‘นิน เพชรพัณณิน’นักการเมืองหญิงเลือดใหม่กระแสแรง ประสบความสำเร็จจากการเป็นประธานสโมสรฟุตบอล สานฝันเด็กไทยสู่อนาคตที่ดี
เพชรพัณณิน พากฤตโยธิน
เป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงกีฬาฟุตบอลภาคใต้ หลายๆคนเรียกเธอว่า "ดอกไม้เหล็กแห่งสนามฟุตบอลภาคใต้" เธอคนนี้คือนักการเมืองหญิงรุ่นใหม่ที่มีกระแสแรงมากขึ้นเรื่อยๆในตอนนี้ หลายๆคนจับตามองเธอเพราะเธอกำลังมีผลงานต่างๆที่น่าสนใจ ทั้งการเป็นประธานสโมสรฟุตบอลและโดยเฉพาะในฐานะนักการเมืองหญิงรุ่นใหม่ ผู้ที่ถูกวางตัวให้เป็นว่าที่ผู้สมัครสส.สายเลือดใหม่ในอนาคต "นิน เพชรพัณณิน" เรียนจบปริญญาโท รัฐศาสตร์การเมืองการปกครองด้วยเกียรตินิยมอันดับสอง เป็นคนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประวัติการทำงานที่ผ่านมาก็ถือว่าไม่ธรรมดา มีประสบการณ์การทำงานหลายด้าน ทั้งการเมือง ธุรกิจ สิ่งแววล้อม กีฬา ในด้านชีวิตส่วนตัวเท่าที่เราทราบมา
ในอดีตเธอเจอปัญหามากมายหลายด้าน แต่ด้วยความที่เธอเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ เธอจึงวางแผนในการแก้ปัญหาต่างๆและสู้มาโดยตลอดจนผ่านพ้นปัญหามาได้
เธอบอกว่าเธอมีครอบครัว มีเพื่อนและมีคนรักที่ดี เป็นแรงผลักดันสำคัญ จนทำให้เธอสามารถกลับมายืนได้อย่างมั่นคงอีกครั้งและมีความเข้มแข็งได้อย่างในวันนี้ เธอจึงเข้าใจปัญหาปากท้องของชาวบ้านเป็นอย่างดี เข้าใจผลกระทบของความเลื่อมล้ำในสังคม นี่จึงเป็นเหตุผลที่เธอตัดสินใจก้าวเข้าสู่สนามการเมืองอย่างเต็มตัวในทุกวันนี้ แต่ตอนนี้เราอยากพามาทำความรู้จักเธอ ผ่านบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาการศึกษาให้กับเยาวชน ปัญหาของระบบการศึกษาในมุมมองของเธอกัน และยังรวมไปถึงการปั้นนักกีฬาเยาวชนสู่นักกีฬาอาชีพที่เธอทำมาตลอด 8 ปีอีกด้วย
"สวัสดีค่ะ" เธอเริ่มทักทายด้วยน้ำเสียงเรียบง่ายเป็นกันเอง ใบหน้าที่มีรอยยิ้มอ่อนๆ แววตาอบอุ่นมุ่งมั่น บุคลิกดี แต่ยังคงแฝงความเท่ในสไตล์ของตัวเธอเอง เรามาฟัง แนวคิดของเธอกันเลยดีกว่า
นินสร้างทีมจ้าวยูไนเต็ดมา 8 ปีแล้วค่ะ
เป็น 8 ปีที่ให้ประสบการณ์ต่างๆมากมาย
แต่สิ่งสำคัญคือการเห็นน้องๆเยาวชนมีอนาคตที่ดี มีที่เรียนต่อ มีอาชีพ มีทุนการศึกษา มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สำหรับนินนั้นคือรางวัลของการทำงานและความสุขค่ะ เพราะการมีชัยชนะในสนาม ไม่เท่ากับชัยชนะในชีวิตจริงค่ะ
หากจะถามถึงแนวทางการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนโดยเฉพาะในด้านการศึกษาและกีฬา นินคิดว่าเราจำเป็นจะต้องติดอาวุธให้เยาวชนด้วยทักษะความรู้ที่หลากหลายและมีความสอดคล้องกับการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบันที่โลกยุคใหม่มีความเปลี่ยนแปลงในหลายๆด้าน
โดยกลไกสำคัญคือ การให้การศึกษาอย่างเท่าเทียม จัดสรรทรัพยากรให้เพียงพอและเสมอภาค ส่งเสริมทักษะและความถนัดแบบครอบคลุม เพราะการศึกษาและการส่งเสริมทักษะเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาประเทศ เราจึงต้องสร้างสังคมที่เป็นธรรมให้กับเยาวชน แต่ด้วยการศึกษาไทยที่มีปัญหารอบด้านและเป็นปัญหาเรื้อรังมาจากอดีตจนทำให้เราต้องเผชิญกับวิกฤต ทั้งเรื่องคุณภาพการศึกษาที่ตกต่ำ ความเหลื่อมล้ำที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ภาระหน้าที่ของบุคลากรทางการศึกษาที่มากเกินไป คุณภาพชีวิตของเด็กที่ตกต่ำ การแก้ไขระบบการศึกษาจึงมีความจำเป็นมาก เพื่อคืนสิทธิ คืนคุณค่า คืนคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับนักเรียนและเยาวชน รวมถึงคุณครูด้วยค่ะ
เราควรผลักดันให้มีการแก้ไข พ.ร.บ.การศึกษาฉบับใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้เรียน บุคลากรทางศึกษา ให้เกิดประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตได้จริง แม้กฎหมายฉบับเดียวจะไม่สามารถแก้ปัญหาด้านการศึกษาได้ทั้งหมดแต่ พ.ร.บ. การศึกษาจะเป็นสิ่งแรกที่สำคัญต่อการวางรากฐานสำหรับระบบการศึกษาที่ตอบโจทย์โลกอนาคต เด็กไทยจะได้มีความรู้เท่าทันโลก ในด้านการส่งเสริมการเรียนรู้ ส่งเสริมทักษะไม่ควรถูกจำกัดอยู่เฉพาะในห้องเรียนเพราะยังมีกิจกรรมอีกมากมายที่ช่วยส่งเสริมทักษะและประสบการณ์ ในการใช้ชีวิตทั้งทางตรงและทางอ้อม นินอยากให้เยาวชนถูกผลักดันเข้าสู่ระบบการศึกษา เพราะในหลายครั้งที่เด็กเจอปัญหา หรือค้นหาตัวเองไม่เจอ พวกเขามักจะถูกผลักออกจากระบบการศึกษาแบบทางอ้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในระบบการศึกษาไทย เพราะหากอยากให้ประเทศของเรามีการพัฒนา และมีเศรษฐกิจที่เจริญเติบโตทันโลกยุคใหม่ และเกิดสังคมที่เป็นสังคมแห่งการพัฒนา สังคมก้าวหน้า บุคลากรในประเทศของเราต้องมีทักษะที่ตอบโจทย์โลกปัจจุบันและอนาคต บุคลากรของประเทศก็คือเยาวชนในวันนี้ที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เป็นพลังขับเคลื่อนประเทศต่อไปค่ะ
การศึกษาจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาประเทศที่เยาวชนทุกคนควรได้รับโดยเท่าเทียมกันค่ะ เพราะการพัฒนาการศึกษาไทยต้องส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาควบคู่ไปกับการยกระดับหลักสูตรและคุณภาพของคุณครูไปพร้อมกันด้วย พรรคการเมืองหลายพรรคพยายามหาเสียง วนอยู่กับเรื่องการเรียนฟรีแต่มองข้ามเรื่องคุณภาพของระบบการศึกษาและมองข้ามคุณภาพชีวิตของเยาวชน
การปฏิรูปการศึกษาให้เท่าทันโลกอนาคต นับว่าเป็นประเด็นที่มีการกล่าวถึงกันมากที่สุดแต่กลับเป็นนโยบายที่ได้รับการขับเคลื่อนน้อยที่สุด นินจึงอยากเป็นส่วนนึงที่ใช้กีฬาเพื่อเข้ามาเป็นตัวช่วยในการพัฒนาชีวิตเยาวชนค่ะ และยังคงเป็นตัวช่วยทางหนึ่งให้เด็กยังคงอยู่ในระบบการศึกษา กีฬาสามารถดึงศักยภาพของเด็กๆออกมาได้ กีฬาสามารถช่วยลดปัญหาในหลายๆด้านได้ไม่มากก็น้อยค่ะ จากการสร้างทีมกีฬาจ้าวยูไนเต็ดมา 8 ปี นินได้เห็นประโยชน์ที่เด็กๆได้รับ และได้เห็นการพัฒนาในทางที่ดีขึ้น มันคือตัวชี้วัดที่ดีในระดับนึงสำหรับการใช้กีฬาเข้ามาเป็นตัวช่วยให้เด็กมีทางเลือกและมีโอกาสสำหรับการขอรับทุนการศึกษาด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นกีฬาด้านใด หรือทักษะแบบไหน หากเราส่งเสริมให้เยาวชนได้แสดงออกอย่างเต็มที่ มันคือเรื่องที่ดีที่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราควรมอบให้กับเด็กๆค่ะ
จากบทสัมภาษณ์นี้ของเธอ นอกจากเราจะได้เห็นแนวคิดใหม่ๆ นโยบายที่ดี เรายังเห็นการวางตัวที่ดีมีไหวพริบ ความมั่นใจในแววตา การใช้ชีวิตเรียบง่ายของผู้หญิงคนนี้ เรามั่นใจได้ว่า "นิน เพชรพัณณิน" คือว่าที่ผู้สมัคร สส. สายเลือดใหม่ พูดได้ว่าเธอคือความหวังใหม่ในอนาคตอย่างแน่นอน ไม่แปลกใจเลยที่เธอกำลังมีกระแสที่มาแรง บทความต่างๆของเธอกำลังถูกกล่าวถึงกันเป็นวงกว้าง และจัดได้ว่าเธอเป็นคนที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากขึ้นเรื่อยๆในปัจจุบันนี้
และตอนนี้เธอยังมีตำแหน่งสำคัญทางการเมืองในการนำความรู้ความสามารถมาช่วยให้เกิดประโยชน์ต่อเยาวชน เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะได้เห็นระบบการศึกษาไทยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยฝากความหวังไว้กับคนรุ่นใหม่ เรายังจะติดตามและนำบทความดีๆของเธอในแง่มุมอื่นมานำเสนอต่อไป แต่เสียดายที่วันนี้คุณนิน ไม่ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว โดยเฉพาะเรื่องความรัก และชีวิตครอบครัว ครั้งหน้าเราคงมีโอกาสสัมภาษณ์คุณนินและคนข้างกายมานำเสนอ เราอาจจะได้ฟังมุมมองการใช้ชีวิตและแนวคิดอื่นๆที่ต่างออกไปมากกว่านี้ ต้องรอติดตามบทสัมภาษณ์ของเธอต่อไปในอนาคต
ติดตามและอัปเดตข้อมูลของคุณนิน ได้ที่ Instagram : ppnnin
เธอเก่ง เท่ มีความสามารถ อย่าพลาดการติดตามเธอและทีมกีฬาของเธอกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี