25 ก.พ.59 ที่ บ้านบางหลาโอน หมู่ 7 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา หลังจากผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า ขณะนี้คลองบางหลาโอน ซึ่งเป็นคลองที่ไหลลงสู่ทะเลได้เกิดเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็นกระจายเป็นวงกว้าง จนทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมาถึงกับต้องใช้มือปิดจมูก เนื่องจากทนความเหม็นไม่ไหว จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ย่านเขาหลักเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดพังงา ซึ่งมีโรงแรมระดับห้าดาว บังกะโล แหล่งชอปปิ้งอยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีชายหาดที่สวยงามมีนักท่องเที่ยวมานอนอาบแดดพักผ่อนแต่ละปีจำนวนมาก เงินสะพัดแต่ละปีหลายพันล้านบาท

ชาวบ้านในพื้นที่บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ปัญหาการปล่อยน้ำเสียลงสู่คลองบางหลาโอนเป็นปัญหามาต่อเนื่อง จนกระทั่งเริ่มมีผลกระทบหนักตั้งแต่ช่วงฤดูแล้งของปีที่ผ่านมา แต่กลับไม่มีการแก้ไขอย่างจริงจัง ผ่านมาแล้วครบหนึ่งปี น้ำเน่าเสียก็ยังคงถูกปล่อยลงสู่ลำคลองบางหลาโอนและคลองอื่นๆ เหมือนเดิม โดยต้นคลองที่เริ่มเน่าเสียจะอยู่กลางแหล่งชอปปิ้ง ซึ่งมีผู้ประกอบการไม่ว่าจะเป็น ร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก ได้ต่อท่อน้ำเสียออกจากตัวอาคารให้ไหลลงคูระบายน้ำข้างถนนก่อนจะไหลลงสู่ลำคลองสาธารณะ โดยที่ไม่มีการบำบัดแต่อย่างใด

ทำให้น้ำเสียที่ไหลมารวมกันในลำคลองเกิดการเน่าและไหลออกไปสู่ทะเล ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมาก เดินเล่น ว่ายน้ำ อาบแดด ตลอดแนวชายหาด ขณะที่ผู้สื่อข่าว กำลังบันทึกภาพอยู่นั้นได้พบกับนักท่องเที่ยวรายหนึ่งเมื่อเดินผ่านคลองที่น้ำเน่าไหลสู่ทะเลถึงกับต้องใช้มือปิดจมูกพร้อมทั้งหยุดยืนดูด้วยความสนใจ จึงได้เข้าไปพูดคุยสอบถาม

มิสเตอร์ ฟาน เวนท์ Franz Wenth อายุ 65 ปี นักท่องเที่ยวชาวออสเตรีย กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เนื่องจากเขาหลักมีชายหาดที่สวยงาม อากาศดี เหมาะแก่การพักผ่อน ตนจึงเดินทางมาพักที่เขาหลักในช่วงฤดูร้อนของทุกปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 เป็นต้นมา โดยจะพักอยู่ครั้งละประมาณสองเดือน แต่กลับพบว่า ในปีนี้มีการปล่อยน้ำเสียลงทะเลเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังส่งกลิ่นเหม็นโชยมาเวลาตนเดินผ่าน โดยปกติตนจะนอนพักผ่อนตามชายหาด และเล่นน้ำทะเลเป็นประจำทุกวัน จึงรู้สึกไม่สบายใจ ซึ่งหากพบว่าน้ำเสียยังคงไหลลงสู่ทะเลเหมือนเช่นทุกวันนี้ คงไม่ใช่เพียงแค่ตนที่ต้องไปหาแหล่งพักผ่อนใหม่ ชาวต่างชาติคนอื่น ๆ ก็คงคิดเช่นเดียวกัน