เกษตรกรชาวตรังวัย 58 ปีเร่งเกี่ยวข้าวสีชมพูเดือน 5 บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ที่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้แห่งใหม่ เที่ยวได้ตลอดทั้งปีมีแห่งแรกแห่งเดียวในอำเภอสิเกา จังหวัดตรัง โดยแบ่งปันเมล็ดข้าวขายราคาเมล็ดละ 1 บาท และมีขายเป็นกระถางสำหรับซื้อไปเป็นของฝากผู้หลักผู้ใหญ่ เพราะเชื่อว่าข้าวเป็นพืชมงคล กินได้ขายได้ ทำรายได้งามหลักล้านบาทต่อปี
วันนี้ (9 เม.ย.68) ที่หลานย่าคาเฟ่ เลขที่ 154/2 หมู่ที่ 2 บ้านควนกุน ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านของนายสนอง แสนสุข หรือเฮียฮ๋อง อายุ 58 ปี เป็นเกษตรกรผู้หลงใหลในความสวยงามของข้าวสีชมพูเป็นอย่างมาก โดยเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว ได้ติดต่อขอซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวสีชมพูมาจากภาคอีสานในราคากิโลกรัมละ 40,000 บาท แต่ซื้อมาจำนวน 2-3 ขีด เพื่อนำมาทดลองปลูก ปีต่อมาจึงเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวสีชมพูมาขยายพันธุ์เอง โดยไม่ต้องหาซื้อมาเพิ่ม
จนเข้าสู่ปีที่ 3 สามารถขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มจากเดิม 2-3 งานเป็น 1 ไร่และในปี 2568 ปลูกเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 2 ไร่ คาดจะได้ผลผลิตประมาณ 600-700 กิโลกรัม โดยจะปลูกข้าวทุก ๆ 3 เดือน เพื่อให้มีนาข้าวสีชมพูตลอดทั้งปี จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว และแหล่งเรียนรู้การทำนาข้าวสีชมพูแห่งใหม่ มีรายแรกและรายเดียวในอำเภอสิเกา ที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมกันอย่างไม่ขาดสาย โดยมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเกี่ยวข้าวกับแกระ (เครื่องมือเกี่ยวข้าวแบบโบราณ) และขายราคาเมล็ดละ 1 บาทหรือตกกิโลละ 30,000 บาท โดยส่วนหนึ่งเก็บไว้ทำเมล็ดพันธุ์ในรุ่นต่อไป และอีกส่วนหนึ่งนำไปแจกจ่ายให้กับกัลยาณมิตรกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวดำ ข้าวด่าง หรือข้าวพันธุ์แปลก ๆ ใหม่ ๆ ที่เคยช่วยเหลือกันจากทั่วทุกภาคของประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีขายแบบยกกระถาง ๆ ละ 50 บาท แต่ขายหมดเกลี้ยง เพราะชาวบ้านเชื่อว่า ข้าวไม่ว่าจะสายพันธุ์ไหน ล้วนเป็นพืชที่เป็นมงคล เป็นพระแม่โพสกที่ให้คุณประโยชน์ต่อมนุษย์ รับประทานได้ ขายได้และยังสร้างสีสันความสวยงามให้กับผู้พบเห็นได้เป็นอย่างมาก ซึ่งปีนี้สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกไม่ต่ำกว่า 300,000 บาท
ส่วนวิธีกรรมการปลูกเหมือนการปลูกข้าวทั่วไป ใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 ใช้เวลาปลูกประมาณ 120 วันก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ แต่ส่วนใหญ่ยังไม่นำไปรับประทานเพราะมีราคาสูงถึงกิโลกรัม 30,000-40,000 บาท และยังผลิตได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร ที่นิยมนำไปปลูกประดับตกแต่งบ้าน อาคารสถานที่และทำนาข้าวแบบเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งรอบนี้ข้าวสีชมพูเริ่มเก็บเกี่ยวได้ในเดือน 5 ช่วงหน้าแล้ง ทำให้มีความชื้นต่ำ เมล็ดข้าวเป็นสีม่วงอ่อน และแข็งแรง ทนทานต่อโรคได้มากกว่าหน้าฝน
นอกจากนี้ เฮียอ๋อง ยังมีความสามารถพิเศษด้านการประดิษฐ์คิดค้นการทำของเล่นจากเศษวัสดุเหลือใช้ต่าง ๆ ด้วยงบประมาณหลักร้อยถึงหลักพันด้วย ส่วนเกษตรกรรายใดสนใจ สามารถติดต่อได้ทาง FB หลานย่าคาเฟ่แอนด์รีสอร์ทตรัง หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 089-5905911
ด้านนายสนอง แสนสุข หรือเฮียอ๋อง เกษตรกรผู้ปลูกข้าวสีชมพูรายแรกในอำเภอสิเกา จ.ตรัง กล่าวว่า ข้าวสีชมพูทำเหมือนทำนาปรังออกเดือน 5 ให้ลองมาชมกันดู และถ้าเอาไปปลูกทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวสวยงาม ใส่กระถางฝากคนเฒ่าคนแก่ เพราะข้าวเป็นพืชมงคล นำใส่กระถางฝากในวันสำคัญ ๆ สำหรับคนที่มีบุญคุณต่อเรา ให้ข้าวแทนช่อดอกไม้มีประโยชน์เยอะ ซึ่งปีนี้ได้ผลผลิตเยอะกว่าปีที่แล้ว เพราะเริ่มเรียนรู้เยอะขึ้น ใส่ปุ๋ยยังไง ดูแลยังไง ก็ดีขึ้นได้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ โดยขยายพื้นที่ปลูกจาก 1 ไร่เป็น 2 ไร่กว่าแล้วในปีนี้
คาดได้ผลผลิตประมาณ 600-700 กิโลกรัม ซึ่งปีนี้เพิ่งตัดเสร็จยังไม่ได้ชั่ง กำลังตากแดดกันอยู่ ตอนนี้ขายอยู่ที่เมล็ดละ 1 บาทถ้าซื้อเป็นกิโลก็ลดราคาได้อีก เป็นการแบ่งปันเพื่อให้เกษตรกรได้ช่วยกันนำไปขยายพันธุ์ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวกันเยอะ ๆ จึงให้มาศึกษาเรียนรู้กันได้ ข้อดีคือปลูกได้ทั้งปี เหมาะกับทุกสภาพดิน ซึ่งแต่เดิมที่บ้านของตนเป็นสวนยางพารา พอล้มยางก็เลยทำนาก็ขึ้นสวยงามตามปกติ ใช้เวลาปลูก 120 วันลักษณะเหมือนข้าวนาปีทั่วไป ผลตอบรับดีมาก มีญาติพี่น้อง นักท่องเที่ยว คณะครูนักเรียนมากันเยอะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี