วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 รายการโหนกระแส ดำเนินรายการโดย หนุ่ม กรรชัย เชิญ คุณซาร่า ผู้เสียหายที่อ้างว่าถูกน้องหญิงและท่านพี่มารักษาอาการป่วย พร้อมเข้ามาอยู่ภายในบ้าน โดยมี กัน จอมพลัง และทนายแก้ว ร่วมรับฟัง

เรียกว่ากลายเป็นประเด็นร้อน เรื่องราวของ “น้องหญิง-ท่านพี่” สำนักคลื่นพลังบุญพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ เปิดรับรักษาผู้ป่วย ที่แดนธรรมสุขาววะดี บ้านโนนตาแสง หมู่ 6 ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี จนเป็นข่าวโด่งดัง ซึ่งหลังจากที่โด่งดังขึ้นมา กลุ่มคลื่นพลังบุญ เดินทางไปพักอาศัยกับ “คุณซาร่า” ศิษย์เอกที่ จ.ชลบุรี ล่าสุดทราบว่า ซาร่า กับ กลุ่มของน้องหญิง แตกหักกัน โดยซาร่า ออกมาแฉแหลก 

คุณซาร่า เล่าว่า ที่ผ่านมาไม่เคยรู้จักอาจารย์น้องหญิงกับท่านพี่มาก่อนจนกระทั่งเริ่มเป็นกระแสข่าวและตนมีอาการเจ็บป่วยเป็นโรคกรดไหลย้อนลูกชายจึงแนะนำว่าให้ไปหาอาจารย์น้องหญิงและท่านพี่ช่วยรักษาด้วยคลื่นพลังบุญ ตนจึงติดต่อหาอาจารย์น้องหญิงและท่านพี่ซึ่งตนจำได้ว่าวันนั้นเป็นวันที่ทั้งคู่มาออกรายการโหนกระป๋อง

โดยหลังจบรายการรถตู้ได้ไปส่งอาจารย์น้องหญิงและท่านพี่รวมถึงพี่โดมที่ร้านกาแฟของตนในอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ทำให้ตนและอาจารย์น้องหญิงและท่านพี่เริ่มรู้จักกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

คุณซาร่า ตนยังโชว์ไม้กายสิทธิ์ ให้ทีมข่าวเราดูด้วย พร้อมบอกว่า อาจารย์น้องหญิงและท่านพี่มอบให้เป็นอาวุธประจำกาย โดยอาจารย์น้องหญิงและท่านพี่บอกกับตนว่า ให้ใช้อาวุธนี้ในการปราบเหล่าวิญญาณร้าย แล้วตนต้องตาม อาจารย์น้องหญิงและท่านพี่ไปทำภารกิจ ช่วยเหลือมวลมนุษยชาติทุกที่

ซึ่งมีอยู่ครั้งหนึ่งตนติดตามอาจารย์น้องหญิง และท่านพี่ไปที่จังหวัดตากปรากฏว่า อาจารย์น้องหญิงไปหยิบหินขึ้นมาชิ้นหนึ่งและบอกกับตนว่า เมื่อหลายพันล้านปีก่อนตนเกิดเป็นไดโนเสาร์ และก้อนหินก้อนนี้ก็คือกระดูกของตนเมื่อหลายพันปีก่อนให้ตนเก็บติดตัวไว้ ซึ่งตอนนั้น ในหัวของตนมีทั้งเชื่อและไม่เชื่อ แต่สุดท้ายก็ยอมฟังและทำตามที่ อาจารย์น้องหญิงบอก

หลังจากนั้นอาจารย์น้องหญิงและท่านพี่ก็ใช้ชีวิตกินอยู่ที่ร้านกาแฟของตนซึ่งเปิดเป็นโรงแรมด้วย ตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันตนต้องทำหน้าที่ดูแลและคอยซัปพอร์ตทุกอย่างทั้งเรื่องอาหารการกินเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายต่างๆ โดยที่ตนเป็นคนออกเงินจ่ายให้ทั้งหมด รวมๆกว่า 2 ล้านบาท ล่าสุดมีการขอพาหนะประจำกายด้วย ตนก็ควักเงินถอยรถตู้ให้โชคดีที่คนรอบข้างทักท้วงไว้ก่อนจึงยังไม่มีการโอนเป็นชื่ออาจารย์น้องหญิงหรือท่านพี่

ระยะหลังตนเริ่มเอะใจหลายอย่างเกี่ยวกับเรื่องค่าใช้จ่ายที่ต้องดูแลอาจารย์น้องหญิงและท่านพี่ เมื่อตนรู้สึกสงสัยและตั้งคำถามก็จะทำให้อาจารย์น้องหญิงไม่พอใจ ตำหนิตนต่างๆนานา จนตนรู้สึกทนไม่ไหวและพยายามตีตัวออกห่าง 

กิ่งไม้ที่เอามาวาง บอกว่าเป็นอาวุธใช้ในการฟาดฟันเหล่ามาร เคยให้ฟันแดร็กคูลามาแล้ว แล้วที่สำคัญก็คือเหล่ามารทั้งหลายในสังคม ได้แก่ หนุ่ม กรรชัย, ป๋อง กพล, โอ๊ตปราโมทย์ สามคนที่เป็นเหล่ามารมาผจญพวกเขา ดังจะเห็นได้ในรายการโหนกระป๋องที่เชิญเขามาออกรายการ แล้วเหมือนไปพูดจาในลักษณะไม่เชื่อฟังเขา แล้วยังมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม กับ แพรรี่ ไพรวัลย์ ที่บอกว่าสองคนนี้เป็นมาร ต้องเอาตุ๊กตามามัดรวมกันเพื่อให้เกิดเรื่องอื้อฉาว ทำลายเหล่ามาร

แล้วยังมีตอนที่เขาเลื่อนไปเจอข่าว หนุ่ม กรรชัย บริจาคเงินช่วยน้ำท่วม เขาก็บอกว่า นี่เป็นการทำบุญเอาหน้า เราก็งงว่า เขาอ้างตัวเป็น พระศรีอาริย์ แล้วทำไมไม่ยินดีกับการสร้างบุญของคนอื่น 

คุณซาร่าเล่า คือเรื่องที่เชื่อว่า น้องหญิงและท่านพี่โกหกหลอกลวงกุเรื่องต่างๆขึ้น เช่น อ้างว่าตัวเองเคยเกิดเป็น หลวงปู่ทวด , จิ๋นซีฮ่องเต้ , รวมไปถึงลูกศิษยต่างๆ ก็จะเคยเกิดเป็นตัวละครต่างๆ ในวรรณคดีอย่าง พระอภัยมณี มีลูกศิษย์ของเขาที่เคยเกิดเป็นสุดสาคร ส่วนคุณซาร่าเคยเกิดเป็นผีเสื้อสมุทร กับนิทานอีกหลายเรื่องที่เป็นเรื่องแต่ง ตัวน้องหญิงจะเคยเกิดเป็นนางเอก ส่วนคุณซาร่าจะเป็นตัวร้ายในเรื่องนั้นเสมอ สุดท้ายจะต้องถูกบังคับให้กราบเท้าเขา เพราะเราคือคนที่เคยล่วงเกินเขาในนิทานเรื่องนั้นๆ

ที่หนักที่สุด คือน้องหญิงเคยถามหาวิกผมสีทอง เพราะเขาบอกว่าเขาเคยเกิดเป็น “ราพันเซล” เจ้าหญิงดิสนีย์ผมยาวที่ถูกขังบนหอคอย  และยังบอกว่าเคยเกิดเป็น “บาร์บี้” และสั่งให้คุณซาร่าไปสั่งผลิตตุ๊กตาบาร์บี้รุ่นของน้องหญิงด้วย แต่ในโรงงานในประเทศไม่มีผลิตแล้ว เกือบจะต้องบินไปจีนเพื่อสั่งผลิตตุ๊กตาบาร์บี้รุ่นน้องหญิงอยู่แล้ว แต่เผอิญมาผิดใจกันเสียก่อน แล้วยังมีเสื้อยืดกันโรคภัย ที่อาจารย์น้องหญิงและท่านพี่ สั่งให้ไปผลิต แล้วให้คนใส่เพื่อให้หายเจ็บป่วย ปรากฏว่าพอคุณซาร่ารู้สึกว่าไม่ถูกต้อง ก็เลยอยากลองของ เพราะอาจารย์บอกว่า ขอแค่คิดจะหลบหลูหรือไม่เชื่อาจารย์ ก็จะเจอแต่เรื่องไม่ดี เจอหายนะ คุณซาร่าก็เลยเอาเสื้อไปเช็ดเท้า แล้วเอาไวม้ที่บอกว่าเป็นอาวุธไปขุดดิน ปัจจุบันก็ยังปกติดีไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เรื่องเสื้อนี่มีประเด็น เพราะมีน้องคนหนึ่งชื่อวิทยา มีโรคประจำตัว พอเชื่ออาจารย์ แล้วไม่ยอมกินยาประจำตัว เพราะอาจารย์น้องหญิงสั่งไม่ให้กิน ปรากฏว่าอาการทรุดลงจนเกือบตาย สุดท้ายได้สติกลับมากินยาถึงรอดมาได้ เรื่องนี้เป็นประเด็นที่ ดร.ธนกฤต ผู้ช่วยรัฐมนตรี สธ.เคยเตือนไว้ตั้งแต่ครั้งที่แล้วว่า ความเชื่อต่างๆ ที่ทำให้คนหลงผิด ไม่ยอมเข้ารับการรักษาที่ถูกต้อง อาจนำไปสู่ความสูญเสียได้จริงๆ