พักโทษคดีฆ่าหั่นศพเมีย

หลังติดคุกนาน10กว่าปี

น้องพญ.ผัสพรไม่ติดใจ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรือนจำกลางบางขวาง จังหวัดนนทบุรี ได้ปล่อยตัวนพ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ ผู้ต้องขังคดีฆาตกรรมฆ่าหั่นศพ พญ.ผัสพร บุญเกษมสันติ ภรรยาตัวเอง ซึ่งเป็นคดีสะเทือนขวัญฆาตกรรมซ่อนเงื่อนอันโด่งดังเมื่อต้นปี 2544 และศาลฎีกาได้พิพากษายืนประหารชีวิตในวันที่ 25 กรกฎาคม 2550 ที่ผ่านมา

นายอายุตม์ สินธพพันธ์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางบางขวาง ให้สัมภาษณ์ถึงการปล่อยตัวนพ.วิสุทธิ์ว่าเนื่องจากเข้าหลักเกณฑ์การพักโทษ ซึ่งมีการพิจารณาโดยคณะกรรมการของเรือนจำก่อนส่งให้กรมราชทัณฑ์ที่มีคณะกรรมการพิจารณาอีกชั้นหนึ่งเพื่อเสนอให้กระทรวงยุติธรรมซึ่งที่ผ่านมา นพ.วิสุทธิ์ถือเป็นผู้ต้องขังชั้นเยี่ยมโดยระหว่างต้องโทษทำประโยชน์ด้วยการช่วยดูแลผู้ป่วย

ทั้งนี้ นพ.วิสุทธิ์ จำคุกมาแล้ว 10ปี7 เดือน 25วัน ได้รับอภัยโทษมาแล้วหลายครั้งเหลือโทษจำคุก อีก3ปี1เดือน 20วัน ซึ่งเข้าข่ายได้รับการพักโทษ เนื่องจากเหลือโทษอีกไม่ถึง5ปีโดยในช่วงพักโทษ นพ.วิสุทธิ์ จะอยู่ในการดูแลของกรมคุมประพฤติ จะต้องไปรายงานตัว และประพฤติตัวตามเงื่อนไขของกรมคุมประพฤติโดยจะครบกำหนดพ้นโทษจริง ในวันที่ 24 ก.ย.2560

“ก่อนหน้านี้มีโอกาสได้พูดคุยกับนพ.วิสุทธิ์ ซึ่งเคยบอกว่าหากมีโอกาส ก็อยากช่วยเหลืองานสังคมแต่ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าออกไปแล้วจะทำอะไรต่อหากผู้ต้องขังพักโทษรายใดกระทำผิดเงื่อนไข ก็ต้องถูกส่งตัวกลับเข้าเรือนจำเพื่อรับโทษที่เหลือจนครบ”นายอายุตม์ กล่าว

และว่า สำหรับผู้ต้องขังที่ได้รับการพักโทษครั้งนี้ มีทั้งหมดรวม 14 คน ซึ่งเรือนจำจะเป็นผู้สำรวจผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำของตัวเองว่าเข้าข่ายได้รับสิทธิพักโทษหรือไม่จากนั้นจึงเสนอให้กรมราชทัณฑ์และกระทรวงยุติธรรมกลั่นกรองอีกครั้ง และขอยืนยันว่าการพักโทษเป็นไปตามหลักเกณฑ์ปกติด้านนายวิทยา สุริยะวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า การพักการลงโทษดังกล่าวเพื่อให้นักโทษไปปรับสภาพการใช้ชีวิตภายนอกก่อนพ้นโทษจริง แต่ระหว่างที่อยู่บ้านนั้นยังต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของกรมราชทัณฑ์ ต้องมารายงานตัวตามที่ได้นัดหมาย รวมทั้งต้องปฏิบัติตามกฏกรมราชทัณฑ์ เช่น ห้ามดื่มสุรา ห้ามเที่ยวกลางคืน ห้ามกลับมาเยี่ยมนักโทษ ห้ามเคลื่อนย้ายภูมิลำเนา เป็นต้น แต่สามารถออกไปข้างนอกใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปได้ตามปกติ

“นพ.วิสุทธิ์ว่าเป็นคนที่มีความสามารถในการปรับตัวสูงมากเมื่อต้องเข้ามาอยู่ในคุกและมีจิตใจดีช่วยเหลืองานในคุกมาตลอด แต่ก็ต้องดูความประพฤติต่อไปเมื่อออกไปอยู่ข้างนอก โดยก่อนที่จะปล่อยนักโทษออกไป ต้องมีการตรวจสอบประวัติของผู้ที่มารับหรือมาอุปการะนักโทษซึ่งในกรณีของ นพ.วิสุทธิ์ผู้ที่มาอุปการะไป คือน้องชาย”อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าว

ขณะที่นายธนพงศ์ วัฒนเชษฐ์ อายุ 51 ปี เจ้าของร้ายจำหน่ายเครื่องนอนถนนข่วงเมรุ ต.ช้างม่อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ น้องชายของ พญ.ผัสพร กล่าวว่า เพิ่งทราบข่าวเรื่องการปล่อยตัวหมอวิสุทธิ์ ส่วนตัวรู้สึกเฉยๆ คิดว่าได้ชดใช้กรรมในสิ่งที่ก่อขึ้นแล้ว ตั้งแต่ศาลมีคำสั่งตัดสินประหารชีวิตและหมอวิสุทธิ์ได้ติดคุกในครั้งนั้น ทางครอบครัว ก็อโหสิกรรมทั้งหมดให้ไปแล้ว

“จากนี้คงไม่มีอะไรติดค้างกันอีก เหตุการณ์เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อปี2544ถึงตอนนี้ถือว่าผ่านไปเร็วมาก เขาติดคุกมา10ปีแล้ว ถือว่าเป็นกรรมที่รับไป ซึ่งเชื่อว่าคุณพ่อที่เคยวิ่งเต้นติดตามคดีนี้ มาตลอดก่อนจะเสียชีวิตโดยโรคชราไปตั้งแต่เดือนธันวาคม 2553 ก็คงคิดเช่นเดียวกับผมในวันนี้เหมือนกัน”นายธนพงศ์ กล่าว

สำหรับคดีสะเทือนขวัญฆาตกรรมซ่อนเงื่อนคดีนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2544 โดย น.พ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.พญาไทว่า พ.ญ.ผัสพร บุญเกษมสันติ สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลบุรฉัตรไชยากร ภรรยาตัวเองหายตัวไปอย่างไร้รอยเมื่อวันที่ 20-22 ก.พ.2544 แต่หลังจากมีการสืบสวนกลับพบเงื่อนงำว่าก่อนหายตัวไปนั้นนพ.วิสุทธิ์ พาพญ.ผัสพรไปรับประทานอาหารที่ร้านโออิชิ ในศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่

โดยมีกล้องวงจรปิดจับภาพนพ.วิสุทธิ์ เข้าประคองร่างพญ.ผัสพร ออกจากร้านไป จากนั้น ก็ไม่มีใครได้พบกับพญ.ผัสพรอีกเลย และได้เป็นจุดเริ่มต้นของการคลี่คลายคดีปริศนาที่ซับซ้อนจนในที่สุดนพ.วิสุทธิ์ได้ตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าชำแหละศพพญ.ผัสพรหลังพบชิ้นส่วนเนื้อยัดในบ่อเกรอะโรงแรมโซฟิเทล โดยศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 7 มี.ค.2546ให้ประหารชีวิต ต่อมาศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาเมื่อวันที่4 ก.ค.2548 ยืนตามศาลชั้นต้นและศาลฎีกามีคำพิพากษาเป็นที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 26 ก.ค.2550 ให้ประหารชีวิต

ต่อมานช.วิสุทธิ์ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษและเมื่อวันที่10 ธ.ค. 2550 พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2550 มีผลใช้บังคับนพ.วิสุทธิ์ก็ได้รับโปรดเกล้าฯ พระราชทานอภัยโทษ เหลือจำคุกตลอดชีวิตก่อนที่จะได้รับการพักโทษและปล่อยตัวออกมารับอิสระภาพในที่สุดหลังรับกรรมถูกจำคุกมาแล้ว 10 ปี7 เดือน 25วัน