นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก "หมอเจด" ระบุข้อความว่า "จริงๆแล้ว ตับเป็นอวัยวะสำคัญมากนะครับ ทั้งช่วยกรองสารพิษ ผลิตโปรตีน และช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าเรามีเรื่องตับอักเสบ สิ่งที่ตามมาตับแข็ง และสุดท้ายอาจกลายเป็นมะเร็งตับได้
3 สาเหตุหลักของตับอักเสบ มีอะไรบ้าง และจะป้องกันได้อย่างไร!
1. แอลกอฮอล์
หนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดตับอักเสบคือ การดื่มแอลกอฮอล์อย่างต่อเนื่อง แอลกอฮอล์มีผลโดยตรงต่อตับเพราะร่างกายต้องเผาผลาญมันผ่านตับ ถ้าดื่มมากเกินไป ตับจะทำงานหนักขึ้น และเกิดการอักเสบจนเกิดแผลเป็น (fibrosis) และในที่สุดจะพัฒนาเป็น ตับแข็งหรือมะเร็งตับได้
แอลกอฮอล์ที่มีผลต่อสุขภาพตับ ไม่ได้มีแค่เหล้าแรงๆ แต่รวมไปถึง ไวน์ เบียร์ โซจู ค็อกเทลหรืออะไรก็ตามที่มีแอลกอฮอล์ หากดื่มมากไป พวกนี้ก็เพิ่มความเสี่ยงทั้งนั้น
แนะนำแบบนี้นะว่า ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ เอาแต่พอดี (ไม่เกิน 1-2 ดริ๊งค์ต่อวัน) และควรมีวันที่ งดดื่มอย่างน้อย 2-3 วันต่อสัปดาห์ เพื่อให้ตับได้พัก
2. ไวรัสตับอักเสบ
อีกหนึ่งสาเหตุใหญ่ของตับอักเสบคือ ไวรัสตับอักเสบ ซึ่งมีอยู่หลายชนิด แต่ที่พบบ่อยและอันตรายคือ ไวรัสตับอักเสบ B และ C ซึ่งสามารถติดต่อผ่านเลือด น้ำลาย และสารคัดหลั่ง เช่น
- การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
- การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
- การสักหรือเจาะร่างกายจากร้านที่ไม่ได้มาตรฐาน
- การถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกในระหว่างคลอด
คำแนะนำคือ
- ตรวจเช็กภูมิคุ้มกันไวรัสตับอักเสบบี หากไม่มีภูมิให้ฉีดวัคซีน
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การใช้ของมีคมร่วมกัน
- ตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อคัดกรองไวรัส
3. ไขมันพอกตับ
ไขมันพอกตับ (Fatty Liver Disease)คือภาวะที่มีไขมันสะสมในตับมากกว่าปกติ ซึ่งสาเหตุหลักๆ มาจาก พฤติกรรมการกินและโรคเมตาบอลิก
เช่น ไขมันในเลือดสูง และเบาหวาน
ที่นี้ลองเช็กดูนะว่าคุณเป็นกลุ่มคนที่เสี่ยงเป็นไขมันพอกตับไหม
- คนที่ชอบกินขนมขบเคี้ยวและของหวานจัด (น้ำตาลสูงและคาร์โบไฮเดรตแปรรูป)
- คนที่ดื่มน้ำหวานเป็นประจำ เช่น ชานมไข่มุก น้ำอัดลม น้ำหวานใส่ไซรัป
- สายของทอด ของมัน เช่น ไก่ทอด เฟรนช์ฟรายส์ ปาท่องโก๋ ซึ่งมีไขมันทรานส์สูง
- คนที่มีไตรกลีเซอไรด์สูง (มากกว่า 150 mg/dL) และมีระดับ LDL สูง
- คนที่เป็นเบาหวาน ซึ่งมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้ไขมันสะสมที่ตับได้ง่าย
ไขมันพอกตับไม่ได้ทำให้เกิดอาการทันที แต่มันเป็นภาวะที่ค่อยๆ สะสมและก่อให้เกิดตับอักเสบเรื้อรัง หากปล่อยไว้ อาจกลายเป็นตับแข็งและมะเร็งตับในที่สุดนะครับ
คำแนะนำคือ
-ลดน้ำตาลและของทอด กินโปรตีนและไฟเบอร์ให้มากขึ้น
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ตรวจระดับไตรกลีเซอไรด์และคอเลสเตอรอลทุกปี
วิธีป้องกันตับอักเสบ ถึงเราจะหลีกเลี่ยงทุกปัจจัยเสี่ยงไม่ได้ แต่ยังมีวิธีดูแลตับให้แข็งแรงและลดโอกาสเกิดตับอักเสบได้ เช่น
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- หมั่นตรวจเช็กระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด
- ปรับพฤติกรรมการกิน ลดคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว เช่น ขนมปังขาว ข้าวขาว
- ลดหรือหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
- ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี
วิธีฟื้นฟูตับให้แข็งแรง หากคุณมีภาวะตับอักเสบ หรือเคยมีพฤติกรรมเสี่ยงมาก่อน นี่คือแนวทางช่วยให้ตับฟื้นตัวเร็วขึ้น
- กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพตับ เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ ถั่ว และปลาที่มีโอเมก้า-3
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อช่วยเผาผลาญไขมันสะสมในตับ
- ลดการบริโภคน้ำตาลและไขมันทรานส์
-พักผ่อนให้เพียงพอ (6-8 ชั่วโมงต่อวัน) เพื่อให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย
-อาหารเสริมก็ช่วยลดการอักเสบได้ เช่น โอเมก้า 3 นะครับ
เพราะฉะนั้น ตับอักเสบเป็นเรื่องที่ทุกคนควรใส่ใจ เพราะหากปล่อยไว้โดยไม่ดูแล อาจนำไปสู่ภาวะตับแข็งและมะเร็งตับได้ ป้องกันได้ง่ายๆ ด้วยการปรับพฤติกรรมการกิน ดื่ม และดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่อง อย่าปล่อยให้ความเครียดและไลฟ์สไตล์ที่ไม่ดี ทำลายตับของเราโดยไม่รู้ตัวนะครับ"
.-008
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : หมอเจด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี