พุทธศาสนิกชนทั่วประเทศร่วมส่งเสด็จสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในการพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระสังฆราช เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม
เคลื่อนพระโกศ‘พระสังฆราช’
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 06.00 น. ที่หน้าวัดบวรนิเวศวิหาร เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง (สนว.) เจ้าหน้าที่กรมศาสนา (ศน.) เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ศิษยานุศิษย์ ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเตรียมริ้วขบวนเคลื่อนพระโกศพระศพสมเด็จพระสังฆราช ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พล.ท.หม่อมเจ้าเฉลิมศึก ยุคล อดีตรองเจ้ากรมวิทยาศาสตร์ทหารบก เสด็จแทนพระองค์ไปในการบำเพ็ญพระกุศลทอดผ้าไตรพระสงฆ์10 รูป สดับปกรณ์ ณ ตำหนักเพ็ชร จากนั้นเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังเชิญพระโกศพระศพออกจากตำหนักเพ็ชร ไปประดิษฐานบนราชรถเชิญพระโกศพระศพ ขณะที่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เดินไปขึ้นราชรถพระนำสวดพระอภิธรรม
ต่อมาเวลา 08.00 น. ริ้วขบวนพระอิสริยยศอัญเชิญพระโกศพระศพเคลื่อนจากวัดบวรฯ ไปตามถนนพระสุเมรุ มุ่งหน้าแยกป้อมมหากาฬ ผ่านแยกผ่านฟ้า เข้าสู่ถนนหลานหลวง ถึงแยกสะพานขาวเลี้ยวขวาเข้าถนนกรุงเกษม ข้ามสะพานเจริญราษฎร์เข้าสู่แยกกษัตริย์ศึก ผ่านโรงเรียนวัดเทพศิรินทร์ เลี้ยวขวาแยกนพวงศ์ เข้าสู่ถนนหลวง ถึงพระเมรุหลวงวัดเทพศิรินทราวาสตามกำหนดพิธี เวลา 10.00 น.
ทั้งนี้ ในริ้วขบวนที่ 1 ประกอบด้วยพนักงานพระราชพิธีนำริ้ว 1 คน ประตูหน้า2 คน ธง 3 ชาย 2 คน คู่แห่นุ่งผ้าเกี้ยวลายสวมเสื้อครุย ลอกพอก สายละ 80 คน 2 สายกลองชนะพื้นแดงลายทอง สายละ 40 คน 2 สาย จ่าปี่ 2 คน จ่ากลอง 2 คน แตรฝรั่ง 16 คน แตรงอน 16 คน สังข์ 2 คน สารวัตรกลองชนะ 1 คน สารวัตรแตร 1 คน ส่วน เครื่องสูงพระนำหน้า ประกอบด้วยฉัตร 5 ชั้น 6 คน บังแทรก 4 คน ฉัตร 7 ชั้น 2 คน และเครื่องสูงหลังพระนำ ประกอบด้วยฉัตร 5 ชั้น4 คน ฉัตร 7 ชั้น 2 คน บังแทรก สัปทนกั้นพระนำ 1 คน บังสูรย์พระนำ 1 คน กำกับเครื่องสูงพระนำ 1 คน พนักงานอัญเชิญพัดยศสมณศักดิ์พระนำ 1 คน รถพระอ่านพระอภิธรรมนำ คนฉุดชักรถพระนำและยกบันได 24 คน พนักงานถือแพนหางนกยูง 1 คนคู่เคียง รถพระนำ 8 คน กำกับรถพระนำ 4 คน
ส่วนริ้วบวนที่ 2 ประกอบด้วย เครื่องสูงเชิญหน้าราชรถพระโกศพระศพ ฉัตร 5 ชั้น6 คน ฉัตร 7 ชั้น 2 คน บังแทรก 4 คนกำกับเครื่องสูงหน้า 1 คน ผู้อำนวยการขบวน1 คน ผู้จัดขบวนและควบคุม 2 คน พระแสงหว่างเครื่องหน้า 5 คน กำกับพระแสงหว่างเครื่อง 1 คน ราชรถอัญเชิญพระโกศพระศพคนฉุดชักราชรถและยกบันได 54 คน กำกับราชรถเชิญพระโกศ 5 คน พนักงานถือแพนนกยูง1 คน พนักงานภูษามาลาประคองพระโกศ2 คน เชิญพระกลดตาดขาว 1 คน บังพระสูรย์1 คน พัดโบก 1 คน คู่เคียงราชรถพระโกศพระศพ 16 คน อินทร์เชิญจามร 8 คน พรหมเชิญจามร 8 คน เครื่องสูงหลังราชรถพระโกศ ประกอบด้วยฉัตร 7 ชั้น 2 คนฉัตร 5 ชั้น 4 คน บังแทรก 2 คน กำกับเครื่องสูงหลัง 1 คน เชิญพระแสงหว่างเครื่องหลัง 3 คนประตูหลัง 2 คน เชิญเครื่องสมณศักดิ์ตาม 20 คน ส่วนริ้วขบวนที่ 3 ประกอบด้วย พระสงฆ์และคณะศิษยานุศิษย์
ปชช.กราบส่งเสด็จครั้งสุดท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศตลอดเส้นทางที่ริ้วขบวนฯพระศพเคลื่อนผ่านมีประชาชนจำนวนมากจากทั่วสารทิศ แต่งกายชุดดำไว้ทุกข์มาร่วมส่งเสด็จ บริษัท ห้างร้านบริเวณดังกล่าวได้ตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระรูปสมเด็จพระสังฆราช ขณะที่ประชาชนบางส่วนถือพระรูปสมเด็จพระสังฆราชยกไว้เหนือศีรษะ หลายคนก้มลงกราบเมื่อริ้วขบวนฯพระศพเคลื่อนผ่าน เพื่อแสดงความเคารพศรัทธาและแสดงความไว้อาลัย เมื่อขบวนฯเคลื่อนผ่านหน้าตำหนักเพ็ชรไปได้สักระยะ ผู้ที่มาร่วมส่งเสด็จตลอดสองข้างทาง ได้ลงจากฟุตบาทเดินตามขบวนฯพระศพ ทำให้ขบวนฯมีความยาวเป็นระยะทางกว่า 500 เมตร
ขบวนพระศพถึงวัดเทพศิรินทร์
กระทั่งเวลา 10.00 น. ริ้วขบวนพระอิสริยยศอัญเชิญพระศพ สมเด็จพระสังฆราชเคลื่อนผ่านหน้าโรงเรียนเทพศิรินทร์ ถนนกรุงเกษม ซึ่งมีนักเรียน ประชาชนตั้งแถวนั่งรอรับริ้วขบวนฯพระศพตลอดสองข้างทางก้มลงกราบสักการะเมื่อพระโกศเคลื่อนผ่าน บางคนถึงกับร่ำไห้ด้วยความอาลัยจากนั้นริ้วขบวนพระอิสริยยศ เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหลวง และเลี้ยวขวาเข้าสู่พระเมรุ วัดเทพศิรินทราวาส เจ้าหน้าที่ปรับริ้วขบวนที่ 2 โดยมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์นั่งเสลี่ยงพระนำอ่านพระอภิธรรม จากนั้นเชิญพระโกศพระศพ เวียนรอบพระเมรุ 3 รอบ แล้วเชิญพระลองในขึ้นประดิษฐานยังพระจิตกาธานบนพระเมรุ เป็นอันเสร็จพระราชพิธีในช่วงเช้า
สำหรับพระเมรุ วัดเทพศิรินทราวาสสถานที่พระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระสังฆราช ถูกตกแต่งด้วยดอกไม้สวยงาม และช้างสีฟ้า ทำจากดอกบานไม่รู้โรย ซึ่งเป็นสีประจำวันประสูติคือ วันศุกร์ โดยช้างหมายถึงนามสกุลคชวัตร
ปชช.รอถวายดอกไม้จันทน์คับคั่ง
ส่วนที่บริเวณสนามกีฬา โรงเรียนวัดบวรนิเวศ ซึ่งจัดเป็นซุ้มที่เปิดให้ประชาชน ถวายดอกไม้จันทน์ เพื่อร่วมส่งเสด็จสมเด็จพระสังฆราช มีประชาชนมายืนเข้าแถวรอเป็นจำนวนมากเพื่อถวายดอกไม้จันทน์ ท่ามกลางแสงแดดและอากาศที่ร้อน ทำให้หลายคนถึงกับเป็นลมล้มพับ โดยทางวัดบวรฯเปิดให้ถวายดอกไม้จันทน์ตั้งแต่เวลา 12.30 น.เช่นเดียวกับ ที่วัดเทพศิรินทราวาสได้จัดซุ้มรับดอกไม้จันทน์ไว้ให้ประชาชนเพื่อถวายส่งเสด็จสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งกรุงเทพมหานครเตรียมดอกไม้จันทน์วัดละ 50,000 ดอก
โดยพิธีถวายดอกไม้จันทน์ใน 46 เขตกทม.และหลายจังหวัดทั่วประเทศนั้น แบ่งเป็น2 ช่วง ช่วงแรกเริ่มตั้งแต่เวลา 12.30-15.30 น.จากนั้นจะหยุดให้ประชาชนถวายดอกไม้จันทน์เพื่อให้ประชาชนเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จฯ และร่วมพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ ในเวลา 16.30 น. หลังสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารเสด็จฯ ขึ้นพระเมรุพระราชทานเพลิงแล้ว จะเริ่มให้ประชาชนเข้าถวายดอกไม้จันทน์ ช่วงที่ 2 เวลา 18.00-19.00 น. ก่อนที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะเสด็จฯขึ้นพระเมรุพระราชทานเพลิง (จริง) เวลา 20.00 น.
ปชช.ชื่นชมพระจริยวัตรงดงาม
น.ส.อาภา ติยายน อายุ 69 ปี ซึ่งมาเข้าแถวรอถวายดอกไม้จันทน์ที่วัดบวรฯเปิดเผยว่า ตนเป็นชาวจังหวัดลำพูน ขึ้นเครื่องบินมากับเพื่อน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม เพื่อมารอเฝ้าส่งเสด็จในริ้วขบวนฯพระศพสมเด็จพระสังฆราชช่วงเช้าวันนี้และรอถวายดอกไม้จันทน์ที่วัดบวรฯ ซึ่งมีความรู้สึกรักและอาลัยที่สมเด็จพระสังฆราชจากไป แต่ก็เป็นสัจธรรมของโลก ถึงแม้ตนจะไม่เคยเข้าเฝ้าท่านเมื่อสมัยยังมีชีวิตอยู่แต่ด้วยพระจริยวัตรที่งดงาม อยู่ในความสมถะทำให้รู้สึกเคารพรักและนับถือท่านมาก ทั้งนี้ ตนจะเดินทางมาไหว้พระอัฐิท่านอีกครั้งวันที่ 18 ธันวาคม ที่วัดบวรฯ
จองที่ข้ามคืนจัดโต๊ะหมู่ส่งเสด็จ
ขณะที่น.ส.ดลนภา กลัดบุบผาอายุ 40 ปี ชาวพระราม 3 เขตบางคอแหลมกทม. เปิดเผยว่า ตนมากับเพื่อนมาจองพื้นที่ริมฟุตบาธบริเวณแยกสะพานผ่านฟ้า ตั้งแต่เวลา 19.00 น. วันที่ 15 ธันวาคม เพื่อจัดโต๊ะหมู่บูชาส่งเสด็จขบวนฯพระศพในเช้าวันนี้ ส่วนตัวศรัทธาในสมเด็จพระสังฆราชมาก เพราะท่านมีเมตตา และได้รับการยอมรับจากชาวไทยและพุทธศาสนิกชนทั่วโลก ว่าเป็นพระสงฆ์ที่ยึดหลักปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และตนได้ยึดหลักธรรมะที่พระองค์สอนซึ่งเข้าใจได้ง่าย สามารถปฏิบัติได้จริงในชีวิตประจำวัน หลังส่งเสด็จริ้วขบวนฯแล้ว ได้รอถวายดอกไม้จันทน์ที่วัดบวรฯแสดงความไว้อาลัยต่อพระองค์ท่านด้วย
พระบรมฯเสด็จพระราชทานเพลิง
เมื่อเวลา 16.28 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในการพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน) ณ พระเมรุ วัดเทพศิรินทราวาส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ โอกาสนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาและพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ โดยเสด็จด้วย
ในการนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯขึ้นพลับพลาอิศริยาภรณ์ ถวายพัดรองที่ระลึกงานพระเมรุแด่สมเด็จพระราชาคณะที่ถวายพระธรรมเทศนาและพระสงฆ์ 15 รูป ที่สวดศราทธพรตคาถาแล้วเสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม สมเด็จพระราชาคณะถวายศีลจบทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชวงศ์เสด็จไปยังพระเมรุ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย สำหรับพระศพทรงธรรม สมเด็จพระราชาคณะถวายพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 จบ พระสงฆ์ 15 รูป สวดศราทธพรตคาถาจบแล้ว เสด็จฯ ไปทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ พร้อมด้วยตู้สังเค็ดที่ระลึกงานพระเมรุ และทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์ทั้งนั้นสดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ลงจาากพลับพลาอิศริยาภรณ์
เวลาต่อมา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯขึ้นพระเมรุ ทรงจุดไฟที่ชนวนตำรวจวังชูถวายพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระสังฆราชชาวพนักงานประโคมสังข์ แตรงอน แตรฝรั่งปี่ กลองชนะ แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปประทับบนพลับพลาอิศริยาภรณ์
จากนั้น ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะผู้นำพระพุทธศาสนาโลก 19 รูป จาก 13 ประเทศพระบรมวงศานุวงศ์ และราชสกุล คณะองคมนตรี นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี คณะทูต ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรอิสระและข้าราชการ ขึ้นถวายพระเพลิงตามลำดับ ได้เวลาอันสมควรเสด็จพระราชดำเนินกลับ
วธ.พิมพ์จม.เหตุงานพระศพ
ด้านนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.)เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติลงพื้นที่เก็บข้อมูลและบันทึกภาพพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระสังฆราชโดยละเอียด เพื่อจัดทำจดหมายเหตุงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 16 ธันวาคม เริ่มริ้วขบวนพระอิสริยยศเคลื่อนพระศพออกจากวัดบวรนิเวศวิหาร จนมาถึงวัดเทพศิรินทราวาส และประกอบพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพเสร็จสิ้น นอกจากนี้ ยังเก็บข้อมูลการดำเนินงานไปถึงวันที่ 20 ธันวาคม ซึ่งจะมีพิธีบรรจุพระสรีรางคาร พระวิหารเก๋ง วัดบวรนิเวศวิหาร โดยจัดพิมพ์เป็นแบบปกแข็ง 800 หน้า จำนวน 10,000 เล่ม กำหนดแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2559
หลายจว.พร้อมใจส่งเสด็จ
ขณะที่หลายจังหวัดทั่วประเทศ พร้อมใจร่วมถวายสักการะ และถวายดอกไม้จันทน์ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระสังฆราช โดยชาวบ้านในจ.กาญจนบุรี บ้านเกิดสมเด็จพระสังฆราช ไปจับจองพื้นที่บริเวณหอพระประวัติสมเด็จพระสังฆราช สถานที่ประกอบพิธีถวายดอกไม้จันทน์ ซึ่งมีการตั้งพระเมรุจำลองเพื่อประกอบพิธีส่งเสด็จ
เช่นเดียวกับ ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือวัดใหญ่ อ.เมืองพิษณุโลกพุทธศาสนิกชนจำนวนมากร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพอย่างเนืองแน่น พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ได้ติดตั้งจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ เพื่อให้ประชาชนติดตามถ่ายทอดสัญญาณสดพิธีการจากกรุงเทพมหานครตลอดเวลา
ที่จ.อุดรธานี พุทธศาสนิกชนจำนวนมากร่วมถวายดอกไม้จันทน์ที่วัดโพธิสมภรณ์ พระอารามหลวงอย่างเนืองแน่น โดยจังหวัดจัดเตรียมดอกไม้จันทน์ไว้กว่า 10,000 ช่อ
ส่วนพุทธศาสนิกชน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แต่งกายชุดไว้ทุกข์สีดำไปวัดโคกสมานคุณ พระอารามหลวง เพื่อร่วมถวายดอกไม้จันทน์และพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพพร้อมกับส่วนกลางกรุงเทพมหานคร
กาฬสินธุ์นำเด็กพิการถวายอาลัย
ที่โรงเรียนกาฬสินธุ์ปัญญานุกูล อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พระครูอนุกูลปริยัติการ (ดร.) รองเจ้าคณะอำเภอยางตลาด นายสันติ ฤๅไชย ผู้อำนวยการโรงเรียนกาฬสินธุ์ปัญญานุกูล พร้อมคณะครูอาจารย์ และนักเรียนชาย-หญิงกว่า 500 คน แต่งกายชุดดำไว้ทุกข์ส่งเสด็จสมเด็จพระสังฆราช
นายสันติเปิดเผยว่า ทางโรงเรียนได้เปิดโอกาสให้นักเรียน ซึ่งเป็นเด็กพิการและคณะครูอาจารย์ร่วมทำกิจกรรมทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล ถวายอาลัยสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งมีพระจริยวัติงดงาม และร่วมถวายดอกไม้จันทน์งานพระศพ โดยด.ช.พัทนันท์ วาสุติ อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 ซึ่งพิการทางการเคลื่อนไหวนั่งรถเข็นนำเพื่อนนักเรียนร่วมถวายดอกไม้จันทน์ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี