เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 เพจเฟซบุ๊ก “Drama-addict” โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า ลูกเพจฝากเตือนภัย เรื่องการแพ้ยารุนแรง ไม่ระบุชื่อยี่ห้อยานะครับ เพราะอาการแพ้ยารุนแรงแบบนี้สามารถเกิดกับยาได้แทบทุกตัว อยู่ที่ว่าจะโชคร้ายไปมีอาการตอนใช้ยาตัวไหนเข้า แต่ถ้ามีอาการสงสัยว่าจะแพ้ยา ต้องรีบหาหมอให้ไวเลย เพราะถ้าแพ้ยารุนแรงอาจถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิตได้
อยากให้ช่วยแชร์ เรื่องระมัดระวังการใช้ยาด้วยนะคะ แพ้ยาแก้ปวดรุนแรงค่ะ Stevens Johnson Syndrome ค่ะ ทานยากลุ่มแก้ปวดมา ไม่เคยแพ้เลยค่ะ แต่พอมาทานยาตัวนี้คือแพ้รุนแรงเลยค่ะ
รักษาอยู่ห้อง ICU 36 วัน ทางคุณหมอไม่ให้ออกไปพักฟื้นข้างนอก เพราะกลัวแผลจะติดเชื้อค่ะ อยู่ตั้งแต่วันแรกจนออกจากโรงพยาบาลค่ะ
ยาตัวนี้หนูทานแล้วนอนค่ะ ตื่นมาปากบวม หน้าเป็นตุ่มแดง ช่วงปากลอกเหมือนแผลร้อนใน มีไข้สูง ยังไม่ได้ไปโรงพยาบาลนะคะ คิดว่าเป็นอีสุกอีใสพอช่วง 1-2 ทุ่ม ถึงได้ไปโรงพยาบาลค่ะ คิดว่าน่าจะแพ้ยา
ปัจจุบันหนูออกจากโรงพยาบาลได้ 3 เดือนแล้วค่ะ ตอนนี้ผลที่ตามมาคือทางด้านตาค่ะ เนื่องจากตาบวมเปลือกตาติดกัน ทำให้เปลือกตามีปัญหาด้วยค่ะ ตอนนี้ต้องคอยหยอดน้ำตาเทียมทุก 2 ชั่วโมงค่ะ มีอาการตาแห้งน้ำตาไหลค่ะ
อันนี้จากโพสที่เจ้าตัวเคยเล่าไว้ตอนปลายปี ตอนเพิ่งป่วยหนักจากเรื่องนี้ steven johnson syndrome/ toxic epidermal necrolysis (พึ่งดูจากใบรับรองแพทย์มา) แพ้ยา ไม่ใช่เรื่องตลก บางคนโชคดีไม่แพ้ แต่เราไม่ใช่ วันที่ 26 กันยายน 2567 ได้เข้าโรงพยาบาลเลือกรักษาที่ศูนย์การแพทย์แม่ฟ้าหลวง เพราะว่าพึ่งรู้ว่าตัวเองแพ้ยาขั้นรุนแรง ไข้ปาไปถึง 40 องศา เข้าห้อง ICU พี่พยาบาลพากันเช็ดตัว ไข้ไม่ลด ต้องพากันทำซ้ำอีกรอบแบบน้ำชุ่มตัว
อิฉันตอนมีสติก็สั่นไปเลยสิคะ ห้องแอร์อีก จะเล่าเท่าที่จำได้อะนะ อีกวันรอดูอาการก็เริ่มแย่ คุณหมอสั่งยาจาก กทม. สั่งเช้าตอนบ่ายๆ มาถึงก็ฉีดเลย 2 เข็ม ตุ่มผื่นเลยหยุดลาม อีกช่วง 1 อาทิตย์ให้หลังนี่แหละช่วงวิกฤต ผิวหนังเริ่มพุพอง ตาเริ่มบวมจนเริ่มติดกัน คุณหมอตามาช่วยดูแล ตาต้องครอบคอนแทคเลนส์ไว้ตลอดตาเริ่มมัวมองไม่ชัด ต้องหยอดน้ำตาเทียมตลอด มาที่หน้าคือบวมไม่ไหว เนื้อเยื่อในปากเริ่มลอกหลุดออกมา
ใครที่ได้ไปเยี่ยมเห็นช่วงนั้นคือ สุดๆ ละ คุณหมอทางด้านสกินเข้ามาดูแลต่อเรื่องผิวว่าจะทำยังไงต่อไป จากนี้เริ่มจำไม่ค่อยได้ละเพราะยา หมอต้องจ่ายยาหนักเพราะจะได้ไม่รู้สึกเจ็บ ค่อยๆ ทำมาเป็นขั้นตอนรักษามาเรื่อยๆ เข้าห้องผ่าตัดนี่ 2 รอบได้ คุณหมอดูแลเต็มที่ ตัดมาที่หมอตา คุณหมอสั่งเนื้อเยื่อหุ้มให้จากเชียงใหม่ แต่ช่วงนั้นน้ำท่วมต้องรอ ได้ผ่าอีกทีวันที่ 16 ตุลาฯ ได้ตัดไหมวันที่ 31 วันที่ 1 พฤศจิกาฯ ก็กลับบ้านเลย
ผมนี่ไม่รอด ผมร่วงมาก สุดท้ายแล้วต้องโกนรอขึ้นพร้อมกันทีเดียว ตอนนี้กลับบ้านแล้ว ผิวคิ้วขนตาผม รอฟื้นฟูไปอีกเป็นปี แต่แผลนี้คุณหมอบอกว่าไม่เป็นรอยแผลเป็น ไม่ต้องเป็นห่วง รอฟื้นฟูยาวๆ คิดแง่บวกคือ อิฉันได้ผิวใหม่ ปลอบใจตัวเองไม่ต้องเครียด ไม่ต้องคิดมาก เดี๋ยวมันก็กลับมาเหมือนเดิม
อิฉันว่าฉันเก่งละนะทำใจยอมรับมันได้…. แต่ว่า…พ่อกับแม่เก่งที่สุดที่ผ่านมาได้เช่นกัน แบบที่สุด ทนเห็นอะไรหลายๆ อย่างได้ยินเสียงร้องไห้ แต่เราได้แต่นอนฟัง ตอนนี้ผ่านมาละ จะกลับมาตั้งใจกว่านี้ เป็นลูกที่ดีกว่านี้…เคยคิดลบกับตัวเองแล้วครั้งนึง แต่ครั้งนี้ไม่แล้ว ใครที่กำลังท้อหรืออะไร คุณไม่ได้ตัวคนเดียวนะ คุณยังมีครอบครัว คนที่รักคุณ เพื่อน ญาติพี่น้อง เขาอยู่ข้างคุณเสมอนะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี