สาวนักธุรกิจดังเมืองขอนแก่นจ้างลิเกดัง กุ้ง สุทธิราช - จิ้งหรีดขาว วงเทวัญ แสดงถวายหลวงพ่อโต วัดราษฎร์เจริญธรรม ดำเนินสะดวก ราชบุรี หลังขอพรให้ธุรกิจประสบความสำเร็จยอดขายทะลุเป้า 116 ล้านบาทภายในครึ่งปี คอหวยไม่พลาดส่องเลขหางประทัด

เมื่อวันที่ 15 เม.ย.68 ที่ผ่านมา ที่วัดราษฎร์เจริญธรรม หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดสุน คลองลัดพี อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี นางสาวพลอยกาญจน์ ศิริษา อายุ 50 ปี เจ้าของบริษัท ดังผลิตเกี่ยวกับ ฉลากสินค้า อยู่ที่จังหวัดขอนแก่น พร้อมครอบครัว ได้นำลิเกดัง กุ้ง สุทธิราช - จิ้งหรีดขาว วงเทวัญ ซึ่งเป็นคณะลิเกชื่อดังขวัญใจพ่อยกแม่ยก มาทำการแสดงถวายหลวงพ่อโต และให้ชาวบ้านได้ดูกันซึ่งมีค่าใช้จ่ายกว่า 2 แสนบาท

โดยนางสาวพลอยกาญจน์ ศิริษา ได้เข้ากราบไหว้สักการะหลางพ่อโตภายในอุโบสถ พร้อมทั้งนำคณะนักแสดงลิเกจากคณะ กุ้ง สุทธิราช - จิ้งหรีดขาว วงเทวัญ รำถวายที่หน้าองค์หลวงพ่อโตและกล่าวถวายแก้บนตามคำสัจจะที่ได้มาบนบายเอาไว้ ก่อนจะนำประทัดจำนวน 10,000 นัดไปจุดถวายที่บริเวณด้านข้างอุโบสถดังกล่าว ทำเอาบรรดาคอหายต่างมาขอส่องเลขเด็ดจากหางประทัด โดยเลขแถวบน 3 ตัว มีเลข 781 และ 2 ตัว แถวล่างมีเลข 30 นำไปเสี่ยงโชคในงวดวันนี้ (16 เม.ย.68)

นางสาวพลอยกาญจน์ เล่าว่า ตนเป็นคนดำเนินสะดวก บ้านอยู่ใกล้กับวัดสุน รู้จักและเคารพสัทธาหลวงพ่อโตเป็นอย่างมาก หลังที่โตขึ้นตนก็ได้ไปประกอบธุรกิจเปิด บริษัท ผลิตเกี่ยวกับฉลากสินค้า ตั้งอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น โดยเมื่อปี 2567 ตนและคุณแม่ได้มาบนบานศาลกล่าว ต่อหลวงพ่อโตไว้ว่าหากธุรกิจที่ตนเองทำทะลุยอด 100 ล้าน ตนจะนำคณะลิเกศรรามน้ำเพชรมาถวาย แต่ปรากฏว่าผ่านไปเกือบ 1 ปี ธุรกิจที่ตนทำอยู่ก็ได้ยอดมาทั้งหมด 116 ล้านบาท ซึ่งทะลุเป้าไปจากที่ได้มาขอไว้กับหลังพ่อโต วันนี้จึงตั้งใจที่นำคณะลิเกศรรามน้ำเพชรมาถวาย พยายามจัดติวและวันแล้ว แต่ปรากฏว่าศรรามน้ำเพชรคิวเต็มและไม่มีคิวให้เลย จึงได้หาคณะลิเกที่มีชื่อเสียงและปรากฏว่าคณะลิเกของคุณกุ้ง สุทธิราชวงศ์เทวัญ และ คุณจิ้งหรีดขาว วงศ์เทวัญ มีคิวว่าง ตนจึงได้ตกลงว่าจ้างนำมาแสดงถวาย หลวงพ่อโต และให้ชาวบ้านได้รับชมรวมมูลค่ากว่า 2 แสนบาท

สำหรับ หลวงพ่อโตวัดสุน เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้การเคารพนับถือ และเป็นพระประธานในพระอุโบสถ์ ตามตำนานที่เล่าสืบกันมา หลวงพ่อโตเป็นพระพุทธรูปที่ตั้งอยู่ในศาลาสักกะสีเก่า อยู่กลางแจ้ง ใกล้กับคลองลัดพี เจ้าอาวาสพร้อมดัวยชาวบ้านจึงได้อัญเชิญมาไว้ที่วัด พร้อมทั้งได้ช่วยกันสร้างอุโบสถ และนำพระพุทธรูปองค์ดังกล่าวมาบูรณะ สร้างขึ้นใหม่ให้เป็นพระประธานในอุโบสถ แต่ในระหว่างก่อสร้างองค์พระได้เอนและเศียรได้กระแทกกับกำแพงอุโบสถจนแตกเสียหาย ช่างก่อสร้างจึงได้นำใส่โอ่งมังกรเอาไว้ ก่อนจะนำโอ่งมังกรที่ใส่เศษพระที่แตกหักมาปั้นองค์พระประธานขึ้นมาใหม่ โดยนำโอ่งเป็นโครงเศียร ทำให้พระภักษ์ของพระประธานมีลักษณะใหญ่กว่าลำตัว เจ้าอาวาสและชาวบ้านจึงเรียกกันว่าหลวงพ่อโต มาจนถึงปัจจุบัน โดยมีชาวบ้านทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติมาให้ความเคารพ และ สัทธาต่อหลวงพ่อโตเป็นอย่างมาก ขอ หรือ บนบานต่างๆ มักจะสำเร็จทุกราย