นางดวงใจ กาญธีรานนนท์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุพรรณบุรี ร่วมกับ เทศบาลตำบลบ้านแหลมพัฒนา วัฒนธรรมตำบลบ้านแหลม วัดป่าพฤกษ์และชุมชนตำบลบ้านแหลม ร่วมกันจัดงานสืบสานวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีวิถีชีวิตท้องถิ่นริมแม่น้ำท่าจีน ประเพณีทำบุญชักพระเล่นเพลงทำบุญตักบาตรกลางน้ำ จังหวัดสุพรรณบุรี ประจำปี 2561 ณ วัดป่าพฤกษ์ ตำบลบ้านแหลม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี

ซึ่งเป็นประเพณีที่สะท้อนวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นที่ผูกพันกับสายน้ำท่าจีนและมีความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา ปฏิบัติสืบทอดกันมาแต่โบราณ กว่า 100 ปี โดยจะจัดในช่วงหลังวันออกพรรษาของทุกปี ชาวบ้านจะมีการอัญเชิญพระพุทธรูปออกจากสถานที่ตั้งเพื่อทำการสักการะและนำมาประดิษฐานในมณฑลพิธี

จากนั้น นำพระปฏิมากรที่ศักดิ์สิทธิ์ (เรือพระ) ล่องไปตามลำน้ำท่าจีนเพื่อให้ประชาชนที่ศรัทธาได้กราบนมัสการร่วมอนุโมทนาบุญ และเป็นสัญญาณในการนัดหมายให้มาร่วมตักบาตรในเช้าวันรุ่งขึ้น โดยในแม่น้ำท่าจีน ก็จะมี บรรดาพ่อเพลง แม่เพลง นำโดย แม่ขวัญจิต ศรีประจันต์ แม่เพลงพื้นบ้านร่วมขับขานตำนานเพลงโบราณ เช่น เพลงเรือ เพลงฉ่อย เพลงอีแซว เพลงพวงมาลัย นำหน้าขบวนพิธีชักพระ จากนั้นก็จะเป็นขบวนเรือ นำพระพุทธรูปล่องเรือ ให้ชาวบ้านได้ใส่บาตร  ข้าวสาร อาหารแห้ง  อาหารคาวหวาน  ชาวบ้านก็ได้ร่วมกันแต่งกายมาในชุดไทยงดงามร่วมงานประเพณีนี้กันอย่างคึกคัก นับพันคน

สำหรับประเพณีชักพระเล่นเพลง ตักบาตรกลางน้ำ เป็นอีกหนึ่งประเพณีของชาวบ้านอำเภอบางปลาม้า  จังหวัดสุพรรณบุรี ที่ได้ร่วมกันสืบสานมาเป็นเวลายาวนานกว่าร้อยปีแล้ว  ซึ่งทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็ได้เห็นความสำคัญและร่วมส่งเสริมประเพณีนี้ให้อยู่คู่กับชาวสุพรรณบุรีต่อไป  ซึ่งได้จัดขึ้นในทุกปี ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน  งานประเพณีตักบาตรกลางน้ำของตำบลบ้านแหลม นั้นเป็นพระเพณีที่งดงาม และมีคุณค่า

โดยในสมัยก่อนช่วงฤดูน้ำหลากประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน ชาวบ้านจะต้องไปเก็บเกี่ยวพืชผลประมาณ 2 เดือน โดยไปสร้างโรงนาเป็นที่พักอาศัยชั่วคราว ซึ่งชาวบ้านเห็นว่าช่วงเวลาดังกล่าว จะว่างเว้นจากการทำบุญและตักบาตร จึงกำหนดให้วันแรม 12 ค่ำเดือน 12 ของทุกปี นิมนต์พระสงฆ์ สามเณร พายเรือออกบิณฑบาตข้าวสารอาหารแห้งจากชาวบ้านสองฝั่งแม่น้ำท่าจีน จึงเป็นจุดกำเนิดของประเพณีตักบาตรกลางน้ำ ซึ่งมีชาวบ้านในพื้นที่และนักท่องเที่ยวมาร่วมงานประเพณีกันอย่างคึกคัก  ซึ่งถือเป็นการร่วมสืบสานประเพณีอันดีงามนี้ให้อยู่คู่กับชาวสุพรรณบุรีต่อไป