ผู้ปกครองแห่พาลูกสอบเข้าม.1ร.ร.ดัง. คึกคัก  ขณะ"สวนกุหลาบวิทยาลัย"ยอดนิยมล้นสมัครสอบท้อปอันดับแรก ส่วนเทพศิรินทร์ ผู้ปกครองนำพวงมาลัยกราบขอพรสิ่งพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ช่วยลุ้นเป็นกำลังใจ 

31 มี.ค.61 นายสนิท แย้มเกษร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) พร้อมด้วยนายกิตติ บุญเชิด ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 1 กรุงเทพมหานคร เดินทางไปตรวจเยี่ยมสนามสอบคัดเลือกนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2561 ที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง 

โดยนายสนิท กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ดำเนินการรับสมัครนักเรียนทั่วไปชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (ม.1) และ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 (ม.4) ระหว่างวันที่ 25-28 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยในวันนี้เป็นการสอบคัดเลือกระดับ ม.1 พร้อมกันทั่วประเทศ และเฉพาะโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงทั่วประเทศมีจำนวน 283 แห่ง ซึ่ง สพฐ. ได้กำหนดให้โรงเรียนจัดสอบคัดเลือก และรับเด็กเพียงรอบเดียวเท่านั้น สำหรับภาพรวมการจัดสอบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย 

นายสนิท กล่าวว่า ถือเป็นปีแรกที่ สพฐ. มีนโยบายกำหนดจำนวนนักเรียนต่อห้องไม่เกิน 40 คน ที่ผ่านมา สพฐ.ได้ทำความเข้าใจแก่นักเรียนและผู้ปกครอง แต่ส่วนใหญ่โรงเรียนที่มีเด็กสมัครล้นจะเป็นโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง เช่น โรงเรียนเทพศิรินทร์ รับได้ 200 คน มาสมัคร 782 คน อัตราการแข่งขัน 1:3.91 หรือภาพรวม ในสพม.เขต 1 กทม.ได้รับรายงานว่า โรงเรียนสังกัดทั้งหมด 66 แห่ง ในจำนวนนี้ 27 แห่ง เป็นโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง พบว่า ยอดการรับสมัครเกินกว่าแผนการรับ ประมาณ 6,500 คน และยังไม่เต็มแผนการรับ ประมาณ 2,000 คน ซึ่งหลังจากประกาศผลสอบวันที่ 4 เม.ย.นี้แล้ว จะเหลือเด็กอีกประมาณ 4,200 คน ตรงนี้ผู้ปกครองและเด็กไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีที่เรียน เพราะยังมีโรงเรียนอื่นๆทั้งกลุ่มสหวิทยาเขต โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร และโรงเรียนเอกชนสามารถรองรับได้ 

“ยืนยันว่า เด็กทุกคนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มีที่เรียนทุกคนอย่างแน่นอน ยกเว้นแต่ผู้ปกครองจะยึดติดค่านิยมโรงเรียนดัง และที่ผ่านมา สพฐ. ก็กระจายโรงเรียนดีที่มีคุณภาพเทียบเท่าโรงเรียนดังแล้ว เช่น ร.ร.เทพศิรินทร์ จับมือ โรงเรียนเครือข่ายในพื้นที่ใกล้เคียง ในการยกระดับคุณภาพการเรียนการสอน เป็นต้น ซึ่งการกำหนดจำนวนนักเรียนต่อห้องไม่เกิน 40 คนนั้น ก็เพื่อคุณภาพการศึกษา ทำให้ครูสามารถดูแลนักเรียนได้อย่างทั่วถึง ลดภาระครูจากเดิมที่ต้องดูแลเด็กถึง 50-60 คนต่อห้อง” นายสนิท กล่าว 

นายสนิท กล่าวว่า หลังประกาศผลสอบแล้วหาก นักเรียนยังไม่มีที่เรียนก็สามารถแจ้งขอรับการจัดสรรที่เรียนได้ที่โรงเรียนและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ตั้งแต่ 9-11 เม.ย.นี้ สำหรับการสอบคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนในชั้น ม.1 จะประกาศผลสอบวันที่ 4 เม.ย. พร้อมกันทั่วประเทศ และผู้สอบคัดเลือกที่สอบได้ในรอบที่ 1 หากสละสิทธิ์ ทางโรงเรียนก็จะไม่สามารถเรียกรายชื่อเด็กคนอื่นได้ตามอำเภอใจ แต่จะต้องเรียกจากบัญชีรายชื่อตามลำดับถัดมาที่มีอยู่เท่านั้น 

"รายชื่อผู้สอบผ่านโรงเรียนจะติดประกาศไว้บนบอร์ดและประกาศบนเว็บไซต์โรงเรียนให้เห็นชัดเจน รวมถึงการรับนักเรียนในปีนี้ เรามีสำนักงานคณะกรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้ามาร่วมตรวจสอบเส้นทางการเงินของโรงเรียนต่างๆ แม้แป๊ะเจี๊ยะจะเป็นการบริจาคเงิน แต่ ป.ป.ช.ก็ถือว่า เป็นเงินติดสินบนก็ต้องถูกตรวจสอบ ดังนั้น สพฐ.ได้กำชับโรงเรียนทุกแห่งปฏิบัติตามมาตรการของ คสช.อย่างเคร่งครัด ดังนั้นขั้นตอนการดำเนินการรับนักเรียนในปีนี้โปร่งใสและตรวจสอบได้ และคิดว่าไม่มีใครกล้าทำผิด" ผู้ช่วยเลขาธิการ กพฐ. กล่าว 

ด้านนายกิตติ กล่าวว่า สำหรับแผนการรับนักเรียนปีการศึกษา 2561 ของ สพม.เขต1 กทม.ระดับม.1 ประเภทห้องเรียนทั่วไป มีจำนวน 409 ห้อง รับจำนวน 16,360 คน ห้องเรียนพิเศษ มีจำนวน 111 ห้อง รับจำนวน 3,692 คน ส่วน ม.4 ประเภทห้องเรียนทั่วไป มีจำนวน 460 ห้อง รับจำนวน 19,679 คน ห้องเรียนพิเศษ จำนวน 73 ห้อง รับจำนวน  2,419 คน อย่างไรก็ตามโดยภาพรวมขอยืนยันว่า ทุกคนมีที่เรียนอย่างแน่นอน จึงขอให้เด็กและผู้ปกครองสบายใจได้ ดังนั้นหลังจากที่ผลการสอบออกมาแล้วหากลาดโอกาสจากโรงเรียนที่สอบไว้ และยังไม่มีที่เรียนก็สามารถไปแจ้งความจำนงได้ที่เขตพื้นที่ฯในวันเวลาที่กำหนดเพื่อเขตจะได้หาที่เรียนให้จนกว่าจะพอใจ 

นายกิตติ กล่าวต่อว่า สำหรับโรงเรียนในสังกัด สพม.เขต 1 กทม.ที่มีผู้สมัครมากที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย แผนรับ 240 คน สมัคร 1,166 คน อัตราการแข่งขัน 1:4.86,โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางขุนเทียน แผนรับ 480 คน สมัคร 959 คน อัตราการแข่งขัน 1:2,โรงเรียนศึกษานารี แผนรับ 440 คน สมัคร 886 คน อัตราการแข่งขัน 1:2.01,โรงเรียนมัธยมวัดหนองแขม แผนรับ 480 คน สมัคร 796 คน อัตราการแข่งขัน1:66,โรงเรียนเทพศิรินทร์ แผนรับ 200 คน สมัคร 782 คน อัตราการแข่งขัน 1:3.91,โรงเรียนวัดราชโอรส แผนรับ 440 คน สมัคร 746 คน อัตราการแข่งขัน 1:1.70,โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา พุทธมณฑล แผนรับ 400 คน สมัคร 742 คน อัตราการแข่งขัน 1:1.86,โรงเรียนสตรีวิทยา แผนรับ 280 คน สมัคร 740 คน อัตราการแข่งขัน 1:2.64,โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย แผนรับ 240 คน สมัคร 734 คน อัตราการแข่งขัน 1:3.06 และโรงเรียนศรีอยุธยา ในพระอุปถัมภ์ฯ แผนรับ 400 คน สมัคร 640 คน อัตราการแข่งขัน 1:1.60 

ส่วน สพม.เขต 2 กทม.มีเด็กสมัครสอบมากที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ แผนรับ 520 คน สมัคร 1,170 คน อัตราการแข่งขัน 1:2.25,โรงเรียนหอวัง แผนรับ 520 คน สมัคร 1,047 คน อัตราการแข่งขัน 1:2.01,โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย แผนรับ 480 คน สมัคร 976คน อัตราการแข่งขัน 1:2.0,โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) แผนรับ 480 คน สมัคร 951 คน อัตราการแข่งขัน 1:1.98,โรงเรียนสตรีวิทยา 2 ในพระราชูปถัมภ์ฯ แผนรับ 520 คน สมัคร 900 คน อัตราการแข่งขัน 1:1.7,โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี)2 แผนรับ 440 คน สมัคร 811 คน อัตราการแข่งขัน 1:1.98,โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า แผนรับ 320 คน สมัคร 804 คน อัตราการแข่งขัน 1:2.5 ,โรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ แผนรับ 480 คน สมัคร 705 คน อัตราการแข่งขัน 1:1.4,โรงเรียนสารวิทยา แผนรับ 400 คน สมัคร 687 คน อัตราการแข่งขัน 1:1.7 และโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เบญจมราชาลัย แผนรับ 400 คน สมัคร 668 คน อัตราการแข่งขัน 1:1.67 

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศกาศการสอบคัดเลือกการรับนักเรียนเข้าเรียนชั้น ม.1 ของโรงเรียนเทพศิรินทร์ ตั้งแต่เช้าเป็นไปด้วยความคึกคัก โดยมีผู้ปกครองพาบุตรหลานมาสอบเข้าเรียนเป็นจำนวนมาก หลายคนนำพวงมาลัยดอกดาวเรือง มาถวายสักการะพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร(ร.8) และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำโรงเรียน เพื่อขอพรให้ลูกสอบติด ก่อนนั่งรอลูกๆด้วยความหวังอยู่ที่ริมสนามฟุตบอลของโรงเรียน 

ด้านนางศิริพร จันเทวี อายุ 42 ปี อาชีพพนักงานบริษัทขนส่งทางทะเล ย่านสวนมะลิ เขตป้อมปราบ กทม. กล่าวว่า ตนมีบ้านพักอาศัยอยู่เขตบางแคร์ กทม. แต่เนื่องจากทำงานอยู่แถวสวนมะลิ ซึ่งใกล้กับโรงเรียนเทพศิรินทร์ฯ จึงอยากให้ลูกเรียนต่อชั้น
ม.1 ที่นี้ เพื่อความสะดวกจะได้เดินทางไป-กลับด้วยกัน 

“คาดหวังมากและอยากให้ลูกได้เรียนที่ร.ร.เทพศิรินทร์ ก่อนจะส่งเสริมให้ลูกมาสอบตนก็เข้าไปศึกษาเวบไซต์ของโรงเรียนเพื่อดูข้อมูล และเห็นว่าทางโรงเรียนมีระบบที่ดีหลายอย่าง เอาใจใส่เด็ก ส่งเสริมทั้งด้านวิชาการโดยเฉพาะวิชาวิทย์ฯ คณิตฯ ศิลปะ และกีฬาฟุตบอล ซึ่งลูกเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสาธิตบ้านสมเด็จเจ้าพระยา แต่อยากให้ลูกได้มาเรียนรู้สิ่งใหม่ๆและเรียนรู้การปรับตัว การช่วยเหลือตัวเองให้มากขึ้นบ้าง" นางศิริพร กล่าว 

ขณะที่นางนงศ์รัตน์ รัตนโพบูลย์พงษ์ อายุ 40 ปี ชาวเอกชัย เขตจอมทอง แขวงบางขุนเทียน กทม. อาชีพขายบะหมี่เกี๋ยวที่ย่านเจริญกรุง(เอเชียทิค) กล่าวว่า ลูกเรียนจบชั้น ป.6 ที่โรงเรียนสาธิตบ้านสมเด็จเจ้าพระยา โดยลูกอยากมาเรียนที่ ร.ร.เทพศิรินทร์ เพราะลูกฟังคุณครูที่ไปแนะแนวบอกว่า ร.ร.เทพศิรินทร์ เก่งทั่งด้านกีฬาและด้านศิลปะซึ่งครูบอกว่า ไปแข่งที่ไหนก็ชนะได้รับรางวัล ซึ่งลูกชอบวาดภาพอยู่แล้วจึงมาสอบเข้าเทพศิรินทร์ เพราะเขาตั้งใจจะไปเรียนต่อที่ ม.ศิลปากร เพราะชอบวาดรูป ส่วนตัวแม่เองก็อยากให้ลูกสอบติดได้เรียนที่เทพศิรินทร์ เพื่อให้เขาพัฒนาตัวเอง 

“พาลูกแว้นมอร์เตอร์ไซต์จากบางขุนเทียนมาส่งลูกเรียนที่สาธิตบ้านสมเด็จฯทุกวัน ถ้าสอบติดร.ร.เทพศิรินทร์ ก็เดินทางต่อมาอีกนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร ตามใจลูกเพราะเขาอยากเรียนที่นี่ ส่วนผลการเรียนก็ปานกลาง แต่ลูกบอกจะตั้งใจทำข้อสอบให้เต็มที่ เพราะเขาชอบร.ร.เทพศิรินทร์มาก” นางนงศ์รัตน์ กล่าว