25 พ.ค.61 นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผวจ.นครพนม ในฐานะหัวหน้าคณะนักธุรกิจไทย พร้อมด้วยนายนิวัติ เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองนครพนม นายสุรัตน์ ก้องเกียรติกมล ประธานหอการค้าจังหวัดฯ ออกเดินทางไปยังจังหวัดกวางบินห์ สาธารณสังคมนิยมเวียดนาม เพื่อเปิดกิจกรรม Road Show โครงการท่องเที่ยวฯตามรอยอารยธรรมลุ่มน้ำโขง (ธรรมะ ธรรมชาติ วัฒนธรรม) โดยนำผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวภาคเอกชน อาทิ โรงแรม,บริษัททัวร์,และร้านอาหาร ร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก จากจังหวัดกลุ่มสนุก(นครพนม-สกลนคร-มุกดาหาร) ร่วมเจรจากับนักธุรกิจจังหวัดกวางบิงห์ จับมือร่วมกันด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงในอนุภูมิภาคของกลุ่มประเทศอาเชี่ยน เป็นการส่งเสริมการตลาดในต่างประเทศ ณ ห้องประชุมโรงแรม Gold Coast Hotel Resort & Spa ซึ่งอยู่ติดชายทะเลเมืองกวางบิงห์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของกวางบิงห์ และเปิดเวทีให้นักธุรกิจทั้งสองประเทศต่างแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแก่กัน เพื่อจะร่วมดำเนินธุรกิจด้านการท่องเที่ยวควบคู่ไปกับการค้า การลงทุน
ในการจัดงานครั้งนี้ นักธุรกิจไทยได้นำเอาสินค้าและการบริการท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดสนุก(นครพนม-สกลนคร-มุกดาหาร) แสดงโชว์ให้กับนักธุรกิจเวียดนามได้ชม และได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสับปะรดหวาน สินค้าขึ้นชื่อของ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ถูกชาวเวียดนามรุมซื้อจนหมดภายในกี่นาที และยังได้สั่งออเดอร์เข้ามาจำหน่ายภายในประเทศอีกด้วย พร้อมกันนี้ผ้าย้อมครามจาก จ.สกลนคร ก็ได้รับความสนใจจากกลุ่มสตรีเวียดนามจำนวนมาก ทิศทางการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวมีความสดใสเป็นอย่างมาก
จังหวัดกวางบิงห์ ประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางตอนบนของประเทศ เป็นจังหวัดที่มีแผ่นดินแคบที่สุดของเวียดนาม และยังเป็นจังหวัดที่เดินทางจากจังหวัดนครพนมของไทยไปใกล้ที่สุด คือมีระยะทางประมาณ 295 กม. โดยทิศตะวันตกติดกับชายแดนประเทศลาว ทิศตะวันออกเป็นทะเล มีเมืองหลวงชื่อด่งเหย เป็นที่ตั้งป้อมปราการ สมัยศตวรรษที่ 1 และมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติมากมาย เช่นหาดทรายสีขาว และชายหาดที่ทอดยาวที่สุดในเวียดนาม มีความยาวถึง 125 กม.
นอกจากนี้กวางบิงห์ยังได้ขึ้นชื่อว่าเป็น”อาณาจักรแห่งถ้ำ” มีอุทยานแห่งชาติฟ็องญา-แก๋บ่าง ที่เต็มไปด้วยป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ และถ้ำหินปูนน้อยใหญ่ อาทิ ถ้ำสวรรค์ เป็นถ้ำแห้งยาวที่สุดในเอเซีย โดยมีความยาวมากกว่า 31 กม. รวมถึงถ้ำเซินด่องที่ได้ชื่อว่าเป็นถ้ำใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งในอนาคตอันใกล้นักธุรกิจทั้งสองประเทศ จะเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวระหว่างกัน ทำให้เกิดรายได้หมุนเวียนในกลุ่มประเทศอาเชี่ยน รวมทั้งสร้างงานสร้างรายได้แก่ประชากรของประเทศด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี