วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 นพ. ศุภฤกษ์ วิจารณาญาณ หรือ หมอโอ๊ค DoctorSixpack เจ้าของเพจฯ หมอโอ๊ค DoctorSixpack โดยหัวข้อระบุว่า  การดื่มน้ำหวานความเข้มข้น100% ทุกวัน อาจทำให้ตับล้มเหลว ไตเสื่อมรุนแรง เซลล์สมองถูกทำลาย และเสี่ยงต่อการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากภาวะแทรกซ้อนรุนแรงของโรคเบาหวานและหัวใจ

ผลเสียต่อร่างกายจากการดื่มน้ำหวานความหวาน 100% ทุกวัน

ผลต่อระบบเมตาบอลิซึม

ภาวะดื้อต่ออินซูลิน เมื่อดื่มน้ำตาลปริมาณมากเป็นประจำ ร่างกายจะผลิตอินซูลินในปริมาณสูงต่อเนื่อง ทำให้เซลล์ต่างๆ ตอบสนองต่ออินซูลินลดลง นำไปสู่ภาวะดื้อต่ออินซูลิน

โรคเบาหวานชนิดที่  เป็นผลสืบเนื่องจากภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่ออวัยวะต่างๆ

ไขมันสะสมในตับ น้ำตาลส่วนเกินจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมในตับ นำไปสู่โรคตับอักเสบจากไขมัน (Non-alcoholic fatty liver disease)

ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด

ความดันโลหิตสูง  น้ำตาลปริมาณมากกระตุ้นให้ร่างกายเก็บโซเดียมมากขึ้น และส่งผลต่อความยืดหยุ่นของผนังหลอดเลือด

ไขมันในเลือดผิดปกติ  น้ำตาลจะถูกเปลี่ยนเป็นไตรกลีเซอไรด์ ทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์และ LDL (ไขมันเลว) สูงขึ้น

หลอดเลือดแข็งตัว ภาวะการอักเสบเรื้อรังจากน้ำตาลสูงทำให้หลอดเลือดแข็งตัว เสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง

ผลต่อระบบไต

ไตทำงานหนัก ระดับน้ำตาลในเลือดสูงทำให้ไตต้องกรองมากขึ้น เกิดความเสียหายต่อหน่วยกรองของไต

โรคไตเรื้อรัง การบาดเจ็บต่อไตอย่างต่อเนื่องนำไปสู่การสูญเสียหน้าที่ของไตอย่างถาวร อาจรุนแรงถึงขั้นต้องล้างไต

ผลต่อระบบประสาทและสมอง

การอักเสบของเซลล์ประสาท น้ำตาลปริมาณสูงกระตุ้นการอักเสบในสมอง ส่งผลต่อการทำงานของเซลล์ประสาท

ความเสื่อมของสมอง การบริโภคน้ำตาลสูงต่อเนื่องเชื่อมโยงกับความเสี่ยงของโรคสมองเสื่อมและอัลไซเมอร์

ภาวะซึมเศร้า น้ำตาลส่งผลต่อสารสื่อประสาทในสมอง เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าและความผิดปกติทางอารมณ์

ผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน

ภูมิคุ้มกันบกพร่อง น้ำตาลสูงลดประสิทธิภาพของเซลล์เม็ดเลือดขาว ทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้แย่ลง

การอักเสบเรื้อรัง น้ำตาลกระตุ้นการอักเสบทั่วร่างกาย ซึ่งเป็นรากฐานของโรคเรื้อรังหลายชนิด

ผลต่อระบบย่อยอาหาร

เปลี่ยนแปลงจุลินทรีย์ในลำไส้ น้ำตาลเป็นอาหารของแบคทีเรียก่อโรค ทำให้สมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้เสียไป

ความผิดปกติของกระเพาะอาหารและลำไส้ เพิ่มความเสี่ยงต่อกรดไหลย้อน ท้องอืด แก๊ส และอาการระคายเคืองลำไส้

ผลต่อผิวหนังและความชรา

เร่งกระบวนการชรา น้ำตาลทำปฏิกิริยากับโปรตีนในร่างกาย (glycation) ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่เร่งความชรา

สิว และปัญหาผิวหนัง น้ำตาลสูงกระตุ้นการอักเสบและการผลิตน้ำมันบนผิวหนัง เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดสิว

ผลต่อน้ำหนักตัว

โรคอ้วน น้ำตาลให้พลังงานสูงโดยไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ นำไปสู่การสะสมไขมันและโรคอ้วน

ความผิดปกติของฮอร์โมนควบคุมความอยากอาหาร**: น้ำตาลรบกวนการทำงานของฮอร์โมนเลปติน และกรีลิน ทำให้รู้สึกหิวบ่อยและควบคุมความอยากอาหารได้ยาก

ผลต่อการติดสารเสพติด

ภาวะเสพติดน้ำตาล น้ำตาลกระตุ้นระบบรางวัลในสมองคล้ายสารเสพติด เกิดอาการถอนและความต้องการบริโภคเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ผลกระทบต่อสุขภาพจิต เมื่อเกิดการเสพติด จะส่งผลต่อความเครียด ความวิตกกังวล และพฤติกรรมการกินผิดปกติ