"พระอนันต์ อภินนฺโท" พระผู้ดูแลสำนักป่าสุญญตาราม แจ้งกำหนดการสวดพระอภิธรรม "อดีตพระยันตระ" ประชุมเพลิง 9 มี.ค.69 ณ ลานธรรม สำนักป่าสุญญตาราม
จากกรณีเพจ “Suññataram California Monastery PhraAjahn Yantra Amaro” ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กระบุว่าขอน้อมถวายความอาลัยน้อมส่งหลวงพ่อสู่พระนิพพาน พระอาจารย์ยันตระ อมโร ประธานสงฆ์และผู้นำทางจิตวิณญาณวัดสุญญตาราม ได้ละสังขารแล้ว เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2025 ณ วัดสุญญตาราม เอสคอนดิโด้ Sunnataram California Monastery 9560 West Lilac Rd. Escondido CA 92026 สิริรวมอายุ 73 ปี พรรษา 51 ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ต่อมาวันที่ 13 มี.ค.2568 นายสมใจ มาโนช อายุ 88 ปี ประธานสำนักวัดป่าสุญญตาราม บ้านเกริงกระเวีย ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ลูกศิษย์ที่มีความศรัทธา ได้มีการประชุมหารือกับทางญาติ และคณะกรรมการ ว่าจะนำร่างของพระยันตระไปไว้ ณงที่แห่งใด ซึ่งขณะนั้นพี่สาวของพระยันตระต้องการนำร่างไปไว้ที่ จ.นครศรีธรรมราช แต่สุดท้ายแล้วมีความเห็นพร้อมกันว่า จะนำร่างของพระยันตระมาไว้ที่สำนักป่าสุญญตาราม บ้านเกริงกระเวีย หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 มี.ค.68 เพจ สำนักป่าสุญญตาราม บ้านเกริงกระเวีย กาญจนบุรี ได้ทำการประชาสัมพันธ์ผ่านเฟสบุ๊ก ระบุว่า วันที่ 31 มีนาคม 2568 สรีระสังขารท่านพระอาจารย์ยันตระ อมโร จะเดินทางมาถึงสำนักป่าสุญญตาราม บ้านเกริงกระเวีย กาญจนบุรี เวลา 07.00 น. โดยประมาณ ท่านใดที่มีความประสงค์จะมารอรับขอให้ท่านมารอรับได้ที่สำนักป่าสุญญตารามในเวลาดังกล่าวเพียงจุดเดียวเท่านั้น
โดยการรอรับนี้เพื่อความเป็นระเบียบ และเพื่อความปลอดภัยแก่ทุกๆท่าน ขอความร่วมมือจากทุกท่านให้ยืนต่อแถวรอตั้งแต่ซุ้มปากทางเข้าสำนักป่าสุญญตาราม ยาวเข้ามาด้านในสำนัก #เน้นย้ำห้ามยืนข้างทางข้างถนนด้านนอกโดยเด็ดขาด จึงเรียนมาเพื่อให้ทุกท่านได้รับทราบ และขอความร่วมมือจากทุกท่านให้ปฏิบัติได้อย่างเป็นระเบียบ
จากนั้นเวลา 07.00 น.วันที่ 31 มี.ค.68 เพจ สำนักป่าสุญญตาราม บ้านเกริงกระเวีย กาญจนบุรี ได้ทำการไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊ก ขณะนำร่างของพระยันตระ เดินทางมาถึง โดยมีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจนำเที่ยวนำขบวน ตามด้วยรถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน นจ.3915 นนทบุรี ที่ใช้เคลื่อนย้ายร่างของนายวินัย ละอองสุวรรณ อดีตพระยันตระตามมาเป็นคันที่ 2
เมื่อมาถึงประตูทางเข้ามีคณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่เป็นจำนวนมากยืนต่อแถวตามด้วยแม่ชีรวมถึงลูกศิษย์และชาวบ้านจากหลายพื้นที่ยืนต่อแถวรอรับพร้อมโปรยดอกดาวเรืองตลอดเส้นทางเพื่อแสดงสัญลักษณ์ต้อนรับการกลับมาของอดีตพระยันตระ หรือนายวินัย ลอองสุวรรณ อดีตเจ้าสำนักป่าสุญญตาราม บ้านเกรีงกระเวีย ที่เคยโด่งดังมาเมื่อในอดีต เสมือนท่านยังมีชีวิตอยู่
ล่าสุดวันนี้ 1 เม.ย.68 พระอนันต์ อภินนฺโท พระผู้ดูแลสำนักป่าสุญญตาราม บ้านเกริงกระเวีย กาญจนบุรี ได้ออกมาประชาสัมพันธ์เพื่อแจ้งกำหนดการสวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศลและประชุมเพลิง ผ่าน เพจ สำนักป่าสุญญตาราม บ้านเกริงกระเวีย กาญจนบุรี ว่า แจ้งกำหนดการสวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศลและประชุมเพลิงท่านพระอาจารย์ยันตระ อมโร มติจากคณะสงฆ์ลูกศิษย์เกี่ยวกับการจัดงานพิธีบำเพ็ญกุศลของท่านพระอาจารย์ยันตระ อมโร โดยมีกำหนดการดังนี้
ระยะที่ 1 : บำเพ็ญกุศล 15 วัน [ ทุกวัน ] ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2568 - 14 เมษายน 2568 ระยะที่ 2 : หลังบำเพ็ญกุศลครบ 15 วันแล้ว จะมีการบำเพ็ญกุศลอาทิตย์ละครั้ง [ ทุกวันเสาร์ ] ตลอดไปจนครบ 1 ปี ระยะที่ 3 : วันประชุมเพลิง คือวันที่ 9 มีนาคม 2569 ณ ลานธรรม สำนักป่าสุญญตาราม บ้านเกริงกระเวีย กาญจนบุรี
รายละเอียดกำหนดการจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ พระอนันต์ อภินนฺโท โทร. 087 - 052 - 0456 พระพรชัย วิสุทฺโธ โทร. 086 - 540 – 4073 [ หากมีการเปลี่ยนแปลง จะแจ้งให้ทุกท่านทราบ)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนปี 2537นายวินัย ละอองสุวรรณ หรือพระยันตระ อมโรภิกขุ ขณะนั้นเป็นเจ้าอาวาสวัดลิเจีย และเจ้าสำนักป่าสุญญตาราม หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าไม่มีใครไม่รู้จักพระยันตระ คนไทยทุกคนต่างรู้จักพระยันตระ เป็นอย่างดี ในฐานะเป็นพระนักเทศน์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศไทยในสมัยนั้น
ความที่พระยันตระ มีน้ำเสียงที่ไพเราะ นุ่มลึก อ่อนหวาน ขณะเทศน์สั่ง สอนผ่านเสียงตามสายผ่านไปยังลำโพงที่ติดตั้งเอาไว้โดยรอบผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้ลูกศิษย์ลูกหาที่มาฟังธรรมมะรู้สึกร่มเย็น สบายใจ เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศ ที่สำคัญทุกคนเข้าใจในคำสั่งสอนของพระยันตระได้อย่างง่ายดาย
อีกประการอิริยาบถของพระยันตระ เป็นพระที่มีความสุภาพ นอบน้อมอ่อนโยน ยิ้มเก่ง และเป็นพระที่มีเสน่ห์ ทำให้ศิษยานุศิษย์ที่ศรัทธาได้กล่าวขานกันปากต่อปาก ผนวกกับมีชื่อเสียงโด่งดังตั้งแต่สมัยยังเป็นนักพรตฤาษี
ดังนั้น จึงทำให้ประชาชนจากทุกสารทิศทั่วประเทศที่ศรัทธาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วต่างหลั่งไหลมาที่สำนักป่าสุญญตาราม หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จนล้นหลามถึงแม้ อ.สังขละบุรี จะตั้งอยู่ห่างไกลจากตัว จ.กาญจนบุรี รวมระยะทางประมาณ 229 กม.เส้นทางการจราจรส่วนใหญ่เป็นถนนลูกรังสลับกับทางลาดยางเป็นบางช่วง ถนนมีสภาพแคบคดเคี้ยวขึ้นลงไปตามไหล่เขา ที่มีความอันตราย แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคในการเดินทางของลูกศิษย์เลยแม้แต่น้อย
จากการที่มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาในพื้นที่หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักป่าสุญญตาราม จำนวนมากทุกวันผลที่ตามมาคือ ความต้องการทางด้านอาหาร เครื่องดื่ม และที่พัก พระยันตระ จึงเล็งเห็นรายได้ที่จะก่อให้เกิดกับชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่จึงได้พูดคุยให้ชาวบ้านนำสินค้าทางด้านการเกษตรและปลาที่หาง่ายในพื้นที่มาขาย สร้างความตื่นตัวให้กับคนในพื้นที่เป็นอย่างมาก
ต่อมาได้มีการเปิดร้านขายอาหาร เครื่องดื่มไว้บริการบริเวณริมสองฝั่งถนน ยิ่งสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่มากขึ้น โดยตั้งแต่เช้ามืดจนกระทั่งเย็นจะมีผู้คนออกมาจับจ่ายซื้อของตลอดทั้งวัน ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักเหมือนกับมีตลาดนัดขนาดใหญ่ เนื่องจากมีสินค้าให้เลือกเป็นจำนวนมาก
ขณะที่คนในพื้นที่บางครอบครัวที่ไม่เคยรู้จักพระยันตระ ก็เริ่มเกิดความรักและเคารพศรัทธามากขึ้น และเมื่อทุกคนได้มีโอกาสเข้าไปฟังคำสั่งสอนของพระยันตระ ภายในสำนักป่าสุญญตาราม ยิ่งทำให้เกิดความศรัทธาในตัวพระยันตระ ยิ่งขึ้นไปอีก
แหล่งท่องเที่ยวใน “สังขละบุรี” ได้รับอานิสงส์
นอกจากสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ต.ปรังเผล แล้วยังส่งผลไปถึงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ที่มีอยู่ในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ อ.สังขละบุรี โดยเฉพาะร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ นั้นเต็มไปด้วยผู้คน ส่วนโรงแรม และรีสอร์ต ในขณะนั้นมีไม่มากนักต่างถูกจองล่วงหน้าจนเต็มทุกแห่ง ตลาดสดภายใน อ.ทองผาภูมิ อ.สังขละบุรี ในยามเช้ามีผู้คนไปจับจ่ายซื้อของอย่างล้นหลาม ทำให้บรรยากาศพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ และ อ.สังขละบุรี ในสมัยนั้นเป็นไปอย่างคึกคัก
นอกจากนี้ ความที่พระยันตระ มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศและต่างประเทศทำให้ศิษยานุศิษย์ของพระยันตระ ซึ่งมีทุกชนชั้นตั้งแต่ชาวบ้านไปจนถึงคหบดีชั้นผู้ใหญ่ มีทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักธุรกิจ และเหล่าบรรดาข้าราชการการเมืองระดับจังหวัดและระดับชาติ และได้มีการถวายที่ดินให้แก่พระยันตระหลายแห่ง รวมทั้งในต่างประเทศเพื่อให้พระยันตระ นำไปสร้างเป็น สำนักป่าสุญญตารามสาขาขึ้น
และสำหรับสำนักป่าสุญญตารามสาขา ที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือ สำนักป่าสุญญตาราม หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี นี้เอง ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมด 515 ไร่ พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในความดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตั้งอยู่ในเขตความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม พื้นที่ทั้งหมดพระยันตระ ได้ขออนุญาตใช้พื้นที่โดยถูกต้องตามกฎหมาย
สำหรับชาว จ.กาญจนบุรี เกือบทั้งจังหวัดก็มีความศรัทธาต่อพระยันตระเป็นอย่างมาก สมัยนั้นเกือบทุกหลังคาเรือนจะต้องมีรูปของพระยันตระ ตั้งแต่สมัยยังเป็นนักพรตฤาษี จนกระทั่งบวชเป็นพระ นำมาใส่กรอบติดเอาไว้กราบไหว้บูชาเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
ส่วนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี โดยเฉพาะชาวบ้านในพื้นที่ ต.ปรังเผล ทั้ง 4 หมู่บ้าน ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง ทุกครัวเรือนต่างเลื่อมใสและศรัทธาในพระยันตระ ทำให้ตลอดระยะเวลาหลายปีบริเวณแยกปรังเผลเต็มไปด้วยรถรา และผู้คน และยังผลผลทำให้การท่องเที่ยวในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ โดยเฉพาะ อ.สังขละบุรี ได้รับอานิสงค์ไปด้วย เพราะหลังจากเสร็จจากการทำบุญที่สำนักป่าสุญญตาราม แล้ว พวกเขาเหล่านั้นก็จะถือเอาโอกาสเข้าไปท่องเที่ยวตามแหล่งธรรมชาติต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี