ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามต่อเนื่อง กับการดำเนินงานขับเคลื่อน “ชุมชนล้อมรักษ์” CBTx เพื่อแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่แบบบูรณาการทุกฝ่าย และดำเนินการตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ เพื่อคืนคนที่มีคุณภาพให้กลับเข้าสังคมต่อไป ซึ่งล่าสุด เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สำนัก 1 (สสส.) ลงพื้นที่ตำบลนาพู่ อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี เพื่อถอดบทเรียนผลสำเร็จต่อการดำเนินงานขับเคลื่อน “ชุมชนล้อมรักษ์” CBTx
ทั้งนี้ ตำบลนาพู่ อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี ถือเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติ ผ่าน 2 นโยบายสำคัญหลักๆ คือ 1.จัดตั้งทีมจัดการปัญหายาเสพติดตำบลนาพู่ 2.โครงการสร้างแกนนำเฝ้าระวังและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้สารเสพติดในเด็กเยาวชน 10-15 ปี เพราะหลายปีที่ผ่านมาชุมชนต้องเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่จำนวนมาก จนพบผู้มีปัญหาด้านสุขภาพจิตมากขึ้นจากการใช้และเสพยาเสพติด ก่อนจะมาร่วมกันดำเนินการจัดการแก้ไขปัญหายาเสพติดตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน และพบว่า ผู้ใช้และเสพสารเสพติดใน “ระดับสีเหลือง” ซึ่งก็คือ ผู้ป่วยยาเสพติดที่มีอาการทางจิตเวชร่วมด้วย แต่อยู่ในระยะอาการสงบ และ “สีส้ม” หรือผู้ป่วยยาเสพติดที่มีอาการทางจิตเวชร่วมด้วย อยู่ในระยะอาการกำเริบและมี 5 สัญญาณเตือนที่จะก่อเหตุรุนแรง 107 ราย และสามารถดึงกลุ่มผู้ใช้และเสพสารเสพติดจำนวน 70 ราย เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา
นางแสงวร สุขประเสริฐ แม่ของผู้เข้ารับการบำบัด ต.นาพู่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี กล่าวว่า ปัจจุบันตนเองเกษียณอายุราชการครู กลับมาดูแลลูกชายวัย 32 ปี ที่เพิ่งผ่านการบำบัดรักษายาเสพติดมาเพราะอยู่ในกลุ่มสีเหลือง ซึ่งก่อนหน้านี้อยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลระยะเวลา 3 เดือน ขณะนี้อาการดีขึ้นและอยู่ในกลุ่มสีเขียวที่สามารถกลับมารักษาที่บ้านได้แต่ยังรักษาตามแพทย์นัดดูอาการเป็นระยะ
“ภายหลังเลิกใช้ยาเสพติดพบว่าพฤติกรรมลูกเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ไม่เก็บตัวเงียบและพูดคุยกันบ่อยมากขึ้น ซึ่งแตกต่างจากก่อนหน้านี้ที่สารเสพติดทำให้เกิดอาการทางจิตพูดคนเดียวไม่พูดคุยกับคนในครอบครัว”
อยากขอบคุณ นายชากล้า กองสุวรรณ และทีมการจัดการแก้ไขปัญหายาเสพติด อบต.นาพู่ เข้ามาช่วยเหลือที่ให้คำปรึกษาแนะนำ ทำให้คุณภาพชีวิตคนในครอบครัวดีขึ้นด้วย หลังจากนี้จะเปิดคาเฟ่ขายเครื่องดื่มหน้าบ้านโดยจะให้ลูกชายดูแลเป็นหลักเพื่อหารายได้เลี้ยงดูตนเองและครอบครัว
ด้าน นางรัชนีย์ แสงใส หนึ่งในผู้ปกครองของผู้เข้ารับการบำบัดยาเสพติด ต.นาพู่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี เล่าว่า ตัวเองได้ตัดสินใจพาลูกในวัยอายุยี่สิบปลายๆ เข้าสู่กระบวนบำบัด หลังพบพฤติกรรมและร่างกายลูกผิดปกติผอมโทรม และใช้เงินฟุ่มเฟือย จนวันหนึ่งพบว่าลูกตนเองติดยาเสพติด ซึ่งไม่ทราบที่มาที่ไปของการซื้อขายยาเสพติด จึงปรึกษา นายชากล้า และทีมแก้ไขปัญหายาเสพติดของ อบต.นาพู่ กระทั่งสามารถลูกได้เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ขณะเดียวกันครอบครัวล้วนมีส่วนสำคัญในการสร้างกำลังใจ ปัจจุบันตนเองเหมือนได้ลูกคนใหม่กลับมา เขากลับมาช่วยครอบครัว ทำมาหากินเพาะเห็ดฟางขายเป็นธุรกิจเอสเอ็มอีในครอบครัว แค่นี้คนเป็นแม่ก็มีความสุขที่สุดแล้ว
นั่นคือเสียงสะท้อนหัวอกของคนเป็นแม่ ที่ได้ลูกชายกลับคืนมาจากขุมนรกบนดิน ที่ต้องการสื่อสารเพื่อเป็นส่วนหนึ่งให้สังคมตระหนักถึงพิษภัยของยาเสพติดและความสำคัญของการนำผู้ก้าวพลาดกลับคืนอ้อมกอดของครอบครัวและสังคมต่อไป
ทั้งนี้ นายศรีสุวรรณ ควรขจร ที่ปรึกษากรรมการบริหารแผนคณะที่ 1 สำนักงานกองทุนสนับสนุน การสร้างเสริมสุขภาพ สสส. อธิบายเพิ่มเติมว่า การบำบัดฟื้นฟูผู้ใช้ยาเสพติดโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน หรือ “Community Based Treatment หรือ CBTx” เป็นกระบวนการบำบัดฟื้นฟูที่สามารถทำได้ในชุมชน เป็นการแก้ไขปัญหาจากสาเหตุ กลไก และผลกระทบของปัญหายาเสพติด โดยคนในครอบครัวและชุมชนมีส่วนร่วมอย่างเต็มศักยภาพ เชื่อมโยงกับหน่วยบริการสาธารณสุขในชุมชน ภาคประชาสังคม
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีชุมชนที่ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมเกิดผลสัมฤทธิ์ และสามารถเป็นต้นแบบแนวปฏิบัติในทุกภาคหลายพื้นที่ หนึ่งในนั้นคือ ตำบลนาพู่ ที่สามารถลดจำนวนผู้ใช้และเสพสารเสพติดตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ จนเป็นแม่ข่ายนำร่องต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดได้ในระดับที่ดี ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในพื้นที่อื่นๆ ทั้งภาคอีสานและทั่วประเทศด้วย
“สสส. ร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุขขับเคลื่อนชุมชนล้อมรักษ์ โดยมีหลักสำคัญ 5 ประการ 1.การมีส่วนร่วมชุมชน 2.การใช้ชุมชนเป็นพื้นที่ในการช่วยให้มีการ ลด ละ เลิก ยาเสพติด สำหรับผู้ที่ต้องการบำบัดรักษา 3.ส่งเสริมให้เกิดการบูรณาการต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูล 4.ส่งเสริมการเข้าถึงการศึกษา สร้างโอกาสการมีงานทำ และ 5.ให้ความรู้แก่ชาวชุมชน นำไปสู่งานด้านสุขภาพและการสร้างเศรษฐกิจฐานรากที่ดี จนนำไปสู่การลดอิทธิพลของสิ่งเสพติดในพื้นที่ได้ ปัจจัยสำคัญคือครอบครัวต้องเป็นหลักและบทบาทสำคัญของกระบวนการนี้” นายศรีสุวรรณ กล่าว
ขณะที่ นายชากล้า กองสุวรรณ ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม อบต.นาพู่ และคณะทำงานทีมจัดการปัญหายาเสพติด กล่าวว่า ตำบลนาพู่ มีผู้นำและคนในชุมชนที่เข้มแข็งต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด และเป็นนโยบายหลักเพื่อสร้างสุขภาวะที่ดีต่อคนในชุมชนและนำไปสู่เศรษฐกิจฐานรากที่ดี ทำให้กระบวนการทำงานร่วมกันทุกฝ่ายในตำบลมีการแบ่งหน้าที่ให้ครอบคลุมต่อการทำงาน โดยมีการได้จัดตั้งทีมจัดการปัญหายาเสพติดตำบลน่าพู่ ซึ่งมีนายกองค์การบริหารส่วนตำบล เป็นหัวหน้าศูนย์ป้องกันปัญหายาเสพติด ศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม รวมถึงทีมติดตามการรักษา ทีมควบคุมเหตุ ทีมเฝ้าระวังพฤติกรรม ใช้ล้วนใช้ผู้นำชุมชน อสม. เข้ามามีบทบาทในกระบวนการ CBTx ทำให้ชุมชนมีขีดความสามารถมากขึ้นต่อการลดจำนวนผู้ใช้และเสพสารเสพติด ตอบโจทย์นโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาลได้ด้วย
“เราต้องให้ความรู้ความเข้าใจกับชาวบ้าน ขณะเดียวกันเราก็ต้องเป็นตัวแทนระบบการช่วยเหลือจากภาครัฐ เพราะประชาชนมีความคาดหวังจากหน่วยบริการว่าจะสามารถรักษาลูกของเขาให้หลุดพ้นจากยาเสพติด รวมถึงการพัฒนาธรรมนูญและแนวทางการบำบัดรักษา จากการประชาคมหลายครั้งพบว่า กระบวนการแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เห็นผลสำเร็จสามารถลดจำนวนผู้ใช้และเสพสารเสพติดได้ หลายๆ เคสในพื้นที่ตำบลนาพู่สามารถกลับมาทำงานได้ บางคนไปทำงานต่างประเทศก็มี ขณะเดียวกันเราทำโครงการสร้างแกนนำในการเฝ้าระวังและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้สารเสพติดในเด็กและเยาวชน 10-15 ปี หวังสร้างเครือข่ายกับทุกสถาบันการศึกษาในตำบลนาพู่ เพื่อลดจำนวนผู้ใช้และเสพยาเสพติดในกลุ่มเด็กเยาวชนตั้งแต่ต้นน้ำ แต่เป้าหมายของพวกเราคือครอบครัวสามารถนำเด็กเข้ารับการรักษาโดยตรงได้”นายชากล้า กล่าว
อนึ่ง การจำแนกผู้ป่วยยาเสพติดเพื่อเข้าสู่การบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด แบ่งได้ 4 ระดับ
1. ผู้ป่วยกลุ่มสีแดง หมายถึง เป็นผู้ป่วยยาเสพติดที่มีอาการทางจิตเวชร่วมด้วยและกำลังแสดงอาการอาละวาด คลุ้มคลั่ง (ผู้ป่วย Serious Mental Illness with High Risk to Violence : SMI-V) เนื่องจากเป็นผู้ป่วยจิตคลุ้มคลั่ง จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีระบบการดูแล ช่วยเหลือตั้งแต่เกิดอาการจนนำส่งสถานพยาบาล เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งผู้ป่วยและผู้นำส่ง กรณีผู้ป่วยแสดงอาการอาละวาดสามารถโทรประสาน (191) เพื่อให้เจ้าหน้าที่มาระงับเหตุให้สงบลง และสามารถเรียกบริการการแพทย์ฉุกเฉิน (1669) ให้ไปรับผู้ป่วยและนำส่งแผนกอุบัติเหตุฉุกเฉินโรงพยาบาลทุกแห่ง เพื่อรักษาอาการเบื้องต้น จากนั้น ส่งต่อเข้ารับการรักษายังโรงพยาบาลจิตเวชในสังกัดกรมสุขภาพจิตหรือโรงพยาบาลธัญญารักษ์สังกัดกรมการแพทย์หรือโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
2. ผู้ป่วยกลุ่มสีส้ม หมายถึง เป็นผู้ป่วยยาเสพติดที่มีอาการทางจิตเวชร่วมด้วย อยู่ในระยะอาการกำเริบ และ มี 5 สัญญาณเตือน ได้แก่ ไม่หลับไม่นอน เดินไปเดินมา พูดจาคนเดียว หงุดหงิดฉุนเฉียว เที่ยวหวาดระแวง สามารถส่งต่อเพื่อเข้ารับการบำบัดรักษาในสถานพยาบาลยาเสพติดที่เปิดบริการ มินิธัญญารักษ์
3. ผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง หมายถึง เป็นผู้ป่วยยาเสพติดที่มีอาการทางจิตเวชร่วมด้วย แต่อยู่ในระยะอาการสงบ สามารถส่งต่อเพื่อเข้ารับการบำบัดรักษาในสถานพยาบาลยาเสพติดโรงพยาบาลชุมชน
4. ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว หมายถึง เป็นผู้ป่วยยาเสพติดที่ไม่มีอาการทางจิตเวชร่วมด้วย สามารถส่งต่อเพื่อเข้ารับการบำบัดรักษาในรูปแบบ การบำบัดรักษาและฟื้นฟู ผู้ป่วยยาเสพติดโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน (CBTx) ที่มีคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) เป็นกลไกในการขับเคลื่อนการดำเนินการในระดับอำเภอ โดยเป็นรูปแบบการบำบัดรักษาเชิงบูรณาการโดยเฉพาะต่อผู้ใช้ยาเสพติดในชุมชนเพื่อให้เกิดการรักษาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจนถึงการติดตาม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี