“กีฬา” เป็นยาวิเศษ ที่สร้างมิตรภาพ สร้างโอกาสในชีวิตดึงเยาวชนห่างไกลจากปัจจัยเสี่ยง “เหล้า ยา” ทั้งหลาย ข้อดีเหล่านี้ถึงทำให้ การแข่งขันกีฬาเยาวชนชาย รุ่นอายุไม่เกิน15 ปี ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 7
โดยในปีนี้ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า, กรมพลศึกษา และสถานีโทรทัศน์ ไทยพีบีเอส ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้จัดการโครงการฯ เป็นครั้งที่ 7 ภายใต้ชื่อ โครงการ SDN FUTSALNO - L 2025 “เพื่อนกัน มันส์โนแอล ไม่ดื่ม ไม่สูบ ไม่เสพ ไม่พนัน” ขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ณ สนามฟุตซอล อาคารนนทบุรียิมเนเซียม จ.นนทบุรี โดยมีนายพิทยา จินาวัฒน์ ประธานกรรมการกำกับทิศทางรณรงค์เพื่อการควบคุมยาสูบ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสิ่งเสพติด (สสส.) เป็นประธาน ซึ่งจบเกมการแข่งขัน โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ ชนะโรงเรียนสหศึกษาบางบัวทอง จ.นนทบุรี ไปด้วยสกอร์ 3 ต่อ 0
นายธีระ วัชรปราณี ผู้อำนวยการ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า และประธานจัดการแข่งขัน ระบุถึงที่มาที่ไปของโครงการดังกล่าวว่า สคล. พร้อมด้วย สสส. และภาคีเครือข่ายผู้สนับสนุนได้ร่วมกันจัดแข่งขันผ่านมา 7 ปี แต่มีการชิงถ้วยพระราชทานฯ ปีนี้เป็นปีที่ 3 แล้ว จากการสมัครเข้าร่วมการแข่งขัน 1,055 ทีมจากทั่วประเทศ มีนักกีฬาที่เข้าร่วมแข่งขัน ประมาณ 15,825 คนโค้ชผู้ฝึกสอนและควบคุมทีมเข้าร่วมเป็นเครือข่าย ทั้งสิ้น 3,165 คนภาคีภาครัฐ เอกชน ที่ให้การสนับสนุน เป็นองค์กรร่วมจัดในการแข่งขันระดับจังหวัด หน่วยงาน องค์กร ไม่น้อยกว่า 150 องค์กร เพื่อคัดให้เหลือ 12 ทีมที่จะเข้ามาแข่งขันรอบชิงแชมป์ระดับประเทศ
“การแข่งขัน เป็นส่วนหนึ่งในการใช้เวลาว่างสร้างเสริมสุขภาพแล้ว เราต้องการใช้กีฬาเป็นยาวิเศษ สร้างแรงบันดาลใจให้ชีวิต สร้างเสริมคุณค่าให้กีฬาเป็นการสร้างเครือข่าย เพื่อนกันมันส์ NO-L อีกทั้งคาดหวังให้นักกีฬาได้รู้จักการขอโทษ ขออภัย มีน้ำใจเป็นนักกีฬา ซึ่งเราเน้นอย่างมากเรื่องมารยาทในการแข่งขัน รู้จักการระงับอารมณ์ ไม่ใช้ความรุนแรง ตลอดจนมีความพยายามสร้างความมาตรฐานสากล นำสู่การเป็นนักกีฬาที่ดีในอนาคต”
ขณะที่ ดร.พัฒนพงศ์ พงษ์สกุล ผู้อำนวยการสำนักการกีฬากรมพลศึกษา กล่าวเสริมว่า ทางกรมพลศึกษา มีพันธกิจขับเคลื่อนนโยบายด้านการออกกำลังกาย กีฬาและนันทนาการ โดยเฉพาะเด็ก เยาวชน พร้อมกับการพัฒนาบุคลากร ให้มีมาตรฐาน
สำหรับการแข่งขันทัวร์นาเมนท์นี้ ทางกรมฯ ได้สนับสนุนบุคลากรผู้ตัดสินการแข่งขันตั้งแต่ระดับโซนภาค ซึ่งก่อนการแข่งขันทุกครั้ง จะมีการแจ้งระเบียบข้อตกลงในการแข่งขัน ตลอดจนวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ที่ส่งเสริมให้ความสำคัญกับการดูแลพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาเยาวชนตั้งแต่การดูแลร่างกาย การเตรียมตัว และกติกาการแข่งขัน
นอกจากนี้ ทางกรมฯ ยังสนับสนุนการจัดอบรม “โค้ชผู้สร้างแรงบันดาลใจ” เพื่อส่งเสริมให้โค้ชมีทักษะ เทคนิค แทคติก สำหรับโค้ชผู้ฝึกสอน ซึ่งจะมีการเพิ่มหลักสูตรด้านจิตวิทยาด้านคุณธรรม จริยธรรม ทัศนคติในการแข่งขัน เพื่อสร้าง “ครอบครัวฟุตซอล”ให้เป็นฐานการแข่งขันที่เข้มแข็ง นำสู่วิถีนักกีฬาอาชีพในอนาคต
นายอนุรักษ์ สิงหสุวรรณ โค้ชผู้ฝึกสอนทีมโรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา ในพระอุปถัมภ์ฯจังหวัดภูเก็ต เล่าประสบการณ์นำทีมมาร่วมการแข่งขันว่า ที่ผ่านมา ตนได้นำเอาความรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับการเล่น และแทคติกที่มี มาส่งเสริมพัฒนาเด็กๆ นักกีฬา พร้อมทั้งเสริมเรื่องของการแข่งขันครั้งนี้ฝึกฝนนักกีฬาของเราจนสามารถฝ่าด่านได้เข้ามาชิงรางวัลอันดับ 3และได้รับรางวัลมารยาทยอดเยี่ยม ในการทำงานกีฬากับเยาวชน
“สิ่งที่จะเสริมเข้าไปคือการให้เด็กๆ รู้ว่ามันก็เป็นธรรมดาที่จะต้องเกิดการกระทบกระทั่ง มีท่าทาง คำพูดยั่วยุให้เกิดอารมณ์โมโหกันบ้าง ดังนั้น ในการสอนเด็ก เราจะต้องปลูกฝังก่อนว่า มาเล่นกีฬาเพื่ออะไร เล่นเพื่อตัวเอง เพราะชอบ หรือถูกพ่อ แม่บังคับไหม หรือมาเพราะสนุกสนานเฮฮา ซึ่งการเล่นกีฬาต้องมุ่งมั่นอย่างมีเป้าหมาย เมื่อเราเป็นทีมกันแล้ว เราต้องพูดคุยกันให้เข้าใจในวัตถุประสงค์ของทีม และกติการ่วมของทีม ทีมเราสอนแม้แต่ในเรื่องของการใช้ชีวิต”
สำหรับเรื่องของการใช้ชีวิตนั้น ที่ตนจะเน้นย้ำกับนักกีฬาเสมอ คือ 1. ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสุรา บุหรี่ สิ่งเสพติดทั้งหลาย 2.การฝึกซ้อมต้องตรงต่อเวลา ซื่อสัตย์ต่อตนเอง 3. การควบคุมอารมณ์ ซึ่งก่อนนอน และก่อนการฝึกซ้อม เราจะให้นักกีฬานั่งสมาธิก่อนด้วย
ฟังผู้ใหญ่บอกเล่าไปแล้ว มาฟังผู้เล่นวัยรุ่นที่ได้เข้ามาร่วมการแข่งขันในโครงการดังกล่าว อย่าง ด.ช.พีภัทร นาคน้อย หรือ น้องไดร์ท อายุ 15 ปี จากโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครสวรรค์เล่าว่า ดีใจ และภูมิใจมากที่ได้รับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) และผู้ทำประตูสูงสุด ถือเป็นรางวัลของคนที่ตั้งใจอย่างเต็มที่เพราะที่ผ่านมา ตนจะตั้งใจฝึกซ้อมอย่างหนัก เลือกรับประทานอาหารที่ดีๆ พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะมองว่า การดูแลร่างกายมีความสำคัญมาก และยิ่งสำคัญมากๆ เมื่อตนมีความฝันยิ่งใหญ่ที่อยากจะเป็นนักกีฬาทีมชาติ หากเราจะไปให้ถึงฝันจะต้องรักตัวเอง ต้องไม่เอาตัวเองไปยุ่งเกี่ยวกับ เหล้า บุหรี่ ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำลายให้ร่างกายทรุดโทรม และเป็นพฤติกรรมที่ทำให้ไม่ได้ฝึกซ้อม เป็นสิ่งที่ขัดขวางอนาคตของเรา ทำให้เราไปไม่ถึงจุดหมายปลายทาง
ทางด้าน นายศุภฤกษ์ หวังศิลปะคุณ อายุ 48 ปี คุณพ่อของน้องปุณโณ นักเตะทรงคุณค่า โซนกรุงเทพฯ SDN FUTSALNO - L 2024 เล่าว่า ส่วนตัวเคยเป็นคนที่ชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ก็สามารถเลิกมันได้ต่อเนื่องมา 1 ปีแล้ว เหตุผลเพราะว่า มีคนในหมู่บ้านได้ดูถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาในโครงการนี้ โซนกรุงเทพฯ ปี 2567 แล้วเห็นลูกชายของตนเข้าร่วมโครงการในฐานะนักกีฬาเตะฟุตซอลรายการโน-แอล แถมยังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมด้วย แต่คนเป็นพ่ออย่างตนกลับหน้าตาเมาเยิ้มอยู่ทุกวันๆ
“พอได้ฟังเช่นนั้นทำให้ผมรู้สึกอึ้ง และเริ่มคิดได้ว่าในเมื่อลูกชายทำให้พ่อกับแม่ภูมิใจเป็นอย่างมาก เป็นนักกีฬาที่เก่ง ตั้งแต่นั้นมาผมจึงตั้งใจว่า อยากทำให้ลูกผมภูมิใจในตัวผมบ้าง และที่ต้องขอบคุณรายการนี้อย่างมากเลย ที่ทำให้ผมเลิกดื่มสุราได้ 1 ปีแล้ว ผมตั้งใจเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับลูก และอยากชวนคุณพ่อของนักกีฬาในรายการนี้ เป็นตัวอย่างเลิกเหล้าเพื่อลูก เรามาเลิกเหล้า เลิกดื่มเพื่อลูกกันเถอะครับ”
อนึ่ง รายการแข่งขันครั้งนี้ รางวัลชนะเลิศได้แก่ โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครนครสวรรค์, รองชนะเลิศ โรงเรียนสหศึกษาบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี, อันดับที่ 3 และทีมมารยาทยอดเยี่ยม โรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา ในพระอุปถัมภ์ฯ จังหวัดภูเก็ต, อันดับที่ 4 โรงเรียนพลูตาหลวงวิทยา จังหวัดชลบุรี
นอกจากนี้ มีรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ได้แก่ ด.ช.กาลเวลา ทวีรัตน์ โรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา ในพระอุปถัมภ์ฯ ด.ช.ชวภณ มั่นอยู่ โรงเรียนพลูตาหลวงวิทยา ด.ช.พีภัทร นาคน้อยโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครสวรรค์ และ ด.ช.จักรชัย งอกงาม โรงเรียนสหศึกษาบางบัวทอง
รางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) GOALKEEPER ได้แก่ ด.ช.กิตติทัต เหลางาม โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครสวรรค์
รางวัลผู้ทำประตูสูงสุด ได้แก่ ด.ช.พีภัทร นาคน้อย โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครสวรรค์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี