ตร.ชุดสืบสวนสภ.หนองหานลงพื้นที่ ตามล่ามือเฉือนหางวัว "เจ้าด่าง" วัวเทียมเกวียนมรดกบ้านเชียงแล้ว พบหลักฐานเสียมตกอยู่ในที่เกิดเหตุ เริ่มได้เค้าคนร้ายเป็นถึงผู้นำชุมชนในละแวกใกล้เคียงไม่เกินวันสองวันได้ตัวแน่นอน คนเลี้ยงวัวเผยวันนี้เจ้าด่างไม่ยอมกินหญ้าทั้งวันน่าจะเจ็บปวดทรมานเห็นรอยน้ำตาเจ้าด่างแล้วอดจะร้องไห้ไม่ได้ วอนตร.ตามจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว

20 ส.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีมีมืดดีแอบไปตัดหาง "เจ้าด่าง" วัวเพศผู้อายุประมาณ 10 ปี ซึ่งเป็นวัวเทียมเกวียนมรดกโลกบ้านเชียง ที่มีผู้ใจบุญร่วมไถ่ชีวิตมาจากโรงฆ่าสัตว์เมื่อ 6 ปีก่อนและมีชาวบ้านเลี้ยงเอาไว้ในทุ่งนาด้านหลังวัดป่าเทพประทานพร ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี เมื่อหลายวันก่อน จนได้รับบาดเจ็บเป็นวัวหางกุ้นมีเลือดไหลออกตลอดเวลาและมีแมลงวันมาตอมแผลเริ่มเน่าแล้ว

โดยผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายอเนก เสมอวงศ์ เพื่อถามอาการบาดเจ็บของเจ้าด่าง ทราบว่า วันนี้เจ้าด่างไม่ยอมกินหญ้าทั้งวันแต่ได้เดินและนอน ตนเห็นแล้วอดสงสารไม่ได้ คิดว่าเจ้าด่างน่าจะเจ็บแผลบริเวณหางที่โดนตัดที่เริ่มจะเน่าเปื่อย และสังเกตเห็นมีรอยน้ำตาของเจ้าด่างด้วย เห็นแล้วอดสงสารไม่ได้ตนเองเลี้ยงวัวทั้ง 4 ตัวคือ เจ้านินจา ,บัวขาว ,เจ้าสายัณห์ และเจ้าด่างมาเกือบ 6 ปีผูกพันกับเขามาเหมือนพ่อกับลูกเห็นน้ำตามันแล้วแทบจะร้องไห้ตามไปด้วย หากมันพูดได้คงพูดแล้วว่าทำไมถึงใจร้ายมาทำกับมันอย่างนี้ ขณะเดียวกันในวันนี้แพทย์รักษาสัตว์ในหมู่บ้านบ้านเชียงได้เดินทางมาดูอาการของเจ้าด่างแนะนำว่าพรุ่งนี้ให้ต้มน้ำเกลือแล้วไปเอาราดแผลจากนั้นจึงใช้ยาทา หากปล่อยไม่นานอาจจะเป็นแผลเรื้อรังบาดทะยักในสัตว์ทำให้เสียชีวิตได้

ขณะเดียวกันวันนี้ทาง พ.ต.อ.เชี่ยวชาญ มีชัย ผกก.สภ.หนองหาน ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.รักชาติ นามมูล สว.สส.สภ.หนองหานนำกำลังตร.ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไปเพื่อตามล่ามือดีที่อาจหาญตัดหางวัวเทียมเกวียนมรดกโลก แม้จะเป็นคดีเล็กน้อยแต่เป็นเรื่องที่สะเทือนใจของคนบ้านเชียงเพราะวัวเทียมเกวียนถือว่าสร้างชื่อเสียงให้กับชาวบ้านเชียงไว้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองมานานและมีผู้ใจบุญร่วมไถ่ชีวิตออกมาจากโรงฆ่าสัตว์ 

เบื้องต้นตร.ได้เก็บหางของเจ้าด่างและพบเป็นเสียมตกในที่เกิดเหตุเอาไว้ตรวจสอบ และตอนนี้เริ่มได้เค้าคนร้ายเป็นชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงและเป็นถึงผู้นำชุมชนในหมู่บ้านเสียด้วย ส่วนสาเหตุกำลังสืบสวนว่าเกิดจากอะไร ข่าวคืบหน้ารายงานให้ทราบต่อไป