แอปเตอร์ (ASEAN Plus Three Emergency Rice Reserve : APTERR) องค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสาม เป็นองค์กรที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ 13 ประเทศ ประกอบไปด้วยประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ ร่วมกับจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เพื่อสำรองข้าวสำหรับบริโภคในกรณีเกิดภัยพิบัติฉุกเฉินทางธรรมชาติ โดยประเทศไทยได้รับความไว้วางใจให้จัดตั้งสำนักเลขานุการองค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสาม (APTERR) ขึ้นในประเทศ เพื่อเป็นหน่วยงานกลางทำหน้าที่ประสานงานในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ โดยได้ดำเนินงานมาเป็นเวลา 7 ปี ในวันที่ 7 ตุลาคม 2561 นี้ พร้อมกับกำลังก้าวสู่ปีที่ 8 ต่อไป
นายชาญพิทยา ฉิมพาลี ผู้จัดการทั่วไป สำนักเลขานุการ APTERR กล่าวว่า แอปเตอร์ ในฐานะองค์กรความร่วมมือระดับภูมิภาคของอาเซียนบวกสาม มีวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานเพื่อสำรองข้าวไว้สำหรับบริโภค และเมื่อเกิดความจำเป็นกรณีภัยพิบัติฉุกเฉิน นับเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนความมั่นคงทางอาหารของประชาชนในประเทศสมาชิก 13 ประเทศ
สำหรับประเภทของการสำรองข้าวของแอปเตอร์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1.ข้าวสำรองในรูปสัญญา (Earmarked
Reserve) เป็นข้าวสำรองฉุกเฉินของอาเซียน (ASEAN Emergency Rice Reserve : AERR) ภายใต้ข้อตกลงการสำรองอาหารเพื่อความมั่นคงแห่งภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Food Security Reserve : AFSR) ที่ได้ทำไว้ในปี 2522 รวมทั้งสิ้น 87,000 ตัน จนกระทั่งปี 2545 มีการขยายขอบเขตสมาชิก รวมอีก 3 ประเทศ คีน จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ทำให้มีปริมาณข้าวสารสำรองเพิ่มขึ้นเป็น 787,000 ตัน ปัจจุบันมีปริมาณข้าวสำรองในรูปสัญญาของประเทศสมาชิก ประกอบด้วย ประเทศบรูไน 3,000 ตัน กัมพูชา 3,000 ตัน อินโดนีเซีย 12,000 ตัน สปป.ลาว 3,000 ตัน มาเลเซีย 6,000 ตัน เมียนมา 14,000 ตัน ฟิลิปปินส์ 12,000 ตัน สิงคโปร์ 5,000 ตัน ไทย 15,000 ตัน เวียดนาม 14,000 ตัน จีน 300,000 ตัน ญี่ปุ่น 250,000 ตัน และเกาหลีใต้ 150,000 ตัน 2.ข้าวสำรองจริง (Stockpiled Reserve) เป็นข้าวที่มีอยู่จริงหรือเงินสด ซึ่งได้รับบริจาคจากประเทศสมาชิก เพื่อนำไปช่วยเหลือประเทศสมาชิกที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินทางธรรมชาติรุนแรง หรือช่วยขจัดความยากจน และอดอยากแก่ประชาชนในภูมิภาค
ด้านวิธีการในการดำเนินกิจกรรมหลักๆ ประกอบไปด้วย 3 รูปแบบ ได้แก่ โปรแกรม 1 (Tier 1) คือ การระบายข้าวสำรองในรูปสัญญา ภายใต้สัญญาซื้อขายล่วงหน้า โปรแกรม 2 (Tier 2) คือ การระบายข้าวสำรองในรูปสัญญา ภายใต้การดำเนินการในรูปแบบอื่นๆ เป็นการสำรองข้าวสารไว้สำหรับการทำสัญญาซื้อขายเมื่อขณะหรือเมื่อเกิดภัยพิบัติฉุกเฉินแล้ว และ โปรแกรม 3 (Tier 3) คือ การระบายข้าวสำรองจริงแบบให้เปล่า เพื่อบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรม เมื่อประเทศสมาชิกมีการร้องขอ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความยากจนหรือลดปัญหาภาวะขาดอาหารเป็นการระดมข้าวโดยการบริจาคข้าวสารหรือตัวเงินช่วยเหลือประทศสมาชิกแบบให้เปล่ากรณีเกิดภัยพิบัติฉุกเฉิน
นายชาญพิทยา กล่าวว่า โดยตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี 2554 ถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็น การระบายข้าวภายใต้ Tier 3 เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในประเทศสมาชิกใน 7 ประเทศ คือ กัมพูชา ลาว เมียนมา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม รวมเป็นปริมาณข้าวทั้งหมด 23,920 ตัน ซึ่งบริจาคโดยประเทศสมาชิกแอปเตอร์ ได้แก่ ประเทศมาเลเซีย ไทย จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ทั้งนี้ในปี 2561 แอปเตอร์ ได้นำข้าวซึ่งได้รับบริจาคจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติต่างๆ และแก้ปัญหาความยากจน รวมถึงนำข้าวที่ได้รับบริจาคไปเก็บไว้ประเทศสมาชิกเพื่อเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ รวม 15,593 ตัน ใน 5 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ซึ่งรวมถึงข้าวที่ได้รับบริจาคจากเกาหลีใต้ปริมาณ 1,300 ตัน ที่กำลังจะนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมหนักในเมียนมา และข้าวอีก 1,000 ตัน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมและเหตุการณ์เขื่อนแตกที่ลาว
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานที่ผ่านมาของสำนักเลขานุการ APTERR ได้รับความไว้วางใจและเชื่อมั่นจากประเทศสมาชิกด้วยดีเสมอมา และแม้ว่าที่ผ่านมาการดำเนินงานของแอปเตอร์ส่วนใหญ่จะเป็นการดำเนินงานอยู่ในส่วนของโปรแกรม 3 หรือ Tier 3 คือ การระบายข้าวสำรองจริงแบบให้เปล่า เพื่อบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรม เมื่อประเทศสมาชิกมีการร้องขอ ซึ่งก็เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งองค์กรดังกล่าวขึ้นมาก็ตาม แต่ในอนาคตแอปเตอร์มองว่าการดำเนินงานโปรแกรม 1 หรือ Tier 1 คือ การระบายข้าวสำรองในรูปสัญญา ภายใต้สัญญาซื้อขายล่วงหน้า น่าจะมีบทบาทเพิ่มมากขึ้น โดยในส่วนนี้เองก็ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสของประเทศไทยในการสำรองข้าวไว้สำหรับขายโดยการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าด้วยเช่นกัน ซึ่งจะเป็นการทำตลาดของประเทศที่เชื่อมโยงกับมาตรการด้านการตลาดข้าวของรัฐเพื่อ
ช่วยเหลือเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการสามารถขายข้าวได้ในราคาที่เป็นธรรมมากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้อ่านที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่สำนักเลขานุการแอปเตอร์ โทร. 0-2579-4816, 0-2579-4817หรือ www.APTERR.org
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี