สถานการณ์ภัยแล้งทั่วประเทศเพิ่มระดับรุนแรงต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ขณะที่สภาพอากาศร้อนจัดก่อให้เกิดพายุฝนกระหน่ำ และพายุลูกเห็นตกในหลายจังหวัด ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยายังคงออกประกาศเตือนหลายพื้นที่ระวังพายุฤดูร้อนต่อไประยะนี้
เมื่อวันที่ 20 เมษายน กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ”พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน”ฉบับที่10 ว่า ช่วงวันที่ 20-21 เมษายน บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกและภาคกลาง จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ขอให้ประชาชน จ.เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ สกลนคร นครพนม อุดรธานี เลย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ มหาสารคาม นครราชสีมา ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครสวรรค์ ลพบุรี กาญจนบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรีและจ.ตราด ระวังอันตรายจากพายุลมแรงที่จะเกิดขึ้น รวมถึงอยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรง
ทั้งนี้ เนื่องจากความกดอากาศสูงจากจีนที่ปกคลุมภาคเหนือด้านตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง เริ่มมีกำลังอ่อนลงทำให้บริเวณดังกล่าวนี้มีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่อยู่ก่อนแล้ว ทำให้เกิดความแตกต่างของมวลอากาศและมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น
พายุฝนถล่ม4อำเภอบึงกาฬ
ส่วนที่อ.เมือง จ.บึงกาฬ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้ามืดวันเดียวกัน เกิดพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำรุนแรง ทำให้เต้นท์ที่กางไว้เพื่อจัดงานโอทอปกว่า 30 เต้นท์ บริเวณถนนข้าวเม่าริมโขง หน้าเทศบาลตำบลบึงกาฬ ถูกแรงลมพัดล้มระเนระนาด ขวางถนน แรงลมยังพัดเอาผ้าใบลอยขึ้นไปติดอยู่บนต้นคูน อีกทั้ง ยังพัดต้นไม้หักโค่น อย่างไรก็ตาม พายุฤดูร้อนที่ทำให้เกิดฝนตกส่งผลดีต่อเกษตรกรชาวสวนยาง สวนข้าวโพดและพืชผลการเกษตร และช่วยคลายความร้อนได้ หลังอุณหภูมิช่วงนี้สูงขึ้นกว่า 40 องศา
ทั้งนี้ จ.บึงกาฬ เกิดวาตภัยและลูกเห็บตกจากอิทธิพลของพายุฤดูร้อน ส่งผลให้จ.บึงกาฬได้รับผลกระทบ 4 อำเภอ 4 ตำบล 6 หมู่บ้าน ได้แก่ อ.เมืองบึงกาฬ อ.ศรีวิไล อ.เซกา และอ.โซ่พิสัย มีบ้านเรือนทรัพย์สินราษฎร และสิ่งสาธารณะประโยชน์ ได้รับความเสียหายจำนวนมาก ซึ่งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบึงกาฬ เตรียมส่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนที่พังเสียหายหลายสิบหลังคาเรือน
มอบถุงยังชีพพระราชทาน
ต่อมาเวลา 10.00 น. นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ พร้อมนางศศิธร ปรีชาวิทย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดบึงกาฬ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัยในต.ท่าสะอาด ต.โป่งไฮ ต.น้ำจั้น อ.เซกา โดยมอบถุงยังชีพพระราชทานเพื่อนพึ่งภา ถุงยังชีพกาชาดบึงกาฬ เงินช่วยเหลือเบื้องต้นจากเหล่ากาชาดบึงกาฬ ปภ.บึงกาฬ และพมจ.บึงกาฬ แก่ครอบครัวผู้ประสบวาตภัย 22 หลังคาเรือน
สกลนครฟ้ามืดฝนหนัก1ชม.
เช่นเดียวกับ จ.สกลนคร เกิดลมกรรโชกแรง พัดเศษไม้ไม้ปลิวว่อน ท้องฟ้ามืดมิดสนิท ก่อนมีฝนตกหนักกระจายไปทุกพื้นที่นานเกือบ 1 ชั่วโมง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 เมษายน เกิดฝนฟ้าคะนองลมแรงขึ้นในจ.สกลนคร และมีฟ้าผ่าวัว ชาวบ้านหนองไผ่ หมู่ 12 ต.ดงมะ-ไฟ อ.เมืองสกลนครกลางทุ่งนาเสียชีวิต 6 ตัว นอกจากนั้น ที่อ.วานรนิวาส ต.กุดเรือคำ ถูกพายุฤดูร้อนพัดเสียหาย และที่อ.เต่างอย ต.แวง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร มีบ้านเรือนเสียหายแต่ไม่รุนแรง ซึ่งกาชาดจังหวัดและปภ.สกลนครออกให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว
เร่งซ่อมบ้านหวั่นเจอระลอก2
ที่บ้านตลาด หมู่ 11 ต.สำโรง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนเสียหาย ต่างเร่งซ่อมแซม โดยนำเงินส่วนตัวไปใช้ก่อน เพราะเกรงจะมีพายุฝนกลับมาถล่มซ้ำอีก ส่วนที่มีฐานะยากจนรอความช่วยเหลือจากหน่วยราชการ โดยนางผัน งษ์จร อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 บ้านตลาด หมู่ 11 ต.สำโรง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุแล้ว นายอำเภออุทุมพรพิสัย และ อบต.สำโรงเข้ามามอบถุงยังชีพช่วยเหลือเบื้องต้น ตอนนี้ยังไม่ได้รับเงินช่วยซ่อมแซมบ้าน ตนต้องใช้เงินตัวเองไปซื้อกระเบื้องและจ้างช่างมาเร่งมุงหลังคาเพราะไม่รู้ว่าลมฝนจะกลับมาพัดอีกหรือไม่
ส่วนนางชม ศรีหวาด อายุ 84 ปีกล่าวว่า ตอนนี้ได้เพียงถุงยังชีพ ตนฐานะยากจนไม่มีเงินจะไปซื้อกระเบื้อง สังกะสีมามุงหลังคา ต้องรอความช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการเท่านั้น
ซับน้ำตาเหยื่อพายุลูกเห็บเชียงราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดฝนตกและพายุลูกเห็บพัดกระหน่ำจ.เชียงรายหลายอำเภอเมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา สร้างความเสียหายให้บ้านเรือนประชาชนหลายพื้นที่ พล.ต.พิศาล นาคผจญ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 นายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงรายนำเจ้าหน้าที่ออกสำรวจความเสียหาย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระบุว่าส่งผลกระทบใน 4 อำเภอคือ อ.เมือง อ.แม่สรวย อ.เทิง อ.พาน ใน 7 ตำบล 36 หมู่บ้าน มีบ้านเรือนเสียหาย 553 หลังคาเรือน ซึ่งพล.ต.พิศาลและนายบุญส่งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคช่วยเหลือเบื้องต้น ระหว่างรอซ่อมบ้านส่วนใหญ่ถูกพายุพัดฝาบ้าน หลังคาพังเสียหาย ลูกเห็บเจาะเป็นรูพรุน
สตูลน้ำดิบแห้งหยุดจ่ายประปา
ขณะที่จ.สตูล ภัยแล้งทวีความรุนแรงขึ้นใน 7 อำเภอ โดยต.บ้านควน อ.เมือง เกิดผลกระทบจากสภาพอากาศร้อนจัดทำให้น้ำคลองสายหลักที่ส่งตรงมาจากฝายดุสน เพื่อทำน้ำประปาหมู่บ้านแห้งส่งผลกระทบกับชาวบ้านหมู่ที่ 3 ต.บ้านควน 371 ครัวเรือน และอีกกว่า 6 หมู่บ้าน รวม 1,600 ครัวเรือน ซึ่งวันเดียวกันนี้ นายกูดานัน หลังจิ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)บ้านควน และนายสมพงศ์ โต๊ะเอียด ปลัดอบต.บ้านควน และ นายอุมาด ล่าดี้ ผอ.กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม อบต.บ้านควน สั่งหยุดจ่ายน้ำประปาหมู่บ้านเพื่อป้องกันโรคที่มากับน้ำช่วงภัยแล้ง หลังน้ำในคลองแห้งจนโขดหินโผล่ และมีขยะขังตามโขดหิน
พังงาเร่งแจกน้ำแต่ยังไม่พอ
เช่นเดียวกับ จ.พังงายังประสบภัยแล้งต่อเนื่อง แม้จะมีฝนตกลงมาเล็กน้อย แต่ชาวบ้านยังได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะหมู่บ้านในต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง ทางอบต.นาเตย นำรถบรรทุกน้ำเร่งแจกน้ำให้ชาวบ้าน ตั้งแต่ 08.30-20.00 น. ทุกวันมากว่า 1เดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการ เพราะขณะนี้ในต.นาเตยมี 9 หมู่บ้านกว่า 2,000 ครัวเรือน ประสบปัญหาภัยแล้งทุกพื้นที่ โดยชาวบ้านยอมรับว่า ภัยแล้งปีนี้รุนแรงกว่าทุกปี ชาวบ้านเริ่มขาดแคลนน้ำมาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน แม้อบต.จะเริ่มแจกจ่ายน้ำแต่ไม่เพียงพอ จึงแก้ปัญหาด้วยการตั้งปั๊มน้ำไว้ท้ายบ้าน ให้ชาวบ้านนำภาชนะไปใส่โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการตลอด
ลพบุรีแพะนับพันตัวขาดน้ำกิน
ที่ต.เขาสมอคอน อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี เข้าภาวะวิกฤติหลังแหล่งน้ำธรรมชาติแห้งขอดลงหมดเกือบทุกแหล่ง ทำให้ฝูงแพะ สัตว์เศรษฐกิจที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้บริเวณเทือกเขาสมอคอนกว่า 1000 ตัวขาดแคลนน้ำกิน ทำให้นายเกษม ประภากร นายก อบต.เขาสมอคอนนำรถน้ำไปเติมใส่บ่อไว้ให้แพะได้ดื่มกิน บรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งชาวบ้านที่เลี้ยงแพะบอกว่า ปีนี้ถือเป็นปีแรกในรอบกว่า20ปีที่แล้งหนักจนแหล่งน้ำแห้งขอด จนแพะไม่มีน้ำกิน เพราะปกติทุกปีถึงจะแล้งแต่ก็ไม่ถึงขนาดแหล่งน้ำแห้งหมด ช่วงนี้ก็ทำได้พียงขอให้อบต.ส่งน้ำให้ทุกอาทิตย์ เพื่อให้แพะอยู่รอด
บุรีรัมย์สูบส่งน้ำเติมสระหมู่บ้าน
เจ้าหน้าที่จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 5 จังหวัดนครราชสีมา เร่งติดตั้งเครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เพื่อสูบส่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยสวาย ต.สองชั้น อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ไปเติมสระน้ำดิบกลางหมู่บ้านบ้านหนองปุ่น ม.15 ต.สองชั้น ที่แห้งขอดไม่สามารถผลิตประปาได้ สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านในหมู่บ้านมานานกว่า 3 เดือน โดยเจ้าหน้าที่ต้องสูบส่งน้ำถึง 3 ช่วง จากอ่างห้วยสวายไปพักไว้ที่สระบ้านหนองรักษ์ ก่อนจะสูบต่อไปยังสระบ้านหนองปุ่น เนื่องจากมีระยะไกลถึง 6 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้เวลาสูบส่งน้ำไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน จึงจะนำน้ำไปผลิตประปาบรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวบ้านกว่า 100 ครัวเรือนมีน้ำอุปโภคบริโภคช่วงหน้าแล้งนี้ ทั้งช่วยชาวบ้านที่ปลูกฝรั่งกิมจูกว่า 200 ไร่ ที่กำลังแห้งตาย
ด้านนายพรเชษฐ์ แสงทอง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ขณะนี้จ.บุรีรัมย์ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้ว 6 อำเภอมีอ.เมือง ห้วยราชกระสัง นางรอง คูเมือง และ อ.พลับพลาชัย แจกจ่ายน้ำช่วยเหลือผู้ประสบภัยไปแล้วกว่า 120,000 ลิตร และมอบเงินชดเชยให้กับพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหายแล้วกว่า 8,900,000 บาท
ชาวบ้านกาฬสินธุ์โวยประปาเค็ม
ชาวบ้านโนนสูง ม.5 ต.โนนสูง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์กว่า 20 คน รวมตัวร้องขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเทศบาลตำบลโนนสูง หลังเดือดร้อนจากภัยแล้งทำให้น้ำประปาหมู่บ้านเค็ม โดยนายชัยสิทธิ์ ภูชาดึก อายุ 51 ปี ชาวต.โนนสูงเผยว่า ขณะนี้ชาวบ้านเดือดร้อนมาก เพราะน้ำประปาบาดาลหมู่บ้านเค็ม ส่งผลให้ชาวบ้านที่ต้องใช้น้ำอุปโภคบริโภคแล้วเกิดอาการคัน เป็นโรคผิวหนัง ถ้านำไปใช้รดพืชผักก็เหี่ยวเฉาตาย ชาวบ้านประสบปัญหาดังกล่าวนี้กว่า 3 ปีแล้ว ที่ผ่านมาเคยสอบถามและขอความช่วยเหลือไปยังเทศบาลตำบลโนนสูง แต่ไม่มีอะไรคืบหน้า จึงขอความเห็นใจจากหน่วยงานมาช่วยเหลือ เพราะตอนนี้หน้าแล้ง น้ำไม่พอใช้แล้วยังเป็นน้ำเค็มอีก บางรายทนไม่ไหวต้องไปซื้อน้ำมาใช้ถังละ 10 บาท
ขณะที่นายคณิต โยมศรีเคน นายกเทศมนตรีตำบลโนนสูง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเทศบาลพยายามแก้ปัญหาน้ำเค็มมาตลอด แต่ยังไม่สำเร็จ เพราะปัญหาภัยแล้งและเป็นปัญหาน้ำเค็มที่อยู่ใต้ดินแต่เดิม ล่าสุดเทศบาลขุดลอกหนองน้ำสาธารณะเพื่อกักเก็บน้ำไว้แล้วสูบขึ้นไปผสมน้ำประปาใต้ดิน เพื่อลดความเค็ม แก้ปัญหาได้เป็นอย่างดี แต่บางวันน้ำยังเค็ม เพราะคนดูแลระบบผสมน้ำไม่ได้สัดส่วน อีกทั้ง ความต้องการใช้น้ำเพิ่มขึ้น ต่อไปจะกำชับให้ผู้ดูแลระบบประปาเอาใจใส่ให้มากขึ้น และจะขุดเจาะบ่อบาดาลเพิ่มอีก 2-3 จุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี