สกสว.จัดประชุมเชิงปฏิบัติการทบทวนแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ร่วมกับภาคีเครือข่าย หวังตอบสนองสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงและทันสมัย ใช้ ววน. เป็นจุดคานงัดให้ประเทศพ้นกับดักรายได้ปานกลาง ประเดิมเวที 2 ยุทธศาสตร์แรก ทั้งการวิจัยขั้นแนวหน้าเพื่อสร้างโอกาสใหม่และความพร้อมของประเทศในอนาคต รวมถึงการพัฒนากำลังคนและสถาบัน ววน. ให้เป็นฐานการพัฒนาประเทศแบบก้าวกระโดดและยั่งยืน
ศ.ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการ สกสว. เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “การทบทวนแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ของประเทศ พ.ศ. 2566 – 2570” ร่วมกับ หน่วยบริหารและจัดการทุน ยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรมระดับขั้นแนวหน้าที่ก้าวหน้าล้ำยุค เพื่อสร้างโอกาสใหม่และความพร้อมของประเทศในอนาคต และยุทธศาสตร์การพัฒนากำลังคนและสถาบันด้าน ววน. ให้เป็นฐานการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศแบบก้าวกระโดดและอย่างยั่งยืน ณ โรงแรม เดอะ สุโกศล กรุงเทพ โดยมี รศ.ดร.คมกฤต เล็กสกุล รองผู้อำนวยการ สกสว. อาจารย์จตุรภรณ์ โชคภูเขียว รองผู้อำนวยสำนักยุทธศาสตร์แผน ติดตามและประเมินผล และ ผศ.ดร.ชินวุธ พิพัฒน์ภานุกูล ผู้อำนวยการหน่วยภารกิจยุทธศาสตร์ ววน. การพัฒนากำลังคนและสถาบัน สกสว. เข้าร่วม
ศ.ดร.สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการ สกสว. ระบุว่า แผนด้าน ววน. ของประเทศ พ.ศ. 2566 – 2570 เป็นกรอบในการจัดสรรงบประมาณจากกองทุนส่งเสริม ววน. แก่หน่วยงานในระบบ ววน. ในปัจจุบัน แต่ด้วยบริบทและสถานการณ์ของประเทศและโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงนโยบายระดับชาติที่มีการปรับเปลี่ยน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ สกสว. และ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) จะต้องร่วมกันทบทวนแผนฯ ให้มีความสอดคล้องและทันสมัย โดยเฉพาะการปรับปรุงแผนงานสำคัญตามจุดมุ่งเน้นนโยบาย และการปรับปรุงผลสัมฤทธิ์สำคัญให้มีความชัดเจน สามารถจัดเก็บข้อมูลและประเมินผลได้อย่างเป็นรูปธรรม
“การประชุมครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อติดตามความก้าวหน้าและทบทวนแผนด้าน ววน. ของประเทศ ให้ตอบสนองสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงและผลการดำเนินงานที่ผ่านมา เพื่อให้แผนฯ บรรลุเป้าหมาย รวมทั้งเพื่อให้ได้ข้อเสนอในการทบทวนและปรับปรุงผลสัมฤทธิ์สำคัญ ตลอดจนสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการติดตามและทบทวนแผนฯ โดยกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วม ประกอบด้วย หน่วยบริหารและจัดการทุน (PMUs) ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของ สอวช. รวมถึงผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของ สกสว. โดยเชื่อมั่นว่าการมีส่วนร่วมของทุกหน่วยงานจะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาระบบ ววน. ของประเทศ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน เพื่อให้สามารถนำไปแก้ปัญหาการกินดีอยู่ดีของคนในประเทศ ให้ ววน. เป็นจุดคานงัดที่หลุดพ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลาง” ผู้อำนวยการ สกสว.กล่าว
ขณะที่ ดร.สิริพร พิทยโสภณ รองผู้อำนวยการ สอวช. เปิดเผยว่า หลังการปรับปรุงแผน ววน. สอวช. มีแผนจะสื่อสารกับสาธารณชนและผู้กำหนดนโยบายที่เหมาะสม รวมถึงสภานโยบายฯ ภาคเอกชนรายใหญ่ และกลไกพื้นที่ โดยสามารถปรับเปลี่ยนประเด็นได้ตลอดเวลา เพื่อนำแผน ววน. ไปช่วยประเทศในมิติต่างๆ
ด้าน ผศ.ดร.พูลศักดิ์ โกษียาภรณ์ รองผู้อำนวยการ สกสว. เปิดเผยว่า แนวนโยบาย สกสว. เน้นการมีส่วนร่วมทั้งการใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์แผนเพื่อการตัดสินใจ การวิเคราะห์ความสำเร็จของแผน การวิเคราะห์ความสำเร็จของหน่วยบริหารจัดการทุน (PMU) เป็นต้น ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์การพัฒนา ววน. ขั้นแนวหน้าฯ มี 3 แผนงาน คือ 1.พัฒนาการวิจัยที่สร้างองค์ความรู้ใหม่ รวมทั้งการประยุกต์ใช้และต่อยอดสู่เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมขั้นแนวหน้า 2.พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมสำหรับอุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต และ 3.พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน ววน. และโครงสร้างพื้นฐานทางคุณภาพของประเทศ
สำหรับยุทธศาสตร์การพัฒนากำลังคนและสถาบันด้าน ววน.ฯ ประกอบด้วย 3 แผนงาน คือ 1.ยกระดับการผลิตและพัฒนาบุคลากร 2.พัฒนาและยกระดับสถาบัน ววน. ให้ตอบโจทย์เป้าหมายประเทศ และ 3.พัฒนาการเป็นศูนย์กลางกำลังคนทักษะสูงและศูนย์กลางการเรียนรู้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี