เหยื่อตึกถล่มพุ่งพรวด

เจอเพิ่ม7ศพ

ยอดตายทะลัก11ชีวิต

ยังอยู่ใต้ซากอีกเพียบ

จนท.ระดมค้นหาต่อ

ผู้ต้องหาจ่อเผ่นเขมร

ความคืบหน้าเหตุอาคารยูเพลสคอนโดเทล ขนาด 6 ชั้น ตั้งอยู่ถนนเลียบคลองหก หมู่ 2 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ที่ก่อสร้างโดยบริษัท ปลูกแปลง จำกัด ถล่มลงมาทับคนงานได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมากเหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมานั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งคืนวันที่ 13 สิงหาคม ต่อเนื่องไปถึงเช้าวันที่ 14 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ได้พยายามรื้อซากอาคารเพื่อค้นหาผู้ที่อาจรอดชีวิตจากอาคารถล่ม ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมา ซึ่งเป็นอุปสรรคอย่างมาก ทำให้การค้นหาต้องหยุดชะงักเป็นระยะ เนื่องจากพื้นที่เปียกแฉะเป็นดินโคลนเหนียว เดินค่อนข้างลำบาก แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังตั้งหน้าตั้งตาค้นหาต่อไป

ลุยค้นหาข้ามคืนพบ7ศพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การค้นหาของเจ้าหน้าที่ ทำให้ศพพบเพิ่มเติมอีก 7 ราย ซึ่งเป็นการค้นหาที่โซนบีและโซนเอ โดยที่โซนบีพบศพ นายใกล้รุ่ง ทับครบุรี อายุ 36 ปี สัญชาติไทย, นางเพียบ มงคล อายุ 34 ปี สัญชาติไทย, นายสิทธิโชค แกมมะณี อายุ 19 ปี สัญชาติไทย, นายธนากร ตรีเมฆ อายุ 16 ปี สัญชาติไทย, นายดนัย สุขสม อายุ 32 ปี สัญชาติไทย, นายอิมเครือ อายุ 30 ปี ชาวกัมพูชา และที่โซนเอพบศพ นางสุนี ไม่ทราบนามสกุล สัญชาติไทย

ยังมีสูญหายอีกหลายราย

อย่างไรก็ตาม คาดว่ายังมีผู้สูญหายอยู่ในซากอาคารอีกหลายราย อาทิ นายธวัชชัย สุขสม อายุ 25 ปี ชาวไทย นายพุฒ โคกแปะ อายุ 52 ปี ชาวไทย และนายโอ้ะ อายุ 27 ปี ชาวกัมพูชา เพราะจากข้อมูลคนที่รอดชีวิตรวมทั้งยอดที่ญาติแจ้งหายไว้ยังคงไม่ครบตามจำนวนที่พบศพ

เจอศพหนุ่มพม่าเพิ่มอีก1

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ต่อมาในเวลา 16.00 น. วันที่ 14 สิงหาคม เจ้าหน้าที่สามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้อีก 1 ราย ซึ่งติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังบริเวณโซนซี โดยแขนด้านขวาขาดออกจากลำตัว ทราบชื่อต่อมา คือ นายพี อายุ 20 ปี ชาวกัมพูชา โดยมีญาติมายืนยัน ทางแพทย์จึงทำการชันสูตรเบื้องต้นก่อนนำร่างส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ทั้งนี้ สรุปยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 11 ราย เป็นชาย 8 ราย หญิง 3 ราย เป็นคนไทย 9 คน กัมพูชา 2 คน

หลายหน่วยงานร่วมมือแข็งขัน

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่าเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 25 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 5 ราย ขณะนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัย ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤติของ ปภ. หน่วยทหาร จังหวัด มูลนิธิ อาสาสมัคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ยังคงระดมกำลังพล พร้อมวัสดุอุปกรณ์ปฏิบัติการค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารอย่างต่อเนื่อง และจะดำเนินการรื้อถอนอาคารเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะมีการบันทึกภาพการดำเนินการในทุกขั้นตอนเพื่อเป็นหลักฐานประกอบในการดำเนินคดี

ช่วยค่าทำศพ3หมื่น-เจ็บ3แสน

“สำนักงานประกันสังคม จ.ปทุมธานี จะจ่ายเงินค่าจัดการศพแก่ญาติผู้เสียชีวิตรายละ 30,000 บาท และเงินค่ารักษาพยาบาลตามจริงแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บคนละไม่เกิน 300,000 บาท รวมถึงจ่ายเงินชดเชย ค่าทดแทนกรณีพักรักษาตัว กรณีสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ ตลอดจนประสานกรมสุขภาพจิต จัดเจ้าหน้าที่ฟื้นฟูสภาพจิตใจแก่ญาติผู้เสียชีวิต”อธิบดี ปภ.กล่าว

วอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยค้นหา

ขณะที่ช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผวจ.ปทุมธานี ได้นิมนต์พระภิกษุสงฆ์ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับร่างผู้เสียชีวิต โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารญาติผู้เสียชีวิต หน่วยกู้ภัยและส่วนเกี่ยวข้องร่วมในพิธี โดยญาติของผู้ประสบเหตุได้มีการจุดธูปเทียน เพื่อขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้ค้นหาร่างให้เจอ พร้อมกับภาวนาให้ยังมีชีวิตรอด แม้จะล่วงเลยเข้าวันที่ 4 แล้วก็ตาม

รื้อซากอาคารเสร็จแล้วกว่า60%

นายชาญ พวงเพ็ชร์ นายก อบจ. ปทุมธานี เปิดเผยว่า ได้มีการนำเครื่องมือหนัก เป็นรถแบ็กโฮลงรื้อซากปรักหักพัง ขณะนี้การทำงานรื้อซากอาคารแล้วเสร็จไปกว่า 60% แล้ว และจะยังคงเดินหน้าค้นหาร่างผู้เสียชีวิตต่อไป โดยการทำงานในเวลากลางคืนจะช่วยทำให้ทีมค้นหาไม่เพลียกับแสงแดด

ตร.เร่งติดตามตัวผู้ต้องหา

เเหล่งข่าวในชุดสืบสวน เเจ้งว่า ขณะนี้ยังเหลือผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีนี้ คือ นายชานัยชนม์ เกิดเทศ อายุ 46 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้าง ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี 623/2557 ลงวันที่ 12 สิงหาคม 2557 นายจิระ ขันมั่น อายุ 43 ปี ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี 624/2557 ลงวันที่ 12 สิงหาคม 2557 และ น.ส.หนู (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ในฐานะนิติบุคคลและส่วนตัว (กก.ผจก.บริษัท ยู เพลส จำกัด) ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี 630/2557 ลงวันที่ 13 สิงหาคม 2557 ซึ่งเป็นบุตรสาวของนางเพ็ญศรี กิติไพศาลนนท์ อายุ 49 ปี ผู้ขออนุญาตก่อสร้างอาคาร ที่ถูกควบคุมตัวไปก่อนหน้านี้

2รายหนีกบดานชายแดนเขมร

เเหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า น.ส.หนู ซึ่งเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ น่าจะเดินทางกลับมามอบตัวภายในสัปดาห์หน้า ส่วน นายชานัยชนม์ เเละนายจิระ ยังอยู่ระหว่างหลบหนี คาดว่าน่าจะหนีไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระเเก้ว ซึ่งติดกับชายแดนกัมพูชา โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีแล้ว สำหรับความคืบหน้าการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ นั้น ในวันเดียวกันนี้ พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บที่อาการดีขึ้น เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีเเล้ว

ทนายยื่นเงินประกันรายละ1แสน

พ.ต.อ.รัชพล ชนะศรีขจร ผกก.สภ.คลองห้า เปิดเผยว่า ในส่วนของผู้ต้องหาทั้ง 4 คนที่เกี่ยวข้องกับอาคารดังกล่าว ถูกออกหมายจับไปก่อนหน้าในข้อหากระทำการโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับบาดเจ็บ ทางทนายความได้ยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวไปเป็นเงินสดรายละ 100,000 บาท ในส่วนของคดีความทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานรวม 25 ปาก เป็นคนงานที่รอดชีวิต ทั้งนี้ ต้องรอการสอบปากคำผู้คุมงาน วิศวกรและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการควบคุมการดูแลการก่อสร้าง ส่วน นายชานัยชนม์ ได้ติดต่อกับทางพนักงานสอบเพื่อขอมอบตัวแล้ว