วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกรณี เหตุการณ์ชายตบหน้าพยาบาล 2 ครั้งที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ใน จ.ระยอง เนื่องจากไม่พอใจที่พยาบาลเตือนภรรยาของผู้ก่อเหตุ ให้พาลูกเล็กออกไปจากห้องผู้ป่วย หลังพยายามพาลูกเข้าไปเยี่ยมคุณยายที่ป่วยไข้หวัดใหญ่ติดเชื้อลงปอด แต่เนื่องจากเตือนหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายใช้ถ้อยคำที่กระทบความรู้สึก จนภรรยาและลูกกลับไปเล่าให้สามีที่รออยู่ด้านนอกฟัง สามีจึงกลับเข้ามาถามว่าใครพูดไม่ดีกับภรรยาของเขา ก่อนจะโกรธและใช้กำลังทำร้ายพยาบาล หลังเกิดเหตุพยาบาลได้แจ้งความและยืนยันว่าจะดำเนินคดีถึงที่สุด
ในรายการมีการโฟนอิน ทั้งฝ่ายคุณปราย พยาบาลที่ถูกตบหน้า และเปิดใจ ภรรยาฝ่ายคู่กรณีเป็นครั้งแรกด้วย
คุณหนู ภรรยาของชายที่ตบพยาบาล โฟนอินในรายการ เริ่มต้นด้วยการขอโทษพยาบาลที่ถูกทำร้าย ขอโทษพยาบาลและทางโรงพยาบาลที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เราเองก็ต่อว่าสามี ไม่เห็นด้วยกับเรื่องการใช้ความรุนแรง เรื่องนี้เรายอมรับผิด
แต่เหตุการณ์ที่เกิดในวันดังกล่าว สามีเป็นคนพาลูกไปตรงห้องที่จะเยี่ยมคุณยาย พยาบาลคนแรก (ไม่ใช่คนที่ถูกตบ) เป็นคนเตือนก่อน เตือนด้วยคำพูดที่ดีมาก บอกว่า ไม่อยากให้พาเด็กเข้ามาเลยค่ะ คุณพ่อก็บอกว่า ยายติดไข้จากน้องคนนี้แหละ น้องเพิ่งหาย เขาเป็นหลานคนโปรด อยากให้ยายได้เห็นหน้าหลาน จะได้มีกำลังใจ พยาบาลก็เข้าใจ เหมือนกับว่าเราขออนุญาตแล้ว แต่เขาบอกว่าให้รอก่อน เพราะคุณยายยังต้องเช็ดตัว เปลี่ยนชุด พ่อก็เลยพาน้องออกมา
ต่อมาเราเป็นคนพาลูกเข้าไป จะให้ไปเยี่ยมคุณย่า พยาบาลคนที่ถูกทำร้ายเขาเดินออกมา แล้วพูดว่า สูญเสียแม่ไปคนแล้ว จะสูญเสียลูกอีกคน ยอมรับได้เหรอ พาเด็กออกไป
เราก็รับสภาพ เราก็พาลูกออกมา ยอมรับว่าใจเสีย ลูกเราก็ถามว่า ทำไมพี่พยาบาลถึงดุเรา เขาไม่ขอโทษหนูเลย เขาไปเล่าพ่อเขาแบบนั้น ส่วนเราก็บอกสามีว่า วันนี้เรากลับก่อนดีกว่า เขาไม่ให้เด็กเยี่ยม แต่ว่าขอให้สามีไปดูแม่หน่อยก่อนจะกลับ
พอสามีไปยืนดูแม่ ก็เห็นว่าแม่อาการหนักจริงๆ แล้วคำพูดของพยาบาลที่พูดกับเราคงแวบเข้ามาในความคิด ทำให้เขามีอารมณ์แล้วก็ไปลงมือทำแบบนั้นลงไป
อยากให้แยกเรื่องนี้เป็นสองประเด็น ประเด็นแรกเราทำร้ายร่างกาย เราผิดแน่ๆ เราไม่มีข้อแก้ตัว เรายอมรับผิดที่ไปใช้ความรุนแรง ดำเนินคดีตามกฎหมาย เราก็ต้องยอมรับผลที่ตามมา อันนี้ประเด็นที่หนึ่ง
ประเด็นที่สอง อยากฝากถึงบุคลากรทางการแพทย์ เราเข้าใจว่างานนี้มันเหนื่อย มันเครียด แต่เวลาที่ตาสีตาสา ชาวบ้าน คนยากคนจนไปโรงพยาบาล อยากให้พูดกับเขาดีๆ ได้ไหม เพราะญาติคนไข้เขาไป ก็ไปในสภาพที่หนักเหมือนกัน บางคนก็ไปในสภาพที่ญาติอาการหนัก โคมา ไม่รู้จะรอดหรือไม่รอด เราต้องพูดเรื่องในภาพรวม ไม่ใช่เฉพาะเรา ต่างฝ่ายต่างกดดันในมุมของตัวเอง เราก็อยากให้เคสของเรามันเป็นตัวอย่าง เป็นบรรทัดฐาน ไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ก็อยากให้พิจารณาว่าเรื่องนี้มันไม่ควรเกิดขึ้นอีกเลย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี