เลขา TSPCA ชี้เลี้ยงสัตว์อย่าทำร้ายเพียงอารมณ์ชั่ววูบ
10 เมษายน 2568 ตามที่ปรากฏข่าว หนุ่มขี่จักยานยนต์ ลากสุนัข ชื่อ ‘แซลมอน’ ซึ่งตนเลี้ยงเองตั้งแต่อายุ 2 เดือนกว่า ไปบนท้องถนนและมีผู้เมตตาเห็นและเข้าช่วยเหลือนั้น ปรากฏว่าภายหลัง หนุ่มคนดังกล่าว ยกมือไหว้ขอโทษ อ้างทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ หลังทะเลาะกับแฟนหนุ่ม จนเกิดอารมณ์ชั่ววูบ แค่ประชด และน้อยใจ ตนเองก็ได้สำนึกผิดในเหตุการณ์ที่กระทำในครั้งนี้ อยากขอโทษสังคมที่ทารุณน้องหมา ที่เลี้ยงมาด้วยอารมณ์ชั่ววูบ และอยากขอโอกาสนั้น
ผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถามกรณีนี้กับ ดร.สาธิต ปรัชญาอริยะกุล เลขาธิการและผู้อำนวยการสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) ส่วนตัวเห็นว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น และรู้สึกว่าเวลาคนเรารักกัน ก็มักให้ของขวัญเป็นสัตว์แทนใจ เช่น สุนัข แต่เวลาทะเลาะกัน ก็มักบันดาลโทษะ ลงสัตว์เหล่านั้น ซึ่งก็มีให้เห็นบ่อยครั้งเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะสัตว์เหล่านั้นเขาก็มีชีวิต จิตใจรับรู้ได้ถึงความรู้สึกเจ็บปวดทรมาน โดยการเลี้ยงสัตว์ หรือการให้สัตว์เป็นของขวัญแทนใจกันก็ควรให้เมื่อพร้อม พร้อมที่จะเลี้ยงดูรับผิดชอบสัตว์เหล่านั้นไปชั่วชีวิตของเขาด้วยความเมตตา ขอชื่นชมจากหัวใจกับบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ มีเมตตาและมีความกล้าหาญที่เข้าไปช่วยเหลือสุนัขตัว ดังกล่าว
สำหรับในแง่พระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 ก็ต้องพิจารณาถึงการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร หรือไม่อย่างไร
ซึ่งกรณีการนำสุนัขมาผูกและลากกับรถจักรยานยนต์ ก็ย่อมทำให้สัตว์นั้นได้รับความทุกข์ทรมานไม่ว่าทางร่างกายและจิตใจ ได้รับความเจ็บปวด ความเจ็บป่วย ทุพพลภาพหรืออาจมีผลทำให้สัตว์นั้นตายได้ ย่อมเข้าข่ายการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร ตามมาตรา 3 ประกอบมาตรา 20 และมีโทษตามมาตราตรา 31 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ซึ่งสำหรับการอ้างเรื่องอารมณ์ชั่ววูบ การรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือเหตุผลต่างๆ ก็เป็นข้ออ้างที่สามารถหยิบยกขึ้นได้ แต่ต้องมีการพิสูจน์ ถึงเจตนาการกระทำและผลของการกระทำนั้นด้วย
สำหรับเรื่องสุนัขที่ถูกทารุณกรรมนั้น ใครจะต้องดูแลในเบื้องต้น โดยหลักการทั่วไปแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่ สามารถนำสัตว์ที่ถูกทารุณกรรมไปตรวจรักษาหรือช่วยเหลือสัตว์ที่ตกอยู่ในภยันตราย ในกรณีที่ปรากฏว่าสัตว์นั้น ไม่มีผู้ใดให้การรักษาหรือช่วยเหลือ ตามมาตรา 25 (5)
ส่วนสัตว์ที่ถูกทารุณกรรมสัตว์นั้น จะตกเป็นของใครโดยหลักกฎหมายแล้ว ในกรณีที่ศาลได้พิพากษาลงโทษ ผู้ที่กระทำการทารุณกรรมสัตว์และศาลเห็นว่า การให้สัตว์นั้นยังอยู่ในความครอบครองของเจ้าของหรือผู้กระทำความผิดนั้นต่อไป สัตว์นั้นอาจจะถูกทารุณกรรมหรือได้รับการจัดสวัสดิภาพที่ไม่เหมาะสมอีก ศาลอาจสั่งห้ามมิให้เจ้าของหรือผู้กระทำความผิดนั้นครอบครองสัตว์ดังกล่าว และมอบให้หน่วยงานของรัฐหรือบุคคลที่เห็นสมควรเป็นผู้ครอบครองหรือดูแลสัตว์นั้น ต่อไป
กรณีดังกล่าวจึงเป็นอุทาหรณ์ เตือนใจเป็นอย่างดีว่า การะทำควรมีสติระลึกรู้อยู่เสมอ และไม่ควรระบายอารมณ์กับสัตว์ เพราะสัตว์เหล่านั้น ก็รับรู้ได้ถึงความทุกข์ ความเจ็บปวดทรมานเช่นกัน การเลี้ยงสัตว์ควรต้องรับผิดชอบและเลี้ยงดูเขาให้ดีตลอดอายุขัย การให้สัตว์เป็นของขวัญแทนใจ ก็ควรเลือกผู้รับด้วยว่ามีพร้อมที่จะสามารถเลี้ยงสัตว์นั้นได้หรือไม่ จะได้ไม่ต้องมาเสียใจภายหลังดังกรณีดังกล่าวอีก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี