ใครจะคิดว่าแค่การสำลักอาหาร หรือสำลักยาที่เกิดขึ้นปกติธรรมดาๆ อาจทำให้กับเสียชีวิตได้ แต่เรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นมาแล้ว
อาการสำลัก เกิดจากเพราะมีอะไรไปอุดตันกีดขวางอยู่ในคอ จนอากาศผ่านไม่ได้ ส่วนมากที่ผู้ใหญ่เกิดอาการสำลักก็เพราะอาหารเข้าไปติดอยู่ในหลอดลม ส่วนในเคสของเด็กมักเกิดเพราะของเล่น เหรียญ หรือวัตถุขนาดเล็กอื่นๆ เข้าไปติดอยู่ในคอหรือหลอดลม นอกจากนี้ อาการสำลักยังอาจเป็นผลมาจากอาการบาดเจ็บกระทบกระเทือน การดื่มแอลกอฮอล์ หรือการบวมเพราะภูมิแพ้รุนแรง ถ้าไม่ได้รับการปฐมพยาบาลอย่างถูกต้อง การสำลักจนขาดอากาศนานๆ ทำให้สมองเสียหายรุนแรงหรือถึงขั้นสมองตายได้ เรียกว่าภาวะขาดอากาศ ถ้าคุณหรือคนอื่นเกิดสำลักขึ้นมา ถ้ารู้วิธีแก้ไขเฉพาะหน้าก็จะปลอดภัยหายห่วง
อาการของคนสำลักที่สังเกตได้โดยทั่วไปนั้นมักจะใช้มือจับที่คอของตนเอง แต่หากผู้ที่สำลักไม่ได้ส่งสัญญาณดังกล่าว ให้สังเกตอาการต่อไปนี้ หายใจไม่สะดวก หรือมีอาการหายใจแรงและเสียงดังผิดปกติ พูดคุยตอบสนองไม่ได้ ไอแรงๆ ไม่ได้ ผิวหนัง ริมฝีปาก และเล็บเริ่มเปลี่ยนเป็นสีคล้ำ เนื่องจากขาดออกซิเจน ขาดสติ ไม่รู้สึกตัว
สาเหตุของการสำลัก เด็กมักจะสำลักเมื่อนำสิ่งของเข้าปากด้วยความอยากรู้อยากเห็น หรือเกิดการสำลักขณะที่กินอาหารเร็วเกินไป หรือพูดขณะที่กำลังมีอาหารอยู่ในปาก ส่วนสาเหตุที่ทำให้ผู้ใหญ่สำลักนั้นมักเกิดจากการเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด หัวเราะขณะกินอาการหรือดื่มน้ำเร็วเกินไป
อาหารที่มักทำให้เกิดอาการสำลักได้แก่ ถั่วลิสง หมากฝรั่ง ป๊อปคอร์น ลูกอม ไส้กรอก ผักและผลไม้ชิ้นใหญ่ๆ เช่น มะเขือเทศเชอรี่ ลูกองุ่น และวัสดุเล็ก ๆ อย่างยางลบ
วิธีการช่วยเหลือเบื้องต้นสำหรับเด็กทารก
หากสังเกตเห็นว่าอยู่ดี ๆ เด็กมีอาการที่แปลกไปคือ ดูเจ็บปวดและหายใจเสียงดัง ร้องไห้หรือไอไม่ได้ บางครั้งก็ไม่สามารถส่งเสียงร้องหรือหายใจได้ นั่นอาจหมายความว่าเด็กกำลังมีอาการสำลัก สิ่งที่ต้องทำเมื่อเด็กสำลักคือ
1.ตบหลังนั่งลงและจับเด็กนอนคว่ำหน้าให้ขนานกับต้นขาและประคองหัวเด็กไว้ จากนั้นใช้สันมือตบเข้าไปแรง ๆ 5 ครั้ง ระหว่างสะบักทั้ง 2 ข้างของเด็ก
2.ตรวจเช็คดูในปากของเด็กว่ามีอะไรอยู่ไหม ถ้ามีให้รีบใช้ปลายนิ้วหยิบออก ควรระวังไม่ให้สิ่งที่ติดอยู่ในปากของเด็กไหลกลับเข้าไปในคออีก
3.หากการช่วยเหลือด้วยการตบหลังยังไม่สามารถเอาสิ่งแปลกปลอมที่ขวางทางเดินลมหายใจของเด็กได้ ให้ใช้วิธีกดที่หน้าอกของเด็ก ด้วยการจับให้เด็กนอนหงายหน้าขึ้นขนานกับต้นขา จากนั้นใช้นิ้ว 2 นิ้วกดลงไปตรงกลางใต้ราวนมของเด็ก 5 ครั้ง ตรวจดูภายในปากของเด็กว่ามีอะไรหลุดออกมาหรือไม่ แล้วหยิบออกอย่างระมัดระวัง
4.หากช่วยเหลือด้วยวิธีข้างต้นแล้วยังไม่ได้ผล ให้รีบโทรเรียกรถพยาบาล ระหว่างที่รอรถพยาบาลมาถึงนั้นให้ช่วยเหลือด้วยการตบหลังและกดหน้าอกสลับกัน จนกว่าสิ่งที่เข้าไปอุดตันทางเดินหายใจจะหลุดออกมาหรือรถพยาบาลมาถึง หากเด็กไม่หายใจให้เริ่มทำการกดหน้าอกหรือป้๊มหัวใจด้วยวิธีสำหรับเด็กทารก ซึ่งอาจทำให้สิ่งแปลกปลอมที่ติดอยู่ในคอหลุดออกมาได้
วิธีการช่วยเหลือเบื้องต้นสำหรับเด็กโตและผู้ใหญ่
เมื่อสังเกตเห็นคนที่มีอาการสำลักให้พยายามกระตุ้นให้ผู้สำลักไอเพื่อให้สิ่งที่เข้าไปอุดตันทางเดินหายใจหลุดออกมาด้วยตัวเอง หากผู้สำลักไม่สามารถพูดคุย ร้อง หรือไอด้วยตัวเองได้ สามารถให้ความช่วยเหลือด้วยวิธีการดังนี้
1.กระตุ้นให้ผู้ที่สำลักไอออกมา กรณีที่ผู้สำลักไม่สามารถไอให้สิ่งที่ติดอยู่ในคอหลุดออกมาเองได้ ให้่ช่วยประคองหน้าอกของผู้สำลัก แล้วเอียงตัวของผู้ที่สำลักไปด้านหน้า เพื่อให้สิ่งแปลกปลอมที่ติดในคอหลุดออกมา
2.หากการพยายามกระตุ้นให้ผู้สำลักไอด้วยตัวเองไม่ได้ผลให้ประคองตัวผู้ที่สำลักโค้งไปทางด้านหน้า แล้วใช้สันมือตบเข้าไปแรงๆ ระหว่างกระดูกสะบักทั้ง 2 ข้าง ควรทำซ้ำ 5 ครั้ง ตรวจสอบว่ามีอะไรหลุดออกมาหรือไม่ ถ้ามีให้รีบหยิบออก
3.หากช่วยเหลือด้วยวิธีการตบหลังไม่ได้ผล ให้ยืนซ้อนหลังผู้สำลัก แล้วกดกระแทกที่ท้อง 5 ครั้ง โดยใช้แขนทั้ง 2 ข้าง โอบแนบกับผู้ที่สำลักเหนือสะดือ แต่ให้ต่ำกว่าระดับหน้าอก แล้วกำมือเป็นกำปั้น จากนั้นให้ดึงกระแทกกำปั้นทั้ง 2 ข้างเข้าหาตัวและขึ้นทางด้านบนอย่างเร็วและแรง ห้ามใช้วิธีการกระแทกที่ท้องกับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 1 ปี และหญิงที่กำลังตั้งครรภ์
4.หากยังสำลักอยู่ให้รีบโทรเรียกรถพยาบาล ระหว่างที่รอรถพยาบาลให้ตบหลัง และกระแทกที่ท้องซ้ำจนกว่าสิ่งที่ติดในช่องคอผู้สำลักจะหลุดออกมา หรือจนกว่ารถพยาบาลจะมาถึง กรณีที่ผู้ที่สำลักหมดสติไป ให้ตรวจดูว่าเขายังหายใจอยู่ไหม หากไม่หายใจ ให้เริ่มทำการกดหน้าอกหรือป้๊มหัวใจซึ่งการปั๊มหัวใจนั้นอาจทำให้สิ่งแปลกปลอมที่ติดอยู่ในคอหลุดออกมาได้
5.แต่ถ้าอยู่บ้านคนเดียวเกิดสำลักอุดหลอดลม ให้เอาลิ้นปี่กระแทกพนักเก้าอื้
อย่างไรก็ตาม การสำลักอาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น ในกรณีที่สำลักเพียงเล็กน้อยอาจเกิดการบาดเจ็บที่คอ หรืออาจเกิดอาการระคายเคือง แต่หากสำลักวัตถุขนาดใหญ่ และเกิดการอุดตันหลอดลมอาจเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจได้
ส่วนการป้องกันการสำลัก เราสามารถป้องกันเด็กจากการสำลักได้ด้วยการไม่ให้เด็กเล่นวัตถุที่มีขนาดเล็ก เช่น เหรียญ ยางลบ บล็อคและของเล่นตัวต่อที่เด็กอาจสำลักและอุดตันหลอดลมได้ หั่นอาหารให้มีขนาดเล็กลงเพื่อให้ง่ายต่อเด็กในการกลืน กำชับไม่ให้เด็กคุยขณะกินอาหาร นอกจากนี้ เรายังสามารถป้องกันตัวเราเองจากการสำลักได้ด้วยการเคี้ยวอาหารให้ละเอียด หลีกเลี่ยงการคุย หรือหัวเราะขณะกินอาหาร และควรมีน้ำดื่มอยู่ใกล้ตัวขณะกินอาหารด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี