14 เม.ย.61 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์รายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. พุทธศาสนิกชน ชาวอำเภอท่าตูม จ.สุรินทร์ ร่วมกันก่อเจดีย์ทราย เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และสรงน้ำพระ เนื่องในวันสงกรานต์ ที่วัดโพธิ์พฤกษาราม ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ นับเป็นกุศลโลบายในการเชื่อมความสัมพันธ์ และความสามัคคีแก่คนในชุมชน โดยจะมีความเชื่อเกี่ยวเนื่องกับเรื่องการขนทรายเข้าวัด ในสมัยก่อน ว่าการช่วยกันขนทรายเข้าวัดสำหรับการซ่อมแซม หรือก่อสร้างสิ่งก่อสร้างในวัดนั้นจะได้บุญกุศล ส่วนทรายที่เหลือจากการก่อสร้าง ก็จะนำมาก่อเป็นเจดีย์ทราย เพื่อเพิ่มอานิสงส์ ผลแห่งการทำบุญนั้นเอง แต่เดิมนั้นการก่อเจดีย์ทราย จะนิยมทำกันในโอกาสสำคัญทางศาสนาต่างๆ แต่ต่อมาก็ได้ปรับเปลี่ยน โดยปัจจุบันจะมีการก่อเจดีย์ทรายในวันสงกรานต์(13-15 เมษายน ของทุกปี) ที่หมายถึงวันขึ้นปีใหม่ และวันแห่งการทำบุญมหากุศล โดยจะทำการก่อเจดีย์ทรายพร้อมกับการทำกิจกรรมทางศาสนาต่างๆ ปัจจุบันประเพณีการก่อเจดีย์ทรายนั้น เริ่มจะเลือนหายไปจากสังคมไทยบ้างแล้ว และถ้าไม่มีการอนุรักษ์เอาไว้ น่าจะหายไปในที่สุด
นอกจากนี้ยังมีการสาธิตการทำ ขนมเนียล ขนมโบราณอย่างเขมร ที่เกือบจะเลือนหายไปจากชุมชนแล้ว โดย คนเฒ่าคนแก่ในชุมชน ได้ออกมาโชว์และสาธิตวิธีการทขนมเนียล ให้ลูกหลานชม และได้รับประทานกับปีละครั้ง เพื่อเติมพลังก่อนออกเล่นน้ำฉ่ำอุราในช่วงบ่าย ซึ่งการทำ ขนมเนียล เริ่มตั้งแต่ขบวนการเตรียมแป้ง ซึ่งเป็นแป้งที่ไม่มีขายในท้องตลาด ต้องทำขึ้นด้วยตัวเอง เมื่อได้แป้งแล้วนำไปคลุกเคล้ากับน้ำตาลแดงจนได้ที่ แล้วจึงนำมะพร้าวมะอ่อนที่ขูดไว้มาคลุกเคล้าจนได้ที่ จึงนำไปนึ่งในหม้อดินที่เตรียมไว้จนสุก จึงตักออกมาใส่ถาดแบ่งกันรับประทาน รสชาติหอม นับว่าเป็นขนมโบราณที่ควรค่าแก่การรักษา
พระครูปริยัติวิสุทธิคุณ(ดร.พระมหาประจักษ์)เจ้าอาวาสวัดโพธิ์พฤกษาราม เล่าว่า การขนทรายเข้าวัดทำให้ญาติโยมได้อานิสงส์คือ 1 ชำระหนี้สงฆ์ 2 วิหารทาน บางครั้งญาติโยมเดินเข้ามาในวัดและเดินออกไปอาจจะมีก้อนกรวด เม็ดทรายหรือเศษดินติดไปด้วยโดยมิได้เจตนา ก้อนกรวด เม็ดทรายต่างๆก็ดี เมื่ออยู่ในเขตวัดก็ถือว่าเป็นของสงฆ์ ใครก็ตามที่เอาของสงฆ์ไปด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ครูบาอาจารย์ฯได้กล่าวไว้ว่าเป็นกรรมหนัก จึงได้ให้มีการขนทรายเข้าวัดเพื่อเป็นการชำระหนี้สงฆ์ หลังจากนั้นทางวัดก็จะได้นำทรายเหล่านั้นไปใช้ในการก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ทำให้ญาติโยมได้อานิสงส์วิหารทานด้วย ส่วนการก่อเจดีย์ทรายนั้น เพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา และสังฆบูชา ถ้าใช้ในด้านอารมณ์กรรมฐาน ก็เป็นพุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ และสังฆานุสสติ ทำให้ญาติโยมตกนรกไม่เป็น อย่างเลวก็ไปเทวโลก ปานกลางก็ไปพรหมโลก อย่างดีที่่สุดก็ไปพระนิพพาน
ต่อมาช่วงบ่าย มีการแห่พระพุทธรูปรอบเทศบาลตำบลท่าตูม เพื่อให้ชาวบ้านได้มีโอกาสทรงน้ำพระพุทธรูปโบราณ ขอพรเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ชีวิตและยังมีขบวนแห่กลองยาวเล่นน้ำสาดน้ำกันอย่างสนุกสนานซึ่งแต่ละคนก็ออกสเต็ปอย่างเต็มที่ไม่มีใครยอมใครและอีกอย่างที่เห็นก็คือการแต่งตัวของแต่ละนางไม่มีใครยอมใครเลย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี