ลูกชายวัย 39 ปี หอบแม่วัย 64 ปีจากพัทยากลับบุรีรัมย์บ้านเกิดเพื่อขอทำบัตรประชาชนที่แม่ไม่เคยได้ทำมาก่อน เผยใช้ชีวิตลำบากเวลาป่วยทำได้แค่ซื้อยากินเพราะไม่มีบัตรประชาชน ไม่เคยสัมผัสว่าการไปหาหมอเป็นอย่างไร ครั้งนี้ป่วยรุนแรงจึงย้อนกลับมาบุรีรัมย์เพื่อทำบัตรฯเพื่อจะพาแม่ไปหาหมอตามสิทธิ์การรักษา

วันที่ 4 เม.ย.68 เพจ "ศูนย์แจ้งข่าวบุรีรัมย์" ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านที่ ต.กลันทา อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ว่ากำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักเข้ารักษาโรงพยาบาลไม่ได้ เพราะไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนและอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเนื่องจากแม่ป่วยหนัก

ผู้สื่อข่าวตรวจสอบพบนายวโรดม พึ่งเถื่อน อายุ 39 ปีกำลังดูแลนางสวรรค์ มุ่งดี อายุ 64 ปี แม่ของตัวเองที่กำลังป่วยและไม่รู้ว่าป่วยด้วยโรคอะไร เพราะไม่เคยเข้าทำการรักษาที่โรงพยาบาลของรัฐมาก่อน

นายวโรดม เล่าว่า แม่เป็นคน ต.กลันทาง อ.เมืองบุรีรัมย์ ใช้ชื่อว่านางสวรรค์ มุ่งดี จากคำบอกเล่าของแม่ตั้งแต่ตนยังเล็ก แม่ไม่เคยทำบัตรประชาชนมาก่อนออกจากบ้านไปทำงานกรุงเทพฯเมื่ออายุได้ 12 ปี ตนซึ่งเกิดอยู่กรุงเทพฯ อาศัยอยู่กับแม่มาโดยตลอด ไม่เคยรู้จักญาติของแม่

ที่ผ่านมาจำได้ว่าเวลาแม่ไม่สบายจะไปซื้อยาตามร้านขายยามาบรรเทา มีอาการแบบไหนก็แจ้งร้านขายยาไปแบบนั้น แม่เคยบอกว่าอยากจะทำบัตรประชาชน แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร จำได้ว่าพ่อชื่อนายจันทร์ มุ่งดี แม่ชื่อนางน้อย มุ่งดี แต่เสียชีวิตไปหมดแล้ว

เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาตอนนั้นแม่ป่วยพามาทำบัตรประจำตัวประชาชนที่บุรีรัมย์ แต่ก็ติดขัด ทางกำนันบอกว่า จะต้องสืบก่อน แต่ก็ไม่สามารถทำได้จึงย้อนกลับไปทำงานคืนที่พัทยา จนล่าสุดแม่มีอาการป่วยค่อนข้างหนัก ไม่สามารถไปรักษาที่โรงพยาบาลของรัฐได้เพราะไม่มีบัตรประชาชน จึงเก็บเงินที่พอมีหอบแม่ทั้งป่วยมาขอพักบ้านญาติที่ ต.กลันทา อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เพื่อขอทำบัตรประชาชนแล้วพาแม่ไปรักษาโรงพยาบาลของรัฐ

แต่ตอนนี้ยังติดขัดอยู่ยอมรับว่าทุกข์ใจเมื่อเห็นแม่เจ็บ แต่ทำได้แค่มอง อาการกรดไหลย้อนที่คาดการณ์กันเอาเองเริ่มมีผลต่อสุขภาพแม่กินอาหารไม่ได้ อยากให้หมอให้อาหารทางสายยาง แต่ยังเป็นแค่ความฝันอยู่ในขณะนี้ จึงอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือแม่ให้มีสิทธิ์เหมือนคนไทยทั่วไป เพื่อช่วยชีวิตแม่เอาไว้ก่อน

ด้านนางสาวจริยาภรณ์ พริ้งเพราะ ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.กลันทา อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบนางสวรรค์ เคยมีญาติอยู่ที่นี่แต่ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนตามแนวทางของทางราชการจะต้องมีการสืบสวนหลายด้านเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นคนไทยมีเชื้อชาติไทยอยู่จริง แต่ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือแต่ยังเกินกว่าอำนาจของตนที่มีอยู่ในตอนนี้