ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว "เจ้าคุณปิง" คนสนิท "อดีตเจ้าคุณธงชัย" สึกหลังพบหลักฐานมัดร่วมเพศกับชายไม้ป่าเดียวกัน เผย"สมีคุณปิง" เป็นพระดาวรุ่งและเป็นหนึ่งในพระที่ได้เลื่อนสมณศักดิ์อย่างรวดเร็วทั้งที่บวชมาได้เพียงแค่ 16 พรรษา แต่ได้เป็นถึงพระราชาคณะชั้นสามัญ
วันนี้ (4 มิ.ย.61) ตำรวจชุดสืบสวนกองปราบปรามได้นำตัวพระวิสุทธิศาสนวิเทศ หรือ เจ้าคุณปิง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร และเลขานุการส่วนตัวอดีตพระพรหมสิทธิ หรือ ธงชัย อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฟอกเงิน ทุจริตเงินทอนวัด มาสอบสวนที่ กก.1 บก.ป. หลังจากที่ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้เข้าค้นในกุฏิที่พักเมื่อวันที่ 24 พ.ค. และได้ให้เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ใช้เครื่องมือพิเศษดูดข้อมูลทั้งหมดจากโทรศัพท์มือถือของเจ้าคุณปิง กระทั่งเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา บก.ปอท.ได้ประสานกลับมาว่าพบภาพอนาจาร ซึ่งเป็นภาพที่เจ้าคุณปิง ได้เสพสังวาสกับฆราวาสเพศชาย ซึ่งปรากฏเป็นภาพนิ่งและภาพวิดีโอจำนวนหนึ่ง
ชุดสืบสวนของกองปราบฯ จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กระทั่งพิจารณาร่วมกันว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์อย่างร้ายแรง เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ จึงได้ไปนำตัวเจ้าคุณปิงมาสอบสวนดังกล่าว
ภายหลังการสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. และชุดสืบสวน กก.1 บก.ป. ได้นำตัวพระวิสุทธิศาสนวิเทศ หรือ เจ้าคุณปิง เดินทางไปยังวัดสระเกศฯ เพื่อเข้าตรวจค้นภายในกุฏิเพิ่มเติมอีกครั้ง และให้เจ้าคุณปิง ลาสิกขา หลังจากที่เจ้าตัวแสดงความจำนงยอมสละสมณเพศด้วยตัวเอง เนื่องจากพฤติกรรมตนไม่เหมาะสมขณะอยู่ในเพศบรรพชิต โดยพระเทพรัตนมุนี รักษาการเจ้าอาวาส ทำการสึกให้ ส่วนคดีอาญานั้นขณะนี้ยังไม่พบว่าเข้าข่ายกระทำความผิด รวมทั้งในส่วนของคดีเงินทอนวัดด้วย ซึ่งหลังจากสึกแล้วกองปราบฯก็ปล่อยตัวไป
พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด (ผบก.ป. ยืนยันว่า พระวิสุทธิศาสนวิเทศ เต็มใจที่จะสึกที่วัดสระเกศฯ โดยวันนี้ไม่ได้มีการตรวจค้นใดๆ เพิ่มเติม ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัด ตำรวจยังไม่พบพยานหลักฐานเชื่อมโยงว่าพระวิสุทธิศาสนวิเทศ มีความเกี่ยวข้อง
สำหรับบรรยากาศที่วัดสระเกศฯ ได้มีสื่อมวลชนมาเกาะติดสถานการณ์จำนวนมาก ที่บริเวณตำหนักสมเด็จพระสังฆราช ข้างศาลาการเปรียญหลังเก่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้คุมตัวอดีตพระวิสุทธิศาสนวิเทศ เข้าไปภายในตำหนัก ก่อนที่ตำรวจกองปราบฯ จะเดินทางกลับ
เปิดประวัติ"เจ้าคุณปิง"พระดาวรุ่งแห่งยุค
สำหรับ เจ้าคุณปิง (กวีศิลป์ วิสุทธิกุสโล) เกิดเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2523 ปัจจุบันอายุ 37 ปี ได้เลื่อนสมณศักดิ์อย่างรวดเร็ว แบบข้ามหัวพระผู้ใหญ่ระดับเปรียญ 9 ไปกว่า 100 คนทีเดียวจนมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากบวชมาเพียงแค่ 16 พรรษาโดยจบเปรียญธรรม 3 ประโยคเมื่อปี 2548
จากนั้นในปี 2554 ได้ครองสมณศักดิ์เป็นพระครูปลัดสุวัฒนสิทธิคุณ พิบูลศาสนภารธุราทร บวรสังฆานุนายก พระฐานานุกรมในพระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ และปี 2558 ได้เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญที่ตำแหน่งพระวิสุทธิศาสนวิเทศ เป็นเจ้าอาวาสวัดพุทธาราม ราชอาณาจักรสวีเดน
นอกจากนี้ เจ้าคุณปิง ยังมีความสนิทสนมกับผู้คนในวงการบันเทิง ทั้งผู้จัดละคร และดารา มีลูกศิษย์เป็นคนที่มีชื่อเสียงในสังคม และยังเป็นประธานฝ่ายดำเนินงานโครงการปลูกต้นกล้ายาตราพุทธภูมิ เป็นโครงการบรรพชาสามเณรของวัดสระเกศฯ เปิดรับเด็กผู้ชายอายุ 9-15 ปี เข้ามาบวชจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันเข้าสู่รุ่นที่ 3 แล้ว
ก่อนหน้าที่เจ้าคุณปิง จะอุปสมบท ได้สำเร็จการศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต จากนั้นศึกษาทางธรรมจนจบเปรียญธรรม 3 ประโยค และจบการศึกษาพุทธศาสนามหาบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยควบคู่กันไปด้วย
เจ้าคุณปิง เป็นหนึ่งในพระที่ได้เลื่อนสมณศักดิ์อย่างรวดเร็วเนื่องจากบวชมาเพียงแค่ 16 พรรษา แต่ได้เป็นถึงพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญที่ตำแหน่งพระวิสุทธิศาสนวิเทศ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2558 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ครองสมณศักดิ์เป็นพระครูปลัดสุวัฒนสิทธิคุณฯ ทำหน้าที่พระฐานานุกรมในพระพรหมสิทธิ เพียงแค่ 4 ปีเท่านั้น
ปาราชิก4!เสพเมถุนขาดจากความเป็นพระ
แหล่งข่าวผู้เชียวชาญด้านพระพุทธศาสนา ระบุว่า ตามข้อมูลและหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากพบว่าเจ้าคุณปิง มีการร่วมเพศหรือเสพเมถุนกันจริง ในพระธรรมวินัยถือว่าพระรูปนั้นต้อง "อาบัติปาราชิก" คือขาดจากความเป็นพระภิกษุนับตั้งแต่มีการเสพเมถุนแล้ว
สำหรับ "ปาราชิก" นั้นมี 4 ข้ออยู่ในศีล 227 ได้แก่ 1.เสพเมถุน แม้กับสัตว์เดรัจฉาน (ร่วมสัมพันธ์ทางเพศกับมนุษย์ หรืออมนุษย์ หรือสัตว์ แม้แต่ซากศพก็ไม่ละเว้น) 2.ถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้มาเป็นของตน จากบ้านก็ดี จากป่าก็ดี (ขโมย) ได้ราคา 5 มาสก (5 มาสกเท่ากับ 1 บาท) 3.พรากกายมนุษย์จากชีวิต (ฆ่าคน) แสวงหาและใช้เครื่องมือกระทำเอง หรือจ้างวานฆ่าคน หรือพูดพรรณาคุณแห่งความตายให้คนนั้น ๆ ยินดีที่จะตาย (โดยมีเจตนาหวังให้ตาย) ไม่เว้นแม้แต่การแท้งเด็กในครรภ์ และ 4.กล่าวอวดอุตริมนุสธรรมที่ไม่จริง อันเป็นความเห็นอย่างประเสริฐ อย่างสามารถ น้อมเข้าในตัวเองว่า เรารู้อย่างนี้ เราเห็นอย่างนี้ (ไม่รู้จริง แต่โอ้อวดความสามารถของตัวเอง)ยกเว้นเข้าใจตัวเองผิด
อาบัติปาราชิกทั้ง 4 นี้เป็นอาบัติหนักที่เรียกว่า อเตกิจฉา คือแก้ไขไม่ได้เลย โทษของอาบัติปาราชิก หากพระภิกษุต้องอาบัติปาราชิกสี่ข้อใดข้อหนึ่ง แม้จะไม่กล่าวลาสิกขาบท ก็ถือว่าขาดจากความเป็นพระภิกษุทันที เมื่อความผิดสำเร็จ เมื่อขาดจากความเป็นพระแล้ว ก็ถือว่าไม่ใช่พระภิกษุอีกต่อไป ไม่สามารถอยู่ร่วมกับภิกษุอื่นหรือคณะหมู่สงฆ์ได้เลย ต้องลาสิกขาบทออกจากเป็นพระภิกษุทันที มิฉะนั้นจะกลายเป็นพวกอลัชชี แปลว่า ผู้ไม่ละอาย
นอกจากนั้นจะไม่สามารถกลับเข้ามาบวชใหม่ได้เลยตลอดชีวิต แม้จะบวชเข้ามาได้ก็ไม่ใช่พระภิกษุที่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย และไม่อาจเจริญในพระธรรมวินัยจนไม่สามารถบรรลุมรรคผลนิพพานใด ๆ เลยตลอดชีวิต เพียงชาติที่ยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น เพราะเป็นมูลเฉทคือ ตัดรากเหง้า เปรียบเสมือนคนถูกตัดศีรษะ เป็นตาลยอดด้วน แต่ว่าไม่ห้ามขึ้นสวรรค์ซึ่งแตกต่างกับอนันตริยกรรมที่ห้ามทั้งสวรรค์และนิพพานเพราะอาบัติปาราชิกนั้นมีไว้สำหรับเพศบรรชิต
ถ้าพระภิกษุผู้ต้องอาบัติปาราชิกนั้นสำนึกผิดและลาสิกขาบทออกจากเป็นพระภิกษุแล้วทำบุญกุศลแล้วตายไปก็จะสามารถขึ้นสวรรค์ได้ แต่ถ้ายังดื้อด้านไม่ยอมลาสิกขาบทและครองอยู่ในผ้าเหลืองจนตาย ตายไปต้องตกนรกที่ลึกที่สุดคือ มหาขุมนรกอเวจี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี