ล้างบางนอมินี
‘บิ๊กโจ๊ก’ลุยภูเก็ตค้น11จุด
งัดกม.ฟันทัวร์ข้ามชาติ
เร่งหาสาเหตุล่มจมทะเล
แฉบริษัทแอบนำเรือหนี
ผู้ว่าฯภูเก็ตยันค้นหาผู้เสียชีวิตจากเหตุเรือล่มต่อเนื่องทั้งทางเรือ-อากาศ แม้คลื่นลมแรง เผยตัวเลขไม่เป็นทางการเสียชีวิต 46 ศพ สูญหาย 1 พร้อมเร่งสอบพยานเอาผิดเจ้าของเรือฟีนิกซ์ ด้าน “บิ๊กโจ๊ก” ลุยค้น 11 จุด กวาดล้างนอมินีทัวร์ข้ามชาติ หาสาเหตุเรือล่ม แฉเจ้าของเรือบางบริษัทแอบนำเรือออกจากพื้นที่ ลั่นหนีไปไหนก็ไม่รอด ย้ำใช้กฎหมายจัดการเด็ดขาดทุกราย บิ๊กป้อมขอโทษโซเชียลจีน ให้สัมภาษณ์ทำให้ไม่พอใจ
เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหตุเรือล่มจังหวัดภูเก็ต พร้อมนายโจว กว่างซี่ เลขานุการโทและกงสุลจีน พล.ร.ท.สมนึก เปรมปราโมทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงความคืบหน้าปฎิบัติการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุเรือฟีนิกซ์ล่มว่า จากการตรวจสอบพบนักท่องเที่ยวชาวจีน 5 คนที่อยู่ในบัญชีรายชื่อนักท่องเที่ยวที่ลงเรือ แต่ไม่ได้ลงเรือจริงวันเกิดเหตุเรือล่มแล้ว ทั้งหมดยังมีชีวิตอยู่ โดยกงสุลสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำจังหวัดภูเก็ตและด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ตยืนยันว่าทั้ง 3 คน เดินทางกลับถึงจีนแล้ว ส่วนอีก 2 คนกำลังกลับประเทศ
ส่วนการค้นหาผู้สูญหายที่เหลือ นายนรภัทรกล่าวต่อว่า ยังคงดำเนินต่อไปท่ามกลางคลื่นลมแรงทั้งทางเรือและอากาศ วันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 คน เป็นชาย 1 คนและหญิง 1 คน ถูกคลื่นซัดขึ้นมาบนชายหาดเกาะพีพี จ.กระบี่ โดยเรือหลวงล่องลมเดินทางไปรับร่างผู้เสียชีวิตกลับมาพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลที่จ.ภูเก็ตต่อไป ทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุเรือล่มที่ภูเก็ต อย่างไม่เป็นทางการมีทั้งหมด 46 คน สูญหาย 1คน ส่วนศพผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่ในเรือฟีนิกซ์ลำที่จมนั้น นักประดาน้ำไทยและจีน เร่งประเมินสถานการณ์อยู่
สำหรับการขยับเรือฟีนิกซ์ ยังทำไม่ได้ เพราะอาจส่งผลต่อรูปคดี แต่เรียกสอบพยานไปแล้ว 50 ปาก และรายล่าสุดที่มีการแจ้งความดำเนินคดีคือ นายเผิ่ง ค้าชิง ชาวจีนวัย 26 ปี ผู้จัดการบริษัท Lazy Cat Travel
จากนั้น นายนรภัทรพร้อมคณะเดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์เรือฟินิกซ์ล่มบริเวณเกาะเฮ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ตจำนวน 7 ราย เป็นหญิง 2 ราย ชาย 5 ราย ทั้งหมดอาการปลอดภัย ได้แก่ 1.Miss Xu SHU PING 2.Mr.HE BINJING 3.Mr.ZHAO WENJIE 4.Mr.HUANG JUN XIONG 5.Mr.HUANG XIAO FENG 6.Miss HUO FEI และ 7. Mr.XUTIAN XING
อีกด้านหนึ่ง นายสมควร ขันเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์จ.กระบี่ ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติและค้นหาผู้สูญหาย กรณีเหตุเรือล่มที่จ.ภูเก็ตเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่พบศพผู้สูญหายเขตจ.กระบี่ แล้ว 3 ราย โดย 2 ศพพบเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม เป็นเพศชาย 1 ราย บริเวณหลังเกาะเขียว ห่างจากเกาะพีพี 2 ไมล์ทะเล และศพที่ 2 เป็นเพศหญิง 1 ราย บริเวณน่านน้ำรอยต่อจังหวัดกระบี่ และ จ.พังงา และศพที่ 3 พบเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 กรกฎาคม) เป็นเพศหญิง 1 ราย บริเวณอ่าวโล๊ะดาลัม เกาะพีพี คาดว่าทั้งหมดเป็นผู้ที่สูญหาย จากเหตุเรือล่มที่ จ.ภูเก็ต อยู่ระหว่างรอตรวจสอบยืนยัน
ส่วนพ.ต.ท.โชคดี มาบางยาง สวญ.สภ.เกาะพีพีรับแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.วันนี้ เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานเกาะพีพีดอน อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จ.กระบี่พบศพอีก 1 ศพ ลอยมาใกล้ฝั่งห่างจาก ชายหาดอ่าวโละดาลัม เกาะพีพี ประมาณ 300 เมตร เป็นเพศชาย นับเป็นศพที่4 ที่พบในเขตพื้นที่กระบี่และพื้นที่รอยต่อ ซึ่งจะนำศพไปชันสูตรที่จ.ภูเก็ตต่อไป
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการปราบปรามผู้ประกอบการทัวร์ศูนย์เหรียญในจ.ภูเก็ตของพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท.ว่า เบื้องต้นต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนการกระทำผิด ที่เป็นคนละเรื่องกับความสูญเสีย ขณะเดียวกัน ได้สั่งการกองทัพเรือและตำรวจน้ำช่วยเหลือชาวจีนที่บาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งรัฐบาลต้องช่วยเหลือเต็มที่ และแสดงความเสียใจกับจีนอย่างจริงใจ
ผู้สื่อข่าวถามถึงท่าทีของรัฐบาลจีนต่อเรื่องดังกล่าว รองนายกฯกล่าวว่า เขาคงไม่พอใจ แต่ไม่เป็นไร เพราะเป็นคนละประเด็น เราทำเต็มที่แล้ว ส่วนกรณีโซเชียลจีนไม่พอใจคำให้สัมภาษณ์ของตนที่ระบุเหตุที่เกิดขึ้น เพราะคนจีนทำกันเอง ทำให้หลายฝ่ายเกรงกระทบการท่องเที่ยวนั้น ไม่มีอะไร เป็นคนละเรื่องกัน การทำผิดก็เรื่องหนึ่ง ช่วยเหลือก็เรื่องหนึ่ง แต่ถ้าตนพูดอะไรให้ไม่พอใจก็ขอโทษ ตนได้รับรายงานมาอย่างนั้นจริงๆ อย่านำมาปนกัน เมื่อถามย้ำว่า รัฐบาลจีนไม่ได้ตำหนิเรื่องดังกล่าวใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ใช่ มีแต่โซเชียลที่ว่าตน ซึ่งตนพูดเรื่องการทำผิด ไม่ใช่เรื่องการให้ความช่วยเหลือ
ความคืบหน้าการดำเนินคดีกับนอมินีบริษัททัวร์ข้ามชาติ และสอบสวนเอาผิดบริษัทเรือที่เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศและความผิดทางอาญาที่เป็นนโยบายพิเศษของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศป.อส.ตร.) ประชุมชี้แจงแนวการปฏิบัติตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 11 จุด เพื่อตรวจสอบข้อมูลใน 3 มูลฐานความผิดที่อาจจะเกี่ยวข้อง 3 กลุ่มข้อหา ประกอบด้วย ฟอกเงิน อั้งยี่ และนอมินี โดยปูพรมค้นพร้อมกัน 11 จุดคือ
1. จุดให้นักท่องเที่ยวลงเรือนำเที่ยวของบริษัท เลซีแคททราเวล จำกัด ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือนำชัย บ้านแหลมพันวา 2.สถานที่เก็บของและเอกสารของบริษัท เลซี่แคททราเวล จำกัด ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 104/2 ม.7 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต 3.สถานที่รับบุกกิ้งและทำบัญชี เป็นอาคารพาณิชย์ ในหมู่บ้านพนาสนธิ์ บ่อแร่เมืองทอง 4.สถานที่พักอาศัยและที่ทำงานของอิทธิ์โรจน์ ชวาล พิพัฒน์พงศ์ ชื่อ water beac club บริเวณหาดนุ้ย ซ.แหลมมุมนอก ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต 5. สำนักงานเก่าตามหนังสือจดทะเบียนบริษัท ทีซี บลู ดรีม จำกัด ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 43/84 ม.5 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต
6.ที่ทำการปัจุบันของ ทีซี บลู ดรีม จำกัด บ้านเลขที่ 41/2 ม.5 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต 7. บ้านพักของน.ส.วรลักษณ์ ฤกษ์ชัยการ เลขที่ 123/23 ถ.วิชิตสงคราม ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต 8. บริษัท อควาไดฟ์ เซ็นเตอร์ ภูเก็ต จำกัด เลขที่ 46/22 ม. 9 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต 9.บริษัท เจเอ็นเคอิเลคทริค จำกัด เลขที่ 80/12 ม. 7 ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต 10.บริษัทเซเว่นพลัสทราเวิล จำกัด เลขที่ 71/46 ม. 2 ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต และ11.บ้านพักอาศัยของนายอิทธิ์โรจน์ ชวาลพิพัฒน์พงศ์ เลขที่ 60/16 ม. 2 ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์เปิดเผยหลังประชุมว่า จากเหตุเรือฟินิกซ์ และ เรือเซเรนาต้า ล่มในทะเลอันดามัน จ.ภูเก็ต ศูนย์ ศป.อส.ตร.เร่งตรวจสอบสาเหตุของการเกิดเหตุครั้งนี้ว่า เกิดจากอุบัติเหตุ หรือ นอมินี หรือ เกิดจากเรือไม่ได้มาตรฐาน เรือไม่ถูกต้อง โดยสนธิกำลังร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงตรวจค้น 11 ชุด ที่เกี่ยวข้องกับเรือทั้ง 2 ลำ ในจ.ภูเก็ต เพื่อบังคับใช้กฎหมายทุกหน่วยงานเพื่อเอาผิดบริษัทเจ้าของเรือ
สำหรับการตรวจสอบทั้ง 11 จุดนั้น พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า เน้นตรวจสอบเรือ ทั้งการจดทะเบียน นำเข้ามาถูกต้องหรือไม่ ชำระภาษีหรือไม่ และมูลฐานความผิดที่จะนำไปสู่การฟอกเงิน เป็นการดำเนินการตามมาตรการปราบปรามนอมินีในจ.ภูเก็ต การปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติอย่างจริงจัง ต่อไปนี้ จ.ภูเก็ตและอันดามันเรื่องนอมินีข้ามชาติต้องหมดสิ้น และเหตุเรือล่ม เรือไฟไหม้ต้องไม่เกิดขึ้นอีก จากสาเหตุของนอมินี ยกเว้นเหตุที่เกิดจากธรรมชาติ
“นอมินีข้ามชาติ เข้ามาใช้ทรัพย์กรในประเทศไทย ในภูเก็ต ในอันดามัน แต่รายได้ไม่เข้าประเทศไทย เข้ามาแย่งพื้นที่ แย่งอาชีพคนไทย ถ้าไม่ปราบวันนี้คนไทยในพื้นที่ต้องถอยให้นอมินีต่างชาติจนไม่มีที่ยืน ฉะนั้น เราต้องทำให้คนไทยที่เสียภาษีมีที่ยืน ซึ่งเรื่องนี้นายกฯเน้นย้ำ 2 เรื่อง คือ การดูแลผู้ประสบภัย การเยียวยา การดูแลให้ดีที่สุด และเรื่องการปราบปรามผู้เกี่ยวข้องกับการทำผิดครั้งนี้ทุกคน รวมทั้งในส่วนเจ้าหน้าที่รัฐที่ร่วมทำผิดครั้งนี้ ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด และต้องหาสาเหตุทำให้เรือล่มให้ได้ว่า มาจากอะไร อุบัติเหตุ นอมินี หรือเรือไม่ได้มาตรฐาน” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าว
และว่า หลังมีข่าวว่าตนจะตรวจสอบเรื่องนอมินี ทราบว่าตอนนี้เริ่มมีบางบริษัท เจ้าของเรือบางเรือลักลอบนำเรืออกจากจ.ภูเก็ตไปแล้ว แต่ไม่เป็นไม่ไร หนีไปแต่เราก็ตามได้แน่ แต่ทางที่ดีถ้ารู้ว่าเป็นนอมินี ขอให้เลิกบริษัทไปเลย ไปทำให้ถูกกฎหมาย แต่วันนี้ตนมาถึงภูเก็ตแล้วยังไม่เลิก ก็ต้องใช้มาตรการกฎหมายจัดการเด็ดขาดทุกกรณี เช่นเดียวกับที่ดำเนินการกับบริษัท ทรานลี่ไปแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี