9 ก.พ. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มชาวเล ชุมชนบ้านราไวย์ จ.ภูเก็ต ได้เข้ายื่นหนังสือถึงนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม เพื่อขอให้เร่งช่วยแก้ปัญหาชุมชนชาวเลหาดราไวย์ โดยมีนายดำรงค์ ทองสม รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นผู้รับมอบหนังสือแทน โดยนายสนิท แซ่ซั่ว ผู้ประสานงานชาวเลราไวย์ กล่าวว่า มายื่นหนังสือกับ รมว.วัฒนธรรม เพื่อให้เร่งดำเนินการ 4 ข้อ ดังนี้ 1.ขอให้ วธ.สนับสนุนการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนในพื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่ทำกิน และพื้นที่จิตวิญญาณ เพื่อรักษาวิถีวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเล 2.ขอให้ วธ.เร่งดำเนินการฟื้นฟู ทำขอบเขตสุสานและพื้นที่ทางจิตวิญญาณของชาวเลทั้ง 24 แห่ง ให้เป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรม 3.ขอให้เร่งบรรจุเขตคุ้มครองทางวัฒนธรรมตามแนวทางข้อเสนอของสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในรัฐธรรมนูญ และเร่งดำเนินการสนับสนุนให้เกิดพื้นที่ต้นแบบ และ 4.ขอให้แก้ปัญหาและพัฒนาชุมชนชาวเล บ้านราไวย์ เป็นพื้นที่ต้นแบบในการคุ้มครองทางวัฒนธรรมของชาวเล

"ชาวเลราไวย์ได้ไปร้องกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอให้ช่วยแก้ปัญหา แต่ที่มากระทรวงวัฒนธรรม เพราะเป็นกระทรวงที่รับผิดชอบโดยตรงตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 2 มิ.ย.2553 ซึ่ง ครม.มีมติให้เร่งแก้ปัญหาและอนุรักษ์วัฒนธรรมชาวเล ทั้งนี้ เมื่อประกาศเป็นเขตวัฒนธรรมพิเศษแล้วก็จะสามารถจัดการพื้นที่ได้ ซึ่งจะมีส่วนช่วยปกป้องพื้นที่ทางจิตวิญญาณ โดยเฉพาะศาลโต๊ะบาลัย ช่วยรักษาขนบธรรมเนียมของชาวหาดราไวย์ไว้ได้"

นายสนิท กล่าวต่อว่า ปัจจุบันความขัดแย้งในพื้นที่ยังไม่ยุติ แต่ทางบริษัทเอกชนยอมเปิดพื้นที่ทางเข้าออกให้ 2 เมตร ตามคำสั่งของผู้ว่าฯ จ.ภูเก็ต แต่ยังมีการปิดกั้นไม่ให้ชาวเลเข้าไปในพื้นที่ทำกินหน้าหาด และพยายามให้ย้ายศาลโต๊ะบาลัยไปยังบริเวณอื่น โดยอ้างว่าโต๊ะบาลัยอยู่ในพื้นที่ตามเอกสารสิทธิ์ของเอกชน แต่ชาวเลยืนยันว่า บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่สาธารณะ และรับไม่ได้ที่จะให้ย้ายศาล ซึ่งเป็นที่เคารพมาหลายชั่วอายุคนไปตั้งที่อื่น

ด้านนายดำรงค์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งวธ.จะได้รวบรวมประเด็นทางวัฒนธรรมเสนอไป เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อคนทุกกลุ่ม