6 มิ.ย.61 เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ห้องประชุม สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก พลตำรวจโททวิชชาติ พละศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พร้อมด้วย พลตำรวจตรี ถาวร แสงฤทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก และพันตำรวจเอกทรงพล สังข์เกษม ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนกรณีมีข่าวปรากฏในสื่ออินเตอร์เน็ต ในเฟซบุ๊กของนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ ได้โพสต์ระบุว่า
'ข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรภาค 6 จำนวน 3 นาย ประกอบด้วย ส.ต.อ.สุบิณ นุชขำ ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการสืบสวนภูธร.จ.พิษณุโลก ร.ต.ท.ธนาคาร ชัยพิพัฒน์ สังกัดกลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.พิษณุโลก และ ร.ต.อ.วุฒิภัทร บัวอุไร สังกัดกลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.พิษณุโลก (ตำแหน่งในขณะนั้น) ซึ่งตกเป็นจำเลยข้อหาทำร้ายร่างกายนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จ.พิษณุโลก จำนวน 5 คน จนได้รับบาดเจ็บสาหัสทางร่างกายและจิตใจ เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่เดือน มี.ค. 59 ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในขณะนั้น ซึ่งปัจจุบันศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษาจำคุกจำเลยทั้ง 3 คน โดยไม่รอลงอาญา หากแต่ตำรวจภูธรภาค 6 มีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจทั้ง 3 นาย กลับเข้ารับราชการเป็นตำรวจในตำแหน่งเดิม ยศเดิม และเงินเดือนเท่าเดิม สร้างความเคลือบแคลงใจและสงสัยให้กับสังคมเป็นอย่างมาก'
พล.ต.ท.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ผบช.ภ.6 เปิดเผยว่า เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นตามข้อเท็จจริง อยากให้ตำรวจชี้แจงกับพี่น้องประชาชนและผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งที่ผ่านมาทางตำรวจภูธรภาค 6 ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 คน ว่าต้องคดีอาญาจึงมีเหตุอันควรให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามกฎ ก.ตร. กระทั่งเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 60 ตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก รายงานว่าคณะกรรมการสอบสวนได้พิจารณาแล้ว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จึงให้รอคำพิพากษาศาลถึงที่สุด เพื่อประกอบการพิจารณาสั่งการทางวินัย ทั้งนี้จะครบกำหนด 240 วัน ในวันที่ 24 มิ.ย. 60
หากแต่การพิจารณาสั่งการทางวินัยไม่แล้วเสร็จ จึงขยายระยะเวลาการพิจารณาสั่งการทางวินัย ครั้งที่ 1 ออกไปมีกำหนด 60 วัน แต่คดีอาญายังไม่สิ้นสุดก็ต้องขยายระยะเวลาการพิจารณาสั่งการทางวินัย ครั้งที่ 2 ออกไปอีก 60 วัน เนื่องจากต้องรอคำพิพากษาศาลถึงที่สุดประกอบการพิจารณา ซึ่งตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 87 วรรคสอง จะต้องให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 คน กลับคืนสู่ฐานะเดิมนับแต่วันครบกำหนดเวลาดังกล่าว จึงเสนอเรื่องมายังตำรวจภูธรภาค 6 ดำเนินการให้ผู้ถูกกล่าวหาคืนสู่ฐานะเดิมต่อไป ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.60 ที่ผ่านมา
และเพื่อความสบายใจหลายฝ่าย ตนเองได้สั่งให้ตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก สั่งย้าย 3 นายตำรวจดังกล่าว ให้ข้าราชการตำรวจที่ถูกกล่าวหาและอยู่ระหว่างดำเนินเรื่องสู้คดีในชั้นศาลฎีกา ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการที่ฝ่ายอำนวยการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 61 ซึ่งตน ขอยืนยันว่าทางตำรวจภูธรภาค 6 ไม่ได้ช่วยเหลือตำรวจที่กระทำความผิด แต่ต้องทำไปตามขั้นตอนของกฎหมายทั้งกระบวนการทางคดีอาญาและการดำเนินการทางวินัยควบคู่กันไป หากถึงที่สุดแล้วศาลฎีกาตัดสินมีความผิดจริง ผู้กล่าวหาก็ต้องได้รับโทษตามกฎหมายและออกจากราชการทันที
นอกจากนี้ ถ้าหากว่าฝั่งของผู้เสียหาย มีเรื่องไม่สบายใจหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างไร ก็สามารถเข้ามาปรึกษากับตนเองได้โดยตรง ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ของตำรวจที่รับใช้ประชาชนทุกคน พล.ต.ท.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ผบช.ภ.6 กล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี