27 ต.ค. 61 ที่วัดสนสัทธาราม บ้านสน ต.สะกาด อ.สังขะ จ.สุรินทร์) นายเรืองยศ ลิ้มนุกูลเจริญ นายอำเภอสังขะ นายแพทย์โกเมน ทิวทอง และนายธีรทัศน์ เตียวเจริญโสภา ร่วมกันเป็นประธานในพิธีกวนข้าวทิพย์ ประจำปี 2561 โดยมีนายเมธา ขอชัย ปลัด อบต.สะกาด ปฏิบัติหน้าที่นายก อบต.สะกาด นำข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ชาวบ้าน นักเรียน นักศึกษา พ่อค้า ประชาชน และคหบดี ทั้งตำบลสกา นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ กว่า 1,000 คน ร่วมกวนข้าวทิพย์ โบราณ บนกระทะยักษ์ และเตาโบกดิน สุดคึกคัก ซึ่งจะจัดให้มีขึ้นในวัน แรม 3 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี หลักวันออกพรรษา โดยปีนี้ตรงกับ วันเสาร์ที่ 27 ต.ต.61 โดยเด็กสาวพรหมจรรย์ 99 คน เตาโบกดินโบราณ จำนวน 26 เตา ประกอบด้วย เตาองค์ประธาน 1 เตา และเตาบริวารอีก 25 เตา ถือว่าจัดใหญ่ที่สุดในโลก
ซึ่งพิธีเตากวนข้าวทิพย์องค์ประธาน สุดเข้มขลัง อลังการ ตามความเชื่อและประเพณีชาติพันธุ์เขมรโบราณที่มีการสบทอดกันมายาวนานกว่า 1,000 ปี โดย เด็กสาวพรหมจรรย์ ถือไม้พายและพลั่ว ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้กวนข้าวทิพย์ เดินวนรอบเตากวนข้าวทิพย์รวม 3 รอบ โดยใช้เตาแบบโบราณ โบกดิน ใช้ฟื้นไม้ เป็นเชื้อเพลิงหลักในการกวนข้าวทิพย์ ซึ่งทางวัดสนสัทธาราม แห่งนี้ ได้มีการเตรียม ธัญญาพืชทั้ง 108 ชนิด หลักๆอาทิ ถั่วลิสง,งา ,นม ,น้ำตาล ,น้ำผึ้ง ,น้ำอ้อย เนย และน้ำนมที่คั้นจากรวงข้าว เป็นต้น เทลงในกระทะขนาดใหญ่ที่ตั้งไฟบนเตา เพื่อให้เด็กๆพรหมจรรย์ทำพิธีกวนข้าวทิพย์เป็นลำดับแรก ก่อนที่จะมอบให้พระภิกษุสงฆ์ สามเณร และพุทธศาสนิกชนร่วมกันสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันกวนข้าวทิพย์ บนเตาไฟโบราณทั้ง 25 เตาต่อ คาดว่าต้องใช้เวลากว่า 12 ชั่วโมง
สำหรับวัดสนสัทธาราม แห่งนี้ ได้จัดให้มี งานทอดกฐินสามัคคีพิธีกวนข้าวทิพย์ เป็นครั้งที่ 9 ซึ่งเป็นประเพณีที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ และถือเป็นวัฒนธรรมที่สำคัญ ที่จะกระทำกันแทบทุกวัด ในช่วงวันออกพรรษา แต่ในปัจจุบันคงมีเพียงไม่กี่วัดในจังหวัดสุรินทร์ที่ยังคงมีการสืบสาน เนื่องจากเป็นงานใหญ่ต้องใช้คนและการเตรียมธัญยาพืชอาหารต่างๆมาก แต่ทางวัดสนสัทธาราม ยังคงจัดประเพณีกวนข้าวทิพย์เป็นประจำทุกปี โดยยังคงรักษารูปแบบดั้งเดิม เพื่อไม่ให้ประเพณีอันดีงามสูญหายไป โดยการเตรียมส่วนผสมที่ต้องมีถึง 108 ชนิด ซึ่งส่วนผสมจะเป็นธัญญาพืชโบราณหายากทั้งสิ้น โดยพระและเณรในวัดจะร่วมกับพุทธศาสนิกชน ช่วยกันเตรียมส่วนผสมถึง 2 เดือน ซึ่งมีการทำพิธีสำคัญก่อนการกวนข้าวทิพย์ คือการใช้ชาย-หญิงพรหมจรรย์ เป็นผู้กวนเป็นกลุ่มแรก หลังจากนั้นประชาชนทั่วไป จึงจะได้รับสิทธิ์ร่วมกวนข้าวทิพย์ ซึ่งปีนี้มีประชาชนทุกเพศ ทุกวัย จากทั่วประเทศไทย และชาวต่างชาติ แห่เดินทางเข้ามามีส่วนร่วมในประเพณีกวนข้าวทิพย์ในครั้งนี้จำนวนมาก โดยเริ่มกวนในเวลา ตั้งแต่ 1 ทุ่ม ยันตี 5 และจะนำพิธีกวนข้าวทิพย์ (ข้าวมธุปายาส) ตักบาตรทำบุญในเช้าวันที่ 28 ต.ค.61
พระครูประภัสร์อาภาธร เจ้าอาวาสวัดสนสัทธาราม /เจ้าคณะตำบลสะกาด กล่าวว่า ชาวบ้านต้องช่วยกันเตรียมวัตถุดิบนานกว่า 2 เดือน เพื่อให้เกิดความพร้อม ในการกวนข้าวทิพย์ในวันนี้ ข้าวทิพย์เป็นข้าวแห่งความเชื่อในพระพุทธศาสนา หลังจากนางสุชาดา ได้กวนข้าวทิพย์ ปรุงด้วยความประณีต ละเอียดอ่อนเสร็จแล้ว นำไปถวายแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลังจากนั้นวันหนึ่ง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อได้เสวยข้าวทิพย์ของนางสุดชาแล้ว ก็ได้บรรลุเป็นพระสัมมาสัมโพธิ์ญาณ เป็นพระพุทธเจ้าเป็นศาสดาเอกของโลก ฉะนั้นเรื่องข้าวทิพย์จึงเป็นมงคล อย่างมากสำหรับ ญาติโยมที่เป็นชาวพุทธ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี