คณะผู้บริหาร สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จาก สปสช. เขต 11 สุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ จ.ระนอง เพื่อเยี่ยมชมบริการฟื้นฟูสมรรถภาพให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายขององค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง (อบจ.ระนอง) ประกอบด้วย คนพิการ ผู้สูงอายุผู้ป่วยที่อยู่ในระยะกึ่งเฉียบพลัน และผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน ผ่านงบประมาณกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพระดับจังหวัด อบจ.ระนอง เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2568 ที่ผ่านมา

นายสีหราช สรรพกุล นายก อบจ.ระนอง กล่าวว่า งบกองทุนฟื้นฟูฯ อบจ.ระนอง ส่วนใหญ่ใช้ไปกับการปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งต้องได้รับการช่วยเหลือ โดยปี 2567 ใช้ไปจำนวนร้อยละ 13.5 ของกองทุนฯ มีการปรับปรุงสภาพบ้าน 6 ราย รวมงบประมาณ 234,889 บาท ครอบคลุมทั้งในพื้นที่เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) 3 แห่ง

อย่างไรก็ดี สาเหตุที่ขับเคลื่อนได้น้อย เพราะเป็นภารกิจใหม่ของ อบจ.ระนองที่ไม่เคยทำมาก่อน แต่หลังผ่านไป 1 ปีก็มีความคล่องตัวขึ้น และประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในระนองอีก 3 แห่ง เพื่อค้นหากลุ่มเป้าหมายที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลจากกองทุนฟื้นฟูฯ ทำให้ปี 2568 ได้มีการปรับสภาพบ้านให้กลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 27 ราย และจะใช้งบประมาณกองทุนฟื้นฟูฯ จำนวน 948,306 บาท และในปีต่อไปอบจ.ระนอง ก็จะประสานกับ อปท.ต่างๆ ในจังหวัดเพื่อขับเคลื่อนให้มากยิ่งขึ้นด้วย

“ด้วยความร่วมมือ อปท. ในพื้นที่ทำให้ค้นหากลุ่มเป้าหมายได้ ทำให้เข้าถึงสิทธิประโยชน์ที่ควรได้รับ โดย อบจ.ระนอง จะขยายการดูแลประชาชนโดยใช้กลไกของกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพฯ นี้ ภายใต้แนวคิด “ท้องถิ่นปรองดอง คนระนองมีที่พึ่ง” พร้อมกันนี้ยังเตรียมจัดตั้ง “ศูนย์สาธิตยืมอุปกรณ์และเครื่องช่วยเหลือความพิการ” โดยประสานร่วมกับโรงพยาบาลละอุ่น คาดว่าใช้งบประมาณ 102,000 บาท ซึ่งจะเป็นศูนย์ที่ให้บริการยืมอุปกรณ์และเครื่องช่วยเหลือความพิการให้แก่ประชาชนชาวระนองได้ใช้ประโยชน์” นายก อบจ.ระนอง กล่าว

นายสีหราช ยังกล่าวอีกว่า ปี 2568 กองทุนฟื้นฟูฯ จ.ระนอง มีงบประมาณจำนวน 5,395,050.84 บาท โดยจัดสรรจาก สปสช. 1,150,000 บาท และ อบจ.ระนอง สมทบ 1,150,000 บาท อีกทั้งยังมียกมาจากปี 2567 อีกจำนวน 3,095,050.84 บาท เพื่อใช้ดูแลสุขภาพประชาชนชาวระนอง โดยปี 2568 จะดำเนินงาน 3 แผนงาน คือ 1.จัดตั้งศูนย์ให้บริการยืมอุปกรณ์การฟื้นฟูสมรรถภาพในชุมชน และการปรับสภาพบ้านจำนวน 3,900,000 บาท 2.สนับสนุนการจัดบริการและอุปกรณ์ช่วยความพิการจำนวน 1,150,050.84 บาท และ 3. งบบริหารจัดการจำนวน 345,000 บาท

ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ ยังมีการเยี่ยมบ้านผู้ป่วยที่ได้รับการปรับปรุงให้เหมาะสมกับสุขภาพ โดยเป็นบ้านของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ในพื้นที่ อบต.ทรายแดง โดย อบจ.ระนอง และ อบต.ทรายแดงได้ใช้งบกอบทุนฟื้นฟูฯ 40,000 บาท ปรับปรุงห้องน้ำและติดตั้งอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยขณะใช้งาน นอกจากนี้ยังไปเยี่ยมบ้านคนพิการในพื้นที่ อบต.บางแก้ว ที่ อบจ.ระนอง และ อบต.บางแก้ว ได้ปรับปรุงบ้านที่พักอาศัยให้ โดยมี นายเจษฎา ชูชาติ นายกองค์การบริหารตำบลบางแก้วนำลงพื้นที่

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า กองทุนฟื้นฟูฯเป็นกลไกที่ สปสช. ร่วมมือกับ อบจ. ทั่วประเทศ สมทบงบประมาณค่าบริการสาธารณสุข 8 บาทต่อประชากร ในการขับเคลื่อนบริการฟื้นฟูสมรรถภาพที่จำเป็นต่อสุขภาพในจังหวัด และตอบสนองความต้องการที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของประชาชน ช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นขณะนี้มี อบจ.ทั่วประเทศรวม 71 แห่ง หรือร้อยละ 92 ที่ใช้กองทุนฟื้นฟูฯ ขับเคลื่อน อย่างที่ อบจ.ระนองนี้ ได้ใช้กองทุนฟื้นฟูฯ ในการปรับปรุงที่พักอาศัยให้กลุ่มเป้าหมาย

ซึ่งปี 2567 แม้ทำได้ไม่มากนัก แต่ในปี 2568 มีแผนที่จะขยายให้บริการมากขึ้น โดย สปสช. ยินดีอย่างยิ่งที่จะสมทบงบประมาณเพิ่มขึ้น และขอให้มั่นใจว่า การใช้งบกองทุนฟื้นฟูฯ นี้ สปสช. ทำการบ้านและหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ซึ่งมีรายการที่เกี่ยวกับฟื้นฟูสมรรถภาพที่ อบจ. ใช้กองทุนฯ ไปขับเคลื่อนได้อย่างไม่ผิดกติกา โดยสามารถดูข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ สปสช.

“สำหรับที่ จ.ระนอง ยังพบว่าในพื้นที่ห่างไกล สามารถเสริมบริการการแพทย์ทางไกล หรือ Telemedicine (เทเลเมดิซีน) ได้อีก ซึ่งจะทำให้ประชาชน ผู้ป่วยที่ที่ต้องได้รับการติดตามอาการกับหมอ และโรงพยาบาล ให้ได้รับบริการนี้โดยไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล หรือหน่วยบริการซึ่งขณะนี้ สปสช.เขต 11 สุราษฎร์ธานี ที่รับผิดชอบพื้นที่จ.ระนองด้วย กำลังประสานกับหน่วยบริการเพื่อให้เกิดบริการนี้ขึ้น”รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว