ประธานเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน อดีตกำนันดังเมืองกาญจน์ วอนกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ผ่อนผันให้ชาวบ้านเข้าเก็บผักหวาน ในเขตป่าสลักพระ เพื่อประโยชน์ของครอบครัว ชี้พวกเผาป่าส่วนใหญ่เป็นพวกเสพยา-ล่าสัตว์ ที่ควบคุมไม่ได้
วันนี้ (12 มี.ค.68) ที่ห้องประชุมจิตเกษม ศูนย์ฝึกอบรมเขื่อนท่าทุ่งนา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หมู่ 1 ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี นายวสันต์ สุนจิรัตน์ ประธานเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน หรือ "ทสม." อดีตกำนันตำบลช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้กล่าวถึงกรณีที่นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ประกาศปิดป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระอย่างถาวรว่า การประกาศปิดผืนป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เราต้องมาดูสาเหตุก่อนว่าทำไมท่านอธิบดีกรมอุทยานฯ จึงประกาศปิดป่า สาเหตุเป็นเพราะมีการลักลอบเผาป่าจนเกิดสถานการณ์ที่รุนแรงเพิ่มขึ้น
ส่วนกรณีการเกิดไฟป่าถ้ามองในภาพรวมแล้วน่าจะเกิดจากฝีมือของพี่น้องประชาชน ที่ปฏิเสธไม่ได้ แต่ที่ผ่านมานั้นมีการรณรงค์ของภาครัฐแต่มันยังไม่ซึมซับถึงประชาชนของเราแค่ในบางส่วนเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่แล้วรู้และเข้าใจถึงปัญหาการเกิดไฟป่าว่ามันมีโทษและพิษภัยมากน้อยเพียงใด และที่สำคัญพี่น้องประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่จะช่วยกันดูแลและรักษาผืนป่าเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดไฟป่าขึ้นในพื้นที่
ถามว่าการประกาศปิดผืนป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ มีผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่หรือไม่อย่างไรนั้น ต้องยอมรับว่าส่งผลกระทบแน่นอนเพราะช่วงนี้เป็นฤดูกาลที่ประชาชนต้องไปหาเก็บผักหวานตามชายขอบป่าทำไม่ได้อีกแล้ว ประชาชนที่เคยพึ่งพาป่าเข้าไปเก็บหาผักหวานตามวิถีชีวิตที่ทำมาตั้งแต่เนิ่นนานไม่สามารถเข้าไปเก็บผักหวานได้อีกเลย เมื่อเข้าไม่ได้เลยทำให้วิถีชีวิตที่ชาวบ้านบางคนเก็บเพื่อนำมาประกอบอาหารเพื่อบริโภคกันในครัวเรือน ส่วนที่เหลือพี่น้องบางคนก็นำไปขายเพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัว แต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ว่าจะใช้ดุลยพินิจอย่างไร
"การที่ชาวบ้านอยู่กับป่ามาอย่างช้านานแต่ไม่อนุญาตให้ชาวบ้านเข้าไปหรือใช้ทรัพยากรจากป่าเลยมันก็จะรู้สึกกระไรอยู่ เพราะที่ผ่านมาชาวบ้านของเราร่วมกันดูแลผืนป่ากันมาโดยตลอดผลที่ได้ก็คือการเก็บหาของป่า เช่น เห็ด หน่อไม้ ผักหวาน เป็นต้น ซึ่งสิ่งนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ชาวบ้านยังต้องพึ่งพาป่าอยู่" นายวสันต์ กล่าว
นายวสันต์ กล่าวต่อว่า ถ้าถามว่าอยากจะให้ท่านอธิบดีกรมอุทยานฯผ่อนผันให้กับชาวบ้านอย่างไรบ้างนั้น เรื่องนี้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระมีพื้นที่อยู่กว่า 5 แสนไร่ ซึ่งมีหน่วยงานคอยดูแลจึงอยากจะให้เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลช่วยประชาสัมพันธ์ในการผ่อนผันให้กับประชาชนที่จะเข้าไปใช้ประโยชน์เพียงเล็กๆน้อยๆ จากป่าได้ เพราะประชาชนส่วนใหญ่เขาช่วยกันดูแลป่ามาตลอด ส่วนคนที่จะเข้าไปลักลอบเผาป่านั้นมีจำนวนน้อยมากส่วนใหญ่เป็นคนที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่นคนที่ติดยาเสพติด รวมถึงพวกที่นิยมเข้าไปล่าสัตว์ป่า ซึ่งคนกลุ่มนี้เราควบคุมไม่ได้ จะต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ เพราะพวกเราเป็นเพียงแค่ชาวบ้าน
"แต่ถ้าหากชาวบ้านเข้าไปเราก็สามารถบอกต่อกันได้ว่าจะต้องรักษาป่าให้คงอยู่หรือให้เพิ่มความชุ่มชื้นเพื่อความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างก็เข้าใจเป็นอย่างดี ยกเว้นพวกที่เสพยาเสพติด" นายวสันต์ กล่าว
นายวสันต์ กล่าวต่ออีกว่า ส่วนกรณีที่มีการจับกุมผู้ลักลอบเข้าไปตัดไม้ไผ่นั้น เรื่องนี้ขอให้ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ และขอให้เจ้าหน้าที่ดูว่าผู้ที่เข้าไปตัดไม้ไผ่เขาเอาไปใช้ประโยชน์อะไร หากชาวบ้านตัดเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในครัวเรือนเพียงแค่เล็กน้อยก็อยากจะให้เจ้าหน้าที่ช่วยผ่อนผันหรืออนุโลมให้ แต่ถ้าหากนำไปเพื่อการค้า ตรงนี้ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามข้อกฎหมาย
ดังนั้น จึงขอประชาสัมพันธ์ไปถึงชาวบ้านที่อยู่โดยรอบเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระทุกคนว่า ในเมื่อเขาประกาศปิดป่าแล้ว เราก็อย่าเข้าไปในป่า แต่เมื่อเข้าไปแล้วต้องช่วยกันดูแลอย่าให้เกิดปัญหาต่อป่าเช่นการเผาป่า การลักลอบตัดไม้ทำลายป่า เรื่องนี้ขออย่าให้เกิดขึ้นอีก เพราะถ้าพวกเราชาวบ้านไม่ช่วยกันดูแลแล้วใครจะช่วยดู จะไปหวังแต่เจ้าหน้าที่ของรัฐคงลำบากเพราะกำลังเจ้าหน้าที่ของรัฐค่อนข้างมีจำนวนน้อยมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ดุแลไม่ทั่วถึง เพราะพื้นที่มีกว่า 5 แสนไร่แต่เจ้าหน้าทีรัฐมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น หากเราช่วยกันรักษาผืนป่าไม่ปล่อยให้เสื่อมโทรมแต่มีแต่ความอุดมสมบูรณ์เพิ่มขึ้น เชื่อว่าอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช คงพิจารณาและอนุญาตให้พวกเราชาวบ้านเข้าไปใช้ประโยชน์ในผืนป่าในดนาคตอย่างแน่นอน --- 001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี