กรมการแพทย์ โดยจักษุแพทย์ รพ.เมตตาฯ แนะนำว่าภาวะความดันตาสูงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคต้อหิน เป็นภัยเงียบที่อาจนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร อาจเกิดจากความดันในลูกตาที่สูงขึ้นจะมีผลทำให้ประสาทตาถูกทำลาย ปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิด ได้แก่ ผู้ที่มีบุคคลในครอบครัวที่เป็นต้อหิน อายุที่เพิ่มมากขึ้น ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิดที่มีการใช้ยาสเตียรอยด์อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน แนะนำควรพบจักษุแพทย์ตรวจสุขภาพดวงตาอย่างสม่ำเสมอ
นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคต้อหินคือโรคที่ขั้วประสาทตาถูกทำลาย เมื่อขั้วประสาทตาถูกทำลายจะมีผลทำให้สูญเสียลานสายตา เมื่อเป็นมากๆ อาจสูญเสียการมองเห็นในที่สุดเป็นการสูญเสียถาวรไม่สามารถกลับคืนมามองเห็นได้ ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุดคือความดันในลูกตาขึ้นสูงผิดปกติ จึงทำให้เกิดภาวะเสื่อมของขั้วประสาทตา นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ อีก
นายแพทย์อาคม ชัยวีระวัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวว่า โรคต้อหินพบได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงผู้สูงอายุ กลุ่มที่พบมาก คือ กลุ่มผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป และมีประวัติคนในครอบครัวเป็นต้อหิน ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดการทำลายขั้วประสาทตาในโรคต้อหิน คือ ความดันตายิ่งสูง ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดต้อหินมากขึ้นและเร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังพบในกลุ่มที่มีโรคการไหลเวียนเลือดไม่ดีทำให้เลือดไปเลี้ยงที่ขั้วประสาทตาลดลง ผู้ที่มีสายตาสั้น หรือยาวมากๆ ก็มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดต้อหินเช่นกัน
แพทย์หญิงอรอร ธงอินเนตร จักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านต้อหิน กล่าวเสริมว่า ภาวะความดันตาสูง คือ การเกิดความดันในดวงตาสูงกว่ามากกว่า 21 มิลลิเมตรปรอท ในผู้ที่อายุ 40 ปีขึ้นไป มีภาวะความดันตาสูงมากถึง 9.4 เปอร์เซ็นต์ และภาวะนี้มีแนวโน้มที่จะพบมากในผู้ป่วยต้อหินมุมเปิด ซึ่งเป็นต้อหินชนิดที่พบบ่อย สาเหตุที่ก่อให้ภาวะความดันตาสูงเกิดจากการรบกวนสมดุลปกติของการผลิตน้ำ และการระบายน้ำออกจากลูกตาที่ลดลง ถ้ามีภาวะความดันสูงอย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้เส้นประสาทตาที่บอบบางถูกทำลาย และทำให้เกิดโรคต้อหินในที่สุด ผู้ป่วยระยะเริ่มแรกมักไม่มีอาการ เช่น ปวดตา หรือตามัว จะสามารถตรวจพบได้จากจักษุแพทย์เท่านั้น ภาวะความดันตาสูงยังมีความสัมพันธ์กับภาวะตาอื่นๆ เช่น โรคม่านตาอักเสบ โรคเบาหวานจอประสาทตา หากมีปัจจัยเสี่ยงข้างต้นแนะนำให้ปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อตรวจตาและวัดความดันตาอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยปีละครั้ง และในผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นต้อหินก็ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดภาวะความดันตาสูงและเป็นต้อหินได้ เช่นเดียวกัน โรคนี้มักไม่มีอาการ จะเริ่มสูญเสียลานสายตา คือ การมองเห็นจำกัดวงแคบลงอย่างช้าๆ จนระยะสุดท้ายอาจสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร ต้อหินบางประเภท เช่น ต้อหินมุมปิดเฉียบพลัน ผู้ป่วยจะมีอาการปวดตามาก ตามัวลง และตาแดง ถือเป็นภาวะเร่งด่วนมากต้องมาพบจักษุแพทย์โดยเร็ว สำคัญที่สุดคือ ผู้ป่วยต้องมาตรวจติดตามอาการ และปฏิบัติตามคำแนะนำของจักษุแพทย์อย่างเคร่งครัด ดังนั้น ในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงดังที่กล่าวมา และผู้ที่มีภาวะผิดปกติของการมองเห็นควรปรึกษาจักษุแพทย์ เพื่อวัดความดันตาและคัดกรองโรคตา และโรคต้อหินอย่างเหมาะสม
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี