กรมวิชาการเกษตร เป็นหน่วยงานที่ให้การตรวจสอบและรับรองแหล่งผลิตพืช ตามระบบเกษตรดีที่เหมาะสม (Good AgriculturalPractice หรือ GAP) มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 ตามนโยบายอาหารปลอดภัย ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งผลผลิตพืชตามระบบ GAP เป็นผลผลิตที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน และมีความปลอดภัย เป็นที่ยอมรับของตลาดทั้งในและต่างประเทศ
นายอนันต์ อักษรศรี ผอ.สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 8 จังหวัดสงขลา กล่าวว่า เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและแรงจูงใจให้เกษตรกรเข้าสู่การผลิตตามระบบ GAP กระทรวงเกษตรฯ จึงได้กำหนดให้มีการคัดเลือก “เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาการให้วิชาการเกษตรดีที่เหมาะสม” ให้เป็นอีกหนึ่งสาขาที่จะได้เข้ารับพระราชทานโล่รางวัล ในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 เป็นต้นมา โดยให้กรมวิชาการเกษตรเป็นผู้คัดเลือกในแต่ละปี ซึ่งสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 8 ได้พิจารณาคัดเลือกเกษตรกร GAP ดีเด่นในปีงบประมาณ 2559 ได้แก่ นายวิรัช พรหมมี บ้านเลขที่ 124หมู่ที่ 1 ตำบลนาชุมเห็ด อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง
นางศิริกุล โกกิฬา ผอ.กลุ่มถ่ายทอดเทคโนโลยี สวพ.8ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นายวิรัช พรหมมี เป็นคนจังหวัดตรัง โดยกำเนิด เดิมมีอาชีพเป็นครู แต่ครอบครัวทำสวนยาง เริ่มต้นทำเกษตรจากต้นมังคุดเพียง 9 ต้น ที่งอกขึ้นมาเองโดยไม่ได้ปลูก และด้วยเหตุผลที่มองว่ามังคุดปลูกง่ายและคงจะดูแลได้ไม่ยาก ประกอบกับในเวลานั้นเป็นช่วงที่ยางพาราหมดอายุกรีดพอดี จึงตัดสินใจปลูกมังคุดแซมยางพาราในปี 2528 พื้นที่ 9 ไร่ สภาพพื้นที่ปลูกมังคุดของลุงวิรัชโดยทั่วไปเป็นพื้นที่ราบ ลักษณะดินเป็นดินร่วน ดินมีความอุดมสมบูรณ์ดี ใช้ระยะปลูก 7 x 7 เมตร ได้ต้นมังคุด ประมาณ 200 ต้น การให้น้ำโดยทั่วไปอาศัยน้ำฝนเป็นหลัก แต่ในระยะเวลาที่ฝนทิ้งช่วงในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน จะมีการใช้น้ำจากลำธารธรรมชาติ และประปาหมู่บ้าน โดยให้น้ำแบบระบบสายยาง หลังจากนั้นจะทำการงดน้ำในช่วงเดือนพฤษภาคม เพื่อกระตุ้นการออกดอก หลังจากออกดอกแล้วก็จะมีการให้น้ำและใส่ปุ๋ย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นปุ๋ยอินทรีย์กับน้ำหมักชีวภาพเพื่อช่วยในการบำรุงต้น และช่วยในการปรับสภาพดินให้ดีขึ้น โดยจะซื้อปุ๋ยอินทรีย์แบบอัดเม็ด และเลือกใช้ปุ๋ยที่ได้มาตรฐาน มีเลขทะเบียนรับรองที่ชัดเจน ใส่ต้นละประมาณ 1-2 กิโลกรัม แต่ในส่วนของน้ำหมักจะนำผลผลิตเน่าเสียที่หล่นจากใต้ต้นมาผลิตเป็นน้ำหมักชีวภาพใช้เอง โดยจะใช้น้ำหมักในช่วงการติดดอก เพื่อให้ต้นมีความสมบูรณ์ไม่สลัดดอกทิ้งมากเกินไป ตลอดระยะเวลาที่ติดดอกออกผล มีการให้น้ำและปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอ จนกระทั่งก่อนการเก็บเกี่ยวประมาณ 20-30 วัน ในช่วงเดือนกรกฎาคม เพื่อให้ผลผลิตมังคุดมีรสชาติที่ดี ในระหว่างนั้นจะมีการดูแลกำจัดวัชพืชภายในแปลงโดยใช้วิธีการตัดหญ้าแทนการใช้สารเคมี
นายวิรัชเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงเดือนสิงหาคม ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน โดยในแต่ละปี มังคุดให้ผลผลิตประมาณ 10 ตันเป็นที่น่าพอใจมาก หลังจากมีการเก็บเกี่ยวแล้วจะทำการตัดแต่งกิ่งที่ไม่สมบูรณ์ออกแล้วทำลายทิ้งนอกแปลงปลูก เพื่อให้ทรงพุ่มโปร่ง สามารถรับแสงแดดได้ทั่วถึง จากนั้นจะใส่ปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดต้นละประมาณ 2-3 กิโลกรัม และมีการใช้น้ำหมักที่ผลิตเองในการบำรุงลำต้นพร้อมกับการปรับสภาพดินเป็นการเตรียมต้นให้พร้อมสำหรับการผลิตในรุ่นต่อไป ในส่วนของสถานที่จัดเก็บปัจจัยการผลิตทางการเกษตรมีการจัดเก็บเป็นสัดส่วนเพื่อความสะดวกในการนำไปใช้และที่สำคัญตลอดระยะเวลาในการปฏิบัติงานนายวิรัชจะมีการบันทึกข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ เช่น การให้ปุ๋ย การให้น้ำ รายรับ รายจ่าย และการปฏิบัติงานอื่นๆ ภายในแปลง เพื่อเป็นข้อมูลที่ใช้ในการลดต้นทุนการผลิตในรอบต่อไป และนายวิรัชจะมีการดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าในแปลงปลูกจะไม่มีการใช้วัตถุอันตรายทางการเกษตรเลยก็ตาม
ด้านการตลาด นายวิรัชไม่จำเป็นต้องออกไปขายผลผลิตที่ตลาด เพราะมีพ่อค้ามารับซื้อแบบเหมาถึงสวน เนื่องจากพ่อค้าทราบว่าแปลงมังคุดของนายวิรัชได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP พืช ทำให้ในแต่ละปีนายวิรัช จะมีรายได้จากสวนมังคุด GAP อย่างน้อย 50,000-100,000 บาท ในขณะที่มีต้นทุนประมาณ 5,000-10,000 บาทเท่านั้น นับว่าเป็นรายได้ที่น่าพอใจ ซึ่งเมื่อมังคุดขายได้ราคาดีแล้ว นายวิรัชจึงมีความคิดที่จะปลูกพืชอื่นๆ แซม เช่น ทุเรียน ลองกอง กล้วย ขนุน ผักหวานป่า เพื่อนำมาบริโภคในครัวเรือน และผลผลิตที่เหลือก็สามรถขายเพื่อเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง จากการที่นายวิรัชมีการจัดการคุณภาพภายในแปลงดี มีความปลอดภัยและยังมีความเป็นผู้นำ ความเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม จึงได้รับการพิจารณาคัดเลือกเป็นเกษตรกร GAP ดีเด่นของสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 8 ในปีงบประมาณ 2559
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี