เมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีการเสวนาทางวิชาการเรื่อง “พลังของผู้นำทางวิชาการในบริบทของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” จัดขึ้นโดยสถาบันพัฒนาการศึกษาและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยการศึกษาเขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน และคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย โดยมี ดร.รัตนา แซ่เล้า ผู้รับพระราชทานทุนมูลนิธิอานันทมหิดล แผนกธรรมศาสตร์ ปี 2549 และ อ.ชัยวัฒน์ แก้วพันงาม จากคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จากประเทศไทย เข้าร่วมในการเสวนาทางออนไลน์
ดร.รัตนา กล่าวถึงบริบทของประเทศไทย และความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพผู้นำทางวิชาการ เพื่อเป็นพื้นฐานในการหล่อเลี้ยงผู้นำครูให้แข็งแกร่ง และเป็นสะพานเชื่อมระหว่างนโยบายรัฐ และการเปลี่ยนแปลงในห้องเรียน ซึ่งประเทศไทยได้พยายามปฏิรูประบบการศึกษา ปี 2542 โดยมีการแนะนำแนวทางการปฏิรูปทุกภาคส่วน และมีการเปิดตัวพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ นักปฏิรูป “ยืม” แนวคิดต่างประเทศ เช่น การกระจายอำนาจ การเรียนรู้ที่เน้นเด็กเป็นศูนย์กลาง การประเมินคุณภาพ โดยหวังว่าจะปรับปรุงระบบที่มีลักษณะแบบรวมศูนย์
ยิ่งไปกว่านั้นโครงสร้างทางการเมืองยังไม่มั่นคงโดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมากกว่า 20 คนเป็นผู้นำการปฏิรูปการศึกษาของประเทศไทยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงอย่างผันผวน ในภาวะดังกล่าวผู้นำทางวิชาการได้นั่งอยู่ที่ทางแยกระหว่างนโยบายระดับชาติ และการเปลี่ยนแปลงในห้องเรียน ซึ่งจะสามารถรักษาเสถียรภาพของนโยบายเพื่อการปรับปรุงห้องเรียนให้ดีขึ้น พวกเขาเป็น “กล่องดำเล็กๆ” ที่แปลวาระระดับชาติให้เป็นแนวทางปฏิบัติในห้องเรียน
“ความเป็นผู้นำของครูไม่ได้เกิดขึ้นในสุญญากาศ แต่ได้เติบโตในพื้นที่ที่ผู้บริหารโรงเรียนส่งเสริมเสรีภาพทางวิชาการ มีการอภิปรายแบบเปิด การวิเคราะห์เปรียบเทียบจากโรงเรียนขนาดใหญ่และขนาดเล็กในประเทศไทย ที่ดำเนินการชุมชนการเรียนรู้วิชาชีพ (PLC) ทำให้เห็นว่าผู้อำนวยการในฐานะผู้นำด้านการเรียนการสอน มีความสำคัญต่อการสร้างความเป็นผู้นำของครูเพื่อปรับปรุงผลลัพธ์ของนักเรียนอย่างไร ด้วยความสัมพันธ์ในการทำงานร่วมกันระหว่างผู้อำนวยการ และครู จะสามารถรับประกันการสร้างผลลัพธ์เชิงนโยบายที่มีคุณภาพและเท่าเทียมกันได้” ดร.รัตนา กล่าว
ด้าน อ.ชัยวัฒน์ กล่าวถึงบทบาทของครูผู้นำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยบอกว่า “การพัฒนาทักษะเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ICT) เป็นหัวใจสำคัญของการเป็นผู้นำทางการศึกษา ครูที่เชี่ยวชาญด้าน ICT ไม่เพียงแต่ปรับปรุงการสอนของตนเอง แต่ยังสามารถเป็นที่ปรึกษาสร้างสรรค์เนื้อหาดิจิทัล และแบ่งปันแนวทางการสอนกับผู้อื่น โดยมีกรอบแนวคิด TPACK และกรอบสมรรถนะของ UNESCO ICT สำหรับครู เป็นแนวทางในการพัฒนาครูให้สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยี
ตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนถึงการสร้างองค์ความรู้ ซึ่งนำไปสู่การเป็นผู้นำทางการศึกษา ซึ่งโครงการ “Teacher Teach Show” ในประเทศไทยเป็นตัวอย่างสำคัญ ที่ช่วยเปลี่ยนครูให้กลายเป็นนักสร้างสรรค์เนื้อหาดิจิทัล ทำให้การสอนมีความน่าสนใจมากขึ้น ผ่านเทคนิคที่ใช้โดย YouTuber และนักการศึกษายุคใหม่ แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีความท้าทาย เช่น ครูบางส่วนยังขาดทักษะ ICT และการฝึกอบรมที่มีอยู่อาจยังไม่เพียงพอ แต่ในขณะเดียวกันก็มีโอกาสมากมายในการพัฒนา
“โดยเฉพาะการใช้ AI และเครื่องมือดิจิทัล เพื่อช่วยสนับสนุนการสอน การเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับครูที่จะเติบโตเป็นผู้นำทางการศึกษา นอกจากนี้การสร้างเครือข่ายความร่วมมือข้ามประเทศ ระหว่างประเทศในอาเซียนจะสามารถช่วยแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดี สนับสนุนครูในทุกระดับของเทคโนโลยี และพัฒนาศักยภาพครูให้เป็นผู้นำทางดิจิทัลที่สามารถส่งผลกระทบในวงกว้าง ครูจะไม่ได้เป็นเพียงผู้สอนในห้องเรียน แต่สามารถเป็นผู้มีอิทธิพลทางการศึกษา ที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในระดับภูมิภาคและระดับโลกได้” อ.ชัยวัฒน์ ระบุ
นอกเหนือจากการพูดคุยในบริบทของประเทศไทย ที่ประชุมยังได้มุ่งเน้นไปที่ความสำคัญของความเป็นผู้นำของครู ในฐานะตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษา ในบริบทของฮ่องกง ดร.โฮ ชุน สิง แม็กเวลล์ รองผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาการศึกษาและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยการศึกษาเขตบริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน แนะนำและอธิบายว่า โรงเรียนในฮ่องกงมีคณะกรรมการและกลุ่มย่อยมากมาย โดยมีครูจำนวนมากเป็นผู้นำทีม ซึ่งผู้นำครูไม่เพียงแต่มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติในห้องเรียนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแนวปฏิบัติทั่วทั้งโรงเรียนด้วย
ดร.โฮ กล่าวถึงโปรไฟล์ 3 ประการของผู้นำครู ซึ่งได้แก่ผู้อำนวยความสะดวก, ผู้นำแชมป์เปี้ยน และผู้ดำเนินการ ซึ่งจากผลการวิจัยพบว่าผู้นำครูประเภทต่างๆ เหล่านี้ส่งผลต่อความพึงพอใจในงาน ความไว้วางใจ และนวัตกรรมภายในโรงเรียน เขาสรุปโดยแนะนำว่าผู้นำโรงเรียนควรหล่อเลี้ยงผู้นำครูโดยสร้างสมดุล และสร้างวัฒนธรรมที่เอื้อต่อการเสี่ยงและนวัตกรรม และสุดท้ายยังได้มีการหารือเกี่ยวกับความจำเป็นในการทำงานร่วมกันข้ามพรมแดน และความสำคัญของการสร้างสมดุลระหว่างความต้องการด้านการศึกษาทั่วโลก กับความท้าทายในท้องถิ่น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี