มีชาวจีนท่านหนึ่งตอนนี้มีอายุมากแล้วและยังอยู่เล่าให้ฟังว่าตั้งแต่มาอยู่ที่เมืองไทยและได้มาอาศัยอยู่ที่ริมแม่น้ำท่าจีน ต.บางม่วง อ.สามพราน จ.นครปฐม ในขณะที่พายเรือขายของอยู่ในแม่น้ำก็ได้เหลือบเห็นเหมือนปลาแต่ก็ไม่ชัดเท่าไรนักที่กำลังเล่นน้ำแต่มีขนาดใหญ่มากจึงได้หยุดเรือจ้องดูอยู่นานนับชั่วโมงแต่พอเข้าไปดูใกล้ๆก็ต้องตกใจเพราะสิ่งที่เห็นไม่ใช่ปลาแต่เป็นมังกรตัวใหญ่มากและทีประหลาดใจอีกอย่างมังกรเป็นสีเขียวสวยงามมากต่อมาก็ได้มีพระอาจารย์ชาวจีนมาอยู่ที่นี่เช่นกันจากและได้สร้างวัดธรรมปัญญารามบางม่วงจึงได้เล่าให้พระอาจารย์ท่านนั้นฟังท่านพระอาจารย์ก็ได้สร้างศาลมังกรเขียวขึ้นด้วยเงินทุนของชาวบ้านในละแวกนั้นด้วยเงินคนละนิดคนละหน่อยจึงเป็นที่เล่าขานกันมาตลอดหลายปี

            องสรภาณอนัมพจน์ พิสิษฐ์ เถี่ยนบ๊าว เจ้าอาวาสวัดธรรมปัญญารามบางม่วง ต.บางช้าง อ.สามพราน จ.นครปฐม มังกรเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจกษัตริย์ และเป็นสัตว์มงคลชนิดหนึ่ง มังกรก็กลายเป็นตัวแทนของผู้มีเชื้อสายจีนทั้งมวล ตำนานกล่าวว่า มังกรเขียว มีลำตัวเป็นงู หัวเป็นกิเลน หางเป็นปลา มีเครายาว มีเขา เท้าคล้ายกรงเล็บ รูปลักษณ์เป็นมังกรเหิน เปี่ยมด้วยพลังอำนาจ เนื่องจากประจำทิศตะวันออก ธาตุไม้ มีสีเขียว จึงเป็นมังกรเขียวสัตว์เทพประจำทิศทั้งสี่ในคติจีน

           นับแต่โบราณกาล ชาวจีนได้มอบน่านฟ้าทั้งสี่ทิศไว้ภายใต้การคุ้มครองของสัตว์เทพทั้งสี่ อันได้แก่ มังกรเขียว เสือขาว หงส์แดง และเต่าดำ ดังคำกล่าวที่ว่า “ซ้ายมังกรเขียว ขวาเสือขาวครอง หงส์แดงนำหน้า เต่าดำสถิตยังเบื้องหลัง” พัฒนาการของแนวคิดความเชื่อดังกล่าวมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับศาสตร์พยากรณ์และคติความเชื่อในลัทธิเต๋าของชาวจีนที่สืบทอดมานานนับพันปี

           สำหรับศาลมังกรเขียว วัดธรรมปัญญารามบางม่วง ปัจจุบันมีชาวไทยเชื้อสายจีนจำนวนมากแห่แหนเข้ามาสักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล ช่วยเสริมเรื่องการปกครอง ลูกน้อง พนักงาน สายงานบังคับบัญชา ให้ไหลลื่น ไม่ติดขัด เปี่ยมไปด้วยอำนาจ บารมีให้ผู้คนเคารพ นับถือ และยังเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของความสัมพันธ์ที่ดีกับคนในครอบครัว