ชาวบ้านห้วยโต้เดือดร้อนหนักหลังจากการก่อสร้าสะพานน้ำตายล่าช้าดำเนินการก่อสร้างไปได้แค้ 20 เปอร์เซ็นต์เกรงไม่ทันการณ์หน้าฝนปีนี้วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จทันเวลา

23 พ.ค.61 ผู้สื่อข่าวได้รับการรร้องเรียนจากชาวบ้าน ม.4 ต.ทับปริก อ.เมือง.กระบี่ ว่าได้รับความเดือดร้อนหลังจากการก่อสร้าง โครงการซ่อมแซมและก่อสร้างสะพานข้ามคลองน้ำตายล่าช้า และมีการทำทางเบี่ยงชั่วคราวแต่รถยนต์ของชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปเที่ยวชมน้ำตกห้วยโต้ ภายในที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบ็ญจาแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอีกแห่งของจังหวัดกระบี่ ไม่สารมารถได้จึงได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงจุดก่อสร้างสะพานพบสะพานกำลังก่อสร้างมีรถแม็คโฮ 3 ตัวจอดอยู่ มีคนงานแค่ 3 คนกำลังปรับพื้นทางเบี่ยงมีการนำเสาเข็มมาวางเป็นฐานและเทปูนทำพื้นสะพานทนของเก่าที่เป็นท่อซีเมนต์ที่ถูกน้ำพัดพาออกไปจากการสอบถามนายมี นะบุตร อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ที่ 4 ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าตนเองเป็นชาวบ้านต้องใช้สะพานแห่งน้ำในการสัญจรไปมาทุกวันได้รับความเดือดร้อนอย่างมากเนื่องจากการก่อสร้าสะพานที่ล่าช้ามากอีกทั้งสะพานเบี่ยงที่ใฃ้ชั่วคราวก็เกิดขาดมาหลายครั้งแล้วเมื่อน้ำมาแรงๆจากเดิมที่มีการใช้ ท่อ ขนาดใหญ่นำมาใส่และนำดินมาถมเพื่อชาวบ้านที่อาศัยด้านในได้ออกมาได้แต่ก็มาพังอีกอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขและเร่งรัดการสะพานให้แล้วเสร็จให้ทันเวลาเพราะหากปล่อยช้าจะไม่ทันกาลเนื่องจากตอนนี้โรงเรียนได้เปิดเรียนแล้วเด็กๆต้องลุยน้ำออกไปเรียนเป็นภาพที่น่าเวทนายิ่งนัก

ด้านนายวีรยุทธ นคราวงศ์ ตำแหน่งนายช่างโยธาของ องค์การส่วนตำบลทับปริก ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่าสะพานข้ามคลองน้ำตายได้รับงบประมาณการก่อสร้างจากทางจังหวัดกระบี่ โดยได้งบจาก ปภ..กระบี่ มี สัญญาจ้างเลขที่ 124/2561 ลงวันที่ 26 ธันวาคม 2560 ด้วยงบประมาณค่าก่อสร้าง จำนวน 4,700,000 บาท( สี่ล้านเจ็ดแสนบาทถ้วน )โดยมีค่าปรับวันละ 4,700 บาท เริ่มก่อสร้าง ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2560 ถึงวันที่ 26 มิถุนายน 2561 รวมระยะเวลาดำเนินการ 180 วัน โดยมี ห้างหุ้นส่วนจำกัด เค.เอม.เอส. เรียลเอสเตท เป็นผู้รับจ้าง 

นายวีรยุทธ กว่าเพิ่มเติมอีกว่าจากระยะเวลาก่อสร้างตั้งแต่เริ่มต้นก่อสร้างจนถึงวันนี้งานคืบหน้าไปแค่ 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นซึ่งล่าช้ามากซึ่งตอนนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแล้วหากน้ำจากเทือกเขาพนมเบ็ญจากไหลลงมาก็จะเกิดปัญหาแน่นอนเนื่องจากเป็นต้นน้ำของจังหวัดกระบี่และเกิดปัญหานำท่วมในพื้นที่ทุกปีงานก็จะล่าช้าไปอีกเพราะเหลือแค่เดือนครึ่งเท่านั้นชาวบ้านและนักท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างที่ล่าช้าแน่นอนซึ่งตนได้พยายามเร่งบริษัทผู้รับเหมาแล้วแต่ทางบริษัทก็ไม่สามารถเร่งดำเนินการได้