‘นักเขียนซีไรต์’ดึงสติอย่าหน้ามืดตามัว ความจริงที่แตกต่างของ‘ทราย สก๊อต-จนท.’แตกต่างกัน
24 เมษายน 2568 จากกรณีนายสิรณัฐ สก๊อต หรือ “ทราย สก๊อต” นักอนุรักษ์ทะเลเจ้าของฉายา “มนุษย์เงือก” อดีตที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ จากการพยายามตักเตือนนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มหนึ่งใช้คำทักทาย “หนีห่าว” ว่าเป็นการไม่ให้เกียรติและเหยียดคนไทย จนลุกลามไปสู่เรื่องอื่น ก่อนที่ ทราย สก๊อต จะประกาศลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาอธิบดีฯนั้น
ล่าสุด วิมล ไทรนิ่มนวล นักเขียนรางวัลซีไรต์ โพสต์เฟซบุ๊ก “วิมล ไทรนิ่มนวล” หัวข้อ “หน้ามืดตามัว” แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ ระบุว่า...
“หน้ามืดตามัว”
อุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งหนึ่ง โพสต์กิจกรรมและรูปภาพให้เห็นว่าพวกขาทำหน้าที่อะไรและอย่างไร แต่คอมเมนต์ที่ผมเห็นเมื่อครู่ก็ 500 กว่าแล้ว และจะเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะกระแสเกลียดชังอธิบดีฯ และเจ้าหน้าที่อุทยานแรงมาก (แต่ก็จะไปเที่ยวและบ้างก็เคยไปมาแล้ว)
ผมไม่ได้อ่านทั้งหมด แต่ไล่อ่านข้ามแบบสำรวจว่าความเห็นจะไปทิศทางใด แทบทั้งหมดก่นด่า เหน็บแนม เสียดสี สั่งสอนให้เอาแบบอย่าง “ทราย สก๊อต” และ “#ขอบคุณทรายเม็ดเดียว” ที่ช่วยทำให้พวกเขาตาสว่าง และเจ้าหน้าที่อุทยานทำงาน ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่ยกย่องทรายเป็นเทพแทบทั้งนั้น เจ้าหน้าที่อุทยานเป็นมาร
ผมเคยทำสารคดีหนังสือชุด “ถิ่นฐานบ้านเรา” เล่มละ 1 จังหวัด เก็บรวบรวมทั้งข้อมูลที่สำคัญทั้งหมดของจังหวัด พร้อมถ่ายภาพ ทำไปได้ถึง 46 จังหวัด ซึ่งก็ให้น้ำหนักที่อุทยานแห่งชาติทั้งประเทศ ทีมงานและผมต้องเข้าไปนอนกางเต็นท์ในอุทยานทุกแห่ง (ผมไม่ทุกแห่ง) จึงได้เห็นเจ้าหน้าที่ทำงานและสภาพของอุทยานว่าเป็นอย่างไร
ส่วนคนที่เห็นด้วยตาตนเองตอนไปเที่ยวตามอุทยาน ก็ย่อมรู้ว่าเจ้าหน้าอุทยานเป็นอย่างไร สภาพอุทยานเป็นอย่างไรเช่นกัน รวมทั้งคนที่ก่นด่าเสียดสี เจ้าหน้าอุทยานว่าสร้างภาพที่แสดงภาพกิจกรรม “เพราะทรายออกมาพูดความจริง” นั้นด้วย
โดยไม่ยั้งคิดว่า “ความจริงของทราย” กับ “ความจริงของเจ้าหน้าที่อุทยาน” นั้นย่อมแตกต่างกัน ก่อนจะเชื่อใครก็ต้องฟังความทั้ง 2 ด้าน หรือไปดูเองเลยว่าเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างไร
ดีว่าปลาบปลื้ม ทราย และด่าอธิบดีฯกับเจ้าหน้าที่ อยู่หน้าจอสี่เหลี่ยม ราวกับว่าก่อนทรายจะเข้าไปทำงานนั้น เจ้าหน้าอุทยานไม่ทำอะไรกันเลย งอมืองอเท้ารอรับเงินเดือน-เงินค่าจ้างเท่านั้น
เมื่อมหาชนหลงใหลคลั่งไคล้ก็ลืมไปว่าอุทยานมีมาก่อนทรายเกิด และพวกเขาบุกเบิกและทำงานกันมาจนถึงปัจจุบัน จึงได้มีสถานที่ให้ผู้คนเข้าไปพักผ่อนท่องเที่ยว ถ้างอมืองอเท้าก็จะไม่มีอุทยานให้ทรายมาร่วมงานจนเป็นเทพหรือ “วีรชนเอกชน” ผู้พิทักษ์ทะเลไทยหนึ่งเดียวหรอก
ประเทศนี้มีอยู่ให้คนก่นด่ากันไม่ได้ ถ้าข้าราชการและเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ทั้งประเทศไม่ทำงาน คนชั่ว - คนโกงนั้นมีแน่ ครึ่งดีครึ่งชั่วหาผลประโยชน์ใส่ตัวก็มี คนทำงานตามปรกติก็มี ทำงานด้วยความมุ่งมั่นก็มี คนเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นก็มี คนที่ลอยไปลอยมารอรับเงินเดือนก็มี คนสอพลอก็มี คนทำงานเก่ง เคารพกฎ กติกา มารยาท แต่เข้ากับใครไม่ได้ก็มาก มีในทุกหน่วยงานนั่นแหละ
แต่ที่น่ากลัวที่สุดก็คือคนที่คอรัปชั่นความคิด-ความเชื่อทั้งของตนและสังคม เพราะหน้ามืดตามัว ฟังความข้างเดียว มองอย่างตื้นเขินแค่ปรากฏการณ์ ไม่สนข้อเท็จจริง
ก่อนจะตัดสินใครและเรื่องใดต้องตัดสินตัวเองก่อนว่า ประเด็นปัญหาคืออะไร มีข้อมูลพอไหม หัวคิดของตนเป็นอย่างไร อคติหรือไม่ ไม่เช่นนั้นจะเป็นสังคมแห่งการแห่แหน สังคมแห่งการตื่นตูม ประเทศชาติจะเป็นอย่างไรถ้ามีคนแบบนี้มาก ๆ?
เชิญทัวร์ลงได้ตามอุปนิสัย
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี