"ครอบครัวฮะยีลัง"กำลังเร่งมือทำ"ขนมกาตูปัต"ภาษาถิ่น หรือที่ทั่วไปเรียก"ข้าวต้มสามเหลี่ยม" ให้ทันเวลาลูกค้า พร้อมเผยเคล็ดลับของเมนูนี้ว่าอยู่ที่การสังเกตข้าวเหนียวขณะผัดว่าสุกมากน้อยแค่ไหน เพราะมีผลต่อการห่อให้น่ากิน

นางสาวเสาด๊ะ ฮะยีลัง วัย 44 ปี เผยความลับของการห่อขนมกาตูปัต ขนมประจำเทศกาลฮารีรายา ที่หลายคนทำไม่เป็น ทำให้หลายครอบครัวในชุมชน ต.ตันหยงโป อ.เมืองสตูล ต้องมาว่าจ้างครอบครัวตนให้ทำให้ ในช่วงเทศกาลฮารีรายาที่กำลังจะมาถึง "ขนมต้ม" หรือที่ชาวมุสลิมเรียกว่า "กาตูปัต" เป็นขนมที่ขาดไม่ได้บนโต๊ะอาหาร แต่ด้วยขั้นตอนที่ซับซ้อนโดยเฉพาะการห่อ ทำให้หลายครอบครัวต้องพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญอย่างนางสาวเสาด๊ะ

"ถ้าข้าวเหนียวยังแข็ง ยังเห็นเป็นข้าวสาร ต้องห่อหลวมๆ เพื่อให้สุกพอดีตอนต้ม แต่ถ้าผัดมาสุกนิ่มแล้ว ต้องห่อให้แน่นเพื่อไม่ให้น้ำเข้า ไม่งั้นข้าวจะเละ" เสาด๊ะ อธิบายด้วยความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมานาน ที่ครอบครัวรับห่อขนมชนิดนี้มานานไม่น้อยกว่า 10 ปี

ด้วยฝีมือที่ได้รับการยอมรับ สามารถสร้างรายได้เสริมปีละ 2 ครั้ง ในช่วงเทศกาลฮารีรายา โดยคิดค่าแรงแบ่งเป็นหลายรูปแบบ ทั้งรับจ้างห่อขนมอย่างเดียวกิโลกรัมละ 60 บาท รับจ้างผัดและห่อกิโลกรัมละ 140 บาท หรือจัดหาวัตถุดิบให้ทั้งหมด พร้อมคิดค่าแรง ในแต่ละปีนางสาวเสาด๊ะ มีลูกค้าประมาณ 15 - 20 ราย แต่ละรายสั่งทำประมาณ 1 - 2 กิโลกรัม สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการขนมประเพณีที่ยังคงอยู่ แม้หลายครอบครัวจะทำเองไม่ได้

ด้าน นางบุญจริง กูรีกัน หนึ่งในผู้ว่าจ้าง เล่าว่า "ขนมชนิดนี้ทำยาก เลยต้องจ้าง" โดยจะนำขนมกาตูปัตไปรับรองแขกและญาติพี่น้องในวันฮารีรายา ที่ต้องใช้ขนมและอาหารจำนวนมาก รับประทานคู่กับแกงไก่ แกงเนื้อ นอกจากนี้ ยังมีขนมประเพณีอื่นๆ อย่างขนมโกยเปต และขนมไข่ ที่ขาดไม่ได้ในเทศกาลสำคัญนี้

การรับจ้างทำขนมประเพณีของนางสาวเสาด๊ะ ไม่เพียงสร้างรายได้เสริมให้กับเธอเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาประเพณีและวัฒนธรรมอาหารให้คงอยู่ในสังคมสมัยใหม่ ที่ผู้คนมีเวลาและทักษะการทำอาหารประเพณีน้อยลง

- 006