8 พ.ค.58 ที่สถานีวิจัยลำตะคอง ถ.มิตรภาพ บ้านเขาน้อย ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานคณะทำงานแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินราชพัสดุ(มอปลาย่าง) ได้ระดมกำลังทั้งฝ่ายทหารจากกองทัพภาคที่ 2, ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, กองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดน, อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน, อาสาสมัครป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมกว่า 2,000 คนเข้าปฏิบัติการตามยุทธศาสตร์ "ฟ้าสางที่ลำตะคอง" เพื่อกระจายกันเข้าทำการรื้อย้ายอาคารบริเวณที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียน ส.นม.2806 บริเวณริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง (มอปลาย่าง) บ้านเขาน้อย ม. 12 ถ.มิตรภาพ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และบ้านคลองไผ่ หมู่ 1 ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา โดยได้แบ่งกำลังออกเป็น 20 ชุด เข้าทำการรื้อย้ายร้านอาหารจำนวน 20 ราย ซึ่งแบ่งเป็นผู้ประกอบการที่ยินยอมให้รื้อถอนจำนวน 13 ราย และไม่ยินยอมอีก 7 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านค้าขนาดใหญ่ในกลุ่มแกนนำ ที่คัดค้านการรื้อย้ายครั้งนี้ ซึ่งให้บริการทั้งร้านอาหารและที่พัก เช่น วังกุ้งใหญ่ ,ครัวน้องเบนซ์ , ลำตะคองซีฟู๊ด และครัวอีสาน เป็นต้น ที่ปลูกสิ่งก่อสร้างบุกรุกที่ดินราชพัสดุเป็นปัญหายืดเยื้อมายาวนานกว่า 40 ปี ซึ่งก่อนปฏิบัติการเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ร้านอาหารมอปลาย่างก่อนเข้าดำเนินการรื้อถอนเพื่อความปลอดภัยด้วย
ทั้งนี้ ก่อนเข้าปฏิบัติการรื้อ นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา , นายวินัย วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และ นายปัญญา วงศ์ศรีแก้ว นายอำเภอปากช่อง ต้องกระจายกันเข้าเจรจาชี้แจงด้วยตัวเอง มีบางร้านที่แสดงความไม่พอใจ ขว้างขวดแก้ว โยนโต๊ะเก้าอี้ ใส่ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ และผู้สื่อข่าวรวมถึงต่อว่า และสาปแช่งด้วยคำไม่สุภาพ แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงเดินหน้าทำการรื้อย้าย ขณะที่การจราจรในบริเวณดังกล่าวติดขัดเป็นระยะทางยาว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ต้องใช้รถบรรทุกและเครื่องจักรกลเพื่อขนย้ายสิ่งของโดยมีการปิดถนนมิตรภาพ 1 เลน โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวน 1,000 คน ซึ่งทำหน้าที่รื้อร้านอาหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ 300 นาย , ทหาร 300 นาย และฝ่ายปกครอง 100 นาย ซึ่งทำหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย รวมทั้งเจ้าหน้าที่สนับสนุนน้ำดื่ม อาหาร และบริการอีก 300 คน
โดยเป้าหมายในการรื้อถอนครั้งนี้เป็นระยะแรกจากทั้งหมด 3 ระยะ มีร้านอาหารเป้าหมายที่ต้องถูกรื้อจำนวน 20 ร้าน แยกเป็นร้านอาหารที่ยินยอมจำนวน 13 ร้าน และร้านอาหารของแกนนำผู้คัดค้านอีก 7 ร้าน ซึ่งรวมทั้งร้านครัวน้องเบนซ์ ของนายสุเวช จันทร์จันทึก ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ที่เป็นแกนนำคัดค้านมาโดยตลอด ซึ่งก่อนหน้านี้ ร้านอาหารของแกนนำทั้ง 7 ร้าน ไม่ได้อยู่ในแผนการรื้อถอน แต่ทางจังหวัดฯ ได้ปิดเป็นความลับ ก่อนลงมือเข้ารื้อถอนพร้อมกันในวันนี้ ซึ่งระหว่างเข้าทำการรื้อถอน ทางเจ้าของร้านก็ได้ต่อว่าต่อขานด่าทอเจ้าหน้าที่ต่างๆ นานา โดยไม่ยินยอมให้เข้ารื้อถอน และพยายามจะทำการขัดขวาง และขอระยะเวลาเคลียร์สิ่งของภายในร้านก่อน แต่ถูกนายวินัย วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เข้าไปพูดคุยเจรจาทำความเข้าใจ โดยกล่าวว่า ทางร้านไม่มีอำนาจต่อรอง และให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการรื้อถอนทันที ทำให้พนักงานในร้านต้องช่วยกันเก็บสิ่งของภายในร้านออกไปกองไว้ด้านนอกร้าน เพื่อไม่ให้ข้าวของเสียหาย
สำหรับสิ่งของร้านอาหารที่ถูกรื้อถอนทั้งหมด เจ้าหน้าที่ได้ทำการย้ายไปเก็บไว้ภายในอาคารสถานีวิจัยลำตะคอง ซึ่งอยู่ใกล้เคียง โดยการรื้อถอนในวันนี้ปรากฏว่า ไม่มีกลุ่มมวลชนมาขัดขวาง และไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดหรือบานปลายเกิดขึ้น
สำหรับแผนการรื้อถอนระยะที่ 2 จะเข้ารื้อถอนร้านอาหารอีกจำนวน 25 ราย ในวันที่ 15 พ.ค.58 นี้ และระยะที่ 3 จะรื้อถอนอาคาร ห้องน้ำ และสิ่งก่อสร้างทั้งหมดที่เหลืออยู่ ในช่วงต้น ก.ค.58 และหลังจากรื้อถอนร้านอาหารออกไปจากพื้นที่ทั้งหมดได้แล้ว ทางจังหวัดนครราชสีมา ก็จะดำเนินการพัฒนาพื้นที่ปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณดังกล่าว ให้พี่น้องประชาชนทั่วไป ได้ใช้สอยประโยชน์ร่วมกัน โดยปรับปรุงจุดพักรถ จุดชมวิว และปลูกต้นไม้ทำเป็นสวนสาธารณะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ
นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ทั้ง 20 ชุดสามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้ทุกจุด ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และการเข้าปฏิบัติการครั้งนี้ ได้ทำเป็นขั้นเป็นตอนตามระเบียบของกฎหมายและจัดแปลงรองรับไว้ให้ห่างจากจุดเดิมไปประมาณ 14 กิโลเมตร ซึ่งหากวันนี้ สามารถเข้าปฏิบัติการรื้อร้านค้าที่เหลือได้ก็ให้ทำไปทั้งหมด แต่หากเวลามีไม่พอและค่ำก่อน ก็จะเข้ามารื้อย้ายในภายหลัง การดำเนินการวันนี้ ได้ให้เวลาผู้ประกอบการมานานแล้ว หากผู้ที่ไม่ยินยอมก็พร้อมที่จะเจรจา เพราะความจริงเราก็ไม่อยากรื้อแต่ต้องทำด้วยใจจำยอม เราก็ไม่สบายใจต้องไปรื้อบ้านคน แต่ด้วยข้อกฎหมายและระเบียบกฎเกณฑ์ จำเป็นต้องรื้อย้ายเพื่อให้เป็นตัวอย่างที่อื่นๆ ด้วย ส่วนสิ่งของและทรัพย์สินของประกอบการ รวมถึงวัสดุก่อสร้างที่รื้อถอนวันนี้ ท้องถิ่นจะเป็นผู้เก็บรักษาไว้เพื่อให้เจ้าของมาติดต่อขอรับคืนพร้อมจ่ายค่ารื้อถอนให้กับหน่วยงานรัฐ นายธงชัย กล่าว
ด้านพล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสนับสนุนกว่า 300 นาย เป็นชุดควบคุมฝูงชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรและดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งวันนี้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีเหตุปะทะรุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด มีเพียงการปะทะคารมกันเท่านั้น แต่สุดท้ายก็ให้ความร่วมมือกัน ซึ่งเมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมาทางธนารักษ์พื้นที่นครราชสีมา ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ไม่ยินยอมจำนวน 29 ราย โดยผู้ถูกแจ้งความได้เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาก่อนปล่อยตัวไป ซึ่งตนได้กำชับให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดการดำเนินคดี และคาดว่า ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ขณะที่นายจริยะ สัตยารักษ์ รักษาราชการแทนธนารักษ์พื้นที่นครราชสีมา กล่าวว่า ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.หนองสาหร่าย ให้ดำเนินคดีกับผู้ประกอบการที่ไม่ยอมยอมตามรายชื่อที่ฟ้องศาลปกครองรวม 29 ราย ในข้อหาบุกรุกที่ดินของรัฐ ซึ่งหากการสอบสวนพบผู้กระทำผิดอาจจะมากกว่า 29 รายดังกล่าว และทราบว่า กรมทางหลวงได้เข้าแจ้งความกับผู้ประกอบการอีก 11 ราย ซึ่งอาจจะมีรายชื่อทับซ้อนกัน นายจริยะ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี