโบราณที่เรียกว่าเงื่อนตะกรุดเบ็ดเข้ามาใช้ในการประดิษฐ์ว่าวปักเป้า ตามขนาดและสัดส่วน เมื่อได้แล้วจึงทากาวที่โครงว่าวนำวางบนกระดาษ ใช้มือลูบให้กระดาษติดกับกาว จากนั้นใช้กรรไกรตัดกระดาษให้ห่างจากโครงว่าวประมาณ 1 เซนติเมตร และใช้กรรไกรตัดแนวเฉียงบริเวณหัวมุมทั้ง 4 ด้านของตัวว่าวเพื่อให้เวลาการพับกระดาษจะเข้ามุมได้สวยงาม เมื่อติดกระดาษออกมาเป็นตัวว่าวเรียบร้อยจึง พู่ห้อยด้านข้าง จากนั้นจึงเจาะซุงว่าวที่บริเวณกลางอกว่าว ติดหางด้วยกระดาษหางว่าว นำไปทดสอบการขึ้น
นางเนตรดวง รูปสูง ผู้ปกครองนักเรียน กล่าวว่า รู้สึกสนุกดี เพลิดเพลิน ทำไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก ได้ความสามัคคีของครอบครัว ลูกกำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงชั้นปีที่ 2 รู้สึกดีได้มาเรียนรู้ นอกจากนี้ยังมีน้อง ๆ นักเรียนจากโรงเรียนวัดเขาส้ม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 5 คน ได้มาเรียนทำว่าวพร้อมกล่าวว่า รู้สึกสนุกมาก ไม่เคยทำว่าวที่ไหนมาก่อน ถือเป็นประสบการณ์ทำว่าวครั้งแรกของชีวิต ก่อนหน้านี้เคยเล่นว่าวมาแล้ว ส่วนน้องผู้ชายอีกคนบอกว่า การทำว่าว ได้ทักษะ ได้สมาธิ โดยมีการสอบถามเด็กหลายคนตอบแบบใช้ความคิดว่า การทำว่าวช่วยฝึกความอดทน กว่าจะทำสำเร็จแต่ละตัวต้องใช้เวลานานและยังได้ความรู้การทำว่าวติดตัวไป แถมยังได้ว่าวกลับวิ่งเล่นที่บ้านอย่างสนุกสนาน เมื่อว่าวชำรุดขาดเสียหาย ก็สามารถหาอุปกรณ์มาทำใหม่ได้
สำหรับบรรยากาศการทำว่าวปักเป้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ทุกคนได้มีการประเมินการร่วมกิจกรรม คิดว่าเด็ก ๆ และผู้ปกครองน่าจะไม่ค่อยให้ความสนใจ แต่ผิดคาด สังเกตทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ปกครองและเด็ก ๆ ต่างตั้งใจฟังวิทยากรที่ใช้ไมโครโฟนอธิบายเทคนิคการทำว่าวอย่างละเอียด แต่ด้วยจำนวนเด็กที่ค่อนข้างมาก อาจจะฟังและทำตามไม่ทัน จึงต้องอาศัยเจ้าหน้าที่และผู้ปกครองช่วยเหลือด้วย ภาพที่ออกมาจึงกลายมาเป็นผู้ปกครองช่วยสอนลูกหลาน ในการผูกเชือกว่าว ส่วนเพื่อน ๆ คนไหนที่ทำเป็นก็จะช่วยสอนเพื่อนที่ยังทำไม่เป็น ทำให้กิจกรรมวันนี้เกิดความประทับใจ ไม่รู้ลืม ทุกคนทำว่าวออกมาได้อย่างสวยงาม มีการระบายสีบนตัวว่าวตามจินตนาการได้อย่างสร้างสรรค์
ช่วงสุดท้ายของเรียนรู้การทำว่าว ได้มีการจัดประกวดว่าวสวยงาม รางวัลที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 และรางวัลชมเชย ถูกผูกได้ตามองค์ประกอบ มีทั้งรอบเด็กนักเรียน และรอบผู้ปกครองทำเอง ชิงรางวัลชนะเลิศเป็นว่าวจุฬาส่ายเร็ว และว่าวปักเป้าลวดลายสวยงามจากวิทยากรมามอบเป็นของขวัญแจกในวันนี้ ท่ามกลางรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข ของการจัดโครงการดังกล่าวของภาครัฐที่ช่วยกันส่งเสริม ฟื้นฟู ว่าวปักเป้าโบราณให้คงอยู่ มีการสืบทอด อนุรักษ์ต่อยอดไปสู่รุ่นเยาวชนต่อไปในอนาคต
นางรุ่งทิพย์ พิษณุ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ กล่าวว่า การทำโครงการนี้ได้มาประชุมกิจกรรมมีอะไรบ้างรวม 5 กิจกรรม โดยการทำว่าวปักเป้า ถือเป็นโครงการแรกที่ได้จัดทำขึ้นที่นี่ ซึ่งมีประโยชน์ช่วยให้เด็ก ๆ ได้ห่างไกลโทรศัพท์มือถือ ห่างไกลจากการเล่นเกม แต่หันมาสนุกสนานไปกับการทำว่าวปักเป้า จึงอยากให้ทุกคนหันมาให้ความสำคัญกับวันครอบครัวให้มากยิ่งขึ้น
นายวุฒิภัค จันทร์เมฆา ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคม กล่าวว่า กิจกรรมวันนี้ถือว่าเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ สืบสานประเพณีดั้งเดิม การทำว่าวทำกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นสิ่งดี ๆ ที่เราได้รับคัดเลือกเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ กิจกรรมนี้ยังคงมีต่อเนื่องไปอีก 4 กิจกรรม หากใครสนใจอยากเข้าร่วมกิจกรรมต่อ ให้แจ้งความประสงค์ทางคณะกรรมการ และโรงเรียนบ้านเขาแหลม โรงเรียนบ้านเขาส้ม และส่งรายชื่อมาทางคณะกรรมการก็จะส่งมาทาง อบต.เขาชะงุ้ม เพื่อจัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้สำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี