โดยบรรยากาศในพิธีเป็นไปอย่างเรียบง่ายมีบุคคลสำคัญในจังหวัดเช่น นายนิพนธ์ บุญญามณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ดร.ไพโรจน์ ด้วงวิเศษ ประธาน ป.ป.ช. สงขลา หัวหน้าส่วนราชการและประชาชนทั่วไปที่รักลุงข้วย มาร่วมพิธีและแสดงความอาลัยเป็นครั้งสุดท้ายจำนวนมาก และนอกจากจะมีการทำพิธีทางศาสนาแล้ว ทางสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตสงขลายังได้จัดพิธีทางทหารเพื่อเชิดชูเกียรติ และสดุดีในวีรกรรมอันกล้าหาญของ สิบตรี ข้วยหรือ ลุงข้วย ซึ่งเป็นทหารผ่านศึกสงครามมหาเอเชียบูรพา หรือสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยการยืนสงบนิ่งและเป่าแตรนอน เพื่อเป็นการไว้อาลัยดวงวิญญาณของ สิบตรี ข้วย เป็นเวลา 1 นาที พร้อมกับมอบเงินอีกจำนวนหนึ่งเพื่อช่วยเหลือครอบครัว
ด้านนางสาวกรชลี พุทธปาน อายุ 55 ปี ลูกสาวคนเดียวของ ลุงข้วย ได้กล่าวถึงพล.อ.เปรม แทนพ่อสั้นๆ ว่า ขอขอบคุณ พล.อ.เปรม ที่ดูแลครอบครัวมาตั้งแต่พ่อยังมีชีวิตอยู่จนถึงวาระสุดท้าย ซึ่งครอบครัวรู้สึกซาบซึ้งในพระคุณเป็นอย่างมาก
สำหรับสิบตรีข้วย หรือลุงข้วย นอกจากจะเป็นผู้สร้างตำนาน "เพื่อนไม่มีชนชั้น" ระหว่างเพื่อนที่เป็นถึงนายกรัฐมนตรีกับอีกคนที่เป็นเพียงชายที่มีอาชีพปั่นสามล้อรับจ้าง จากเหตุการณ์ที่พล.อ.เปรม ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี และลงมาปฏิบัติภาระกิจที่วัดดอนรัก อ.เมือง จ.สงขลา ลุงข้วยก็ไปยืนรอรับเหมือนกับชาวบ้านทั่วไป แต่เมื่อ พล.อ.เปรม เดินผ่านมาและเห็นก็ตรงเข้ามาหาและพูดทักทายเป็นภาษาใต้ ลุงข้วยจึงยกมือไหว้ แต่ พล.อ.เปรม พูดกลับว่า "ข้วยไหว้เราทำไมเราเป็นเพื่อนกันนะ" ลุงข้วยจึงตอบกลับไปว่า "ผมไหว้นายกรัฐมนตรี แต่ถ้าเป็นนายเปรมผมไม่ไหว้" และทั้งสองจึงสวมกอดกันด้วยรอยยิ้มท่ามกลางความปลาบปลื้มของคนทั้งวัด
ทั้งนี้ ลุงข้วยยังเคยเป็นทหารกล้าซึ่งจากประวัติทางทหาร สิบตรีข้วย เป็นทหารผ่านศึกสงครามมหาเอเชียบูรพาหรือสงครามโลกครั้งที่ 2 เข้ารับราชการทหารเป็นทหารกองประจำการเหล่าทัพทหารบก หมายเลขประจำตัวทหาร 186601216 เริ่มรับราชการเมื่อวันที่1 เม.ย. 2484 สังกัดกองพันทหารราบที่ 41 สวนตูล ค่ายพระปกเกล้าในปัจจุบัน และเคยร่วมรบเพื่อต่อต้านกองกำลังทหารญี่ปุ่นที่ยกพลขึ้นบกที่จ.สงขลา เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2484 โดยได้ตั้งจุดสกัดกองกำลังทหารญี่ปุ่นบริเวณหาดเก้าเส้ง สามแยกสำโรง เมืองสงขลา ทำให้กองกำลังทหารญี่ปุ่นได้รับความเสียหายจำนวนมาก และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง อดทนกล้าหาญ และเสียสละทำให้ภารกิจที่ได้รับมอบหมายบรรลุตามวัตถุประสงค์ของทางราชการทุกประการ ก่อนที่จะปลดประจำการเมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2488 รวมระยะเวลาที่รับราชการจำนวน 4 ปี และยังได้รับพระราชทานบัตรเหรียญชัยสมรภูมิ(เอเชียบูรพา)และบัตรประจำตัวทหารผ่านศึกนอกประจำการบัตรชั้นที่2ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี