18 ม.ค.62 นายจินดา ศรีสุพพัตพงษ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติธารเสด็จ-เกาะพะงัน พร้อมด้วย พ.ท.ปัตตะพล ประพันธ์ ฝ่ายเสนาธิการประจำบก.ควบคุม มทบ.45 ฝ่ายปกครองอำเภอเกาะพะงัน เจ้าท่าภูมิภาคสาขาเกาะพะงัน และตำรวจสภ.เกาะพะงัน นำกำลังเข้าสำรวจหาดธารเสด็จ ม.5 ต.บ้านใต้ เขตอุทยานแห่งชาติธารเสด็จ-เกาะพะงัน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานส่งอัยการเพื่อฟ้องร้องเอาผิดกับ นายสุทิน แซ่ลิ้ม เจ้าของกิจการ "ไม่เป็นไรบังกะโล" ที่มาสร้างบังกะโล บ้านพักตากอากาศ ที่พักอาศัย และร้านอาหาร จำนวน 29 หลัง อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติและหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (น.ส.ล.) จำนวน 7 ไร่ 2 งาน 20 ตารางวา
จากการลงพื้นที่ดังกล่าวพบว่า ที่บังกะโลและร้านอาหารยังเปิดให้บริการนักท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการเปิดห้องพัก เล่นน้ำ อาบแดด และรับประทานอาหาร เจ้าหน้าที่จึงได้เดินสำรวจสิ่งปลูกสร้างพร้อมกับจับค่าพิกัดดาวเทียมแนวเขตของบังกะโลนี้ ว่ามีการก่อสร้างอาคารหรือมีการบุกรุกเพิ่มเติมหรือไม่
มีรายงานว่าเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2559 หลังเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่สฎ.6(เกาะสมุย) เจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้สายที่ 1 (สุราษฎร์ธานี) เจ้าหน้าทีอุทยานแห่งชาติธารเสด็จ-เกาะพะงัน ฝ่ายปกครองอำเภอเกาะพะงัน ทหารมทบ.45 และตำรวจสภ.เกาะพะงัน เข้าตรวจสอบผู้บุกรุกบริเวณหาดธารเสด็จ ม.5 ต.บ้านใต้ พบว่าพี้นที่ดังกล่าวเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทพลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกัน แต่มีผู้บุกรุกมาสร้างบ้งกะโล จำนวน 29 หลัง คำนวณเนื้อที่ได้ 7 ไร่ 2 งาน 20 ตารางวา จากที่มีเนื้อที่รวม 346 ไร่ 2 งาน 89 ตารางวา ตามหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง(น.ส.ล.) เลขที่สฎ.0568 ที่ดินเลขที่ 24 ซึ่งผู้บุกรุกกระทำผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้พ.ศ.2484และประมวลกฎหมายที่ดินพ.ศ.2497 จึงได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายสุทิน แซ่ลิ้ม เจ้าของกิจการ ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน
จากการสอบถาม นายสุทิน แซ่ลิ้ม เจ้าของกิจการ เล่าว่า บังกะโลนี้เป็นมรดกตกทอดตั้งแต่สมัยรุ่นอาก๋ง ตนเองมาทำมาหากินดูแลเป็นรุ่นที่ 3 ก่อนที่จะประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ แต่ก็มาถูกแจ้งความดำเนินคดีว่าตนเองบุกรุกที่อุทยานแห่งชาติ และหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง(น.ส.ล.) เพื่อจะเอาที่ดินนี้ให้ได้ ผมก็ขอทำยังไงก็ได้ให้ผมอยู่ด้วยอย่าทำเหมือนกับประหารชีวิตผม ผมก็นำที่ดินที่มีอยู่ไปจำนองพอได้เงินมาก็มาลงทุนที่นี่หมด ถ้าเอาที่นี้ไปผมก็เท่ากับเป็นคนล้มละลาย แล้วลูกเมียผมจะอยู่อย่างไร มันข่มเหงกันชัดๆ ผมไ่ม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงไม่มีทางออก ถ้าผมเพิ่งมาอยู่มาบุกรุกก็ยอมรับ แต่นี่ผมมาอยู่ก่อนจะประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ
ด้านนายจินดา ศรีสุพพัตพงษ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติธารเสด็จ-เกาะพะงัน กล่าวว่า พื้นที่จำนวน 7 ไร่ 2 งาน 20 ตารางวา แปลงนี้อยู่ในเขตหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (น.ส.ล.)ทั้งหมด และก่อนหน้านี้พื้นที่นี้ยังเป็นพื้นที่เตรียมการประกาศเป็นอุทยาน แต่ตอนนี้ประกาศเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติธารเสด็จแล้วที่ดินแปลงนี้ก็ยังอยู่ในเขตของอุทยานฯด้วย จึงได้วัดค่าพิกัดดาวเทียมนำไปลงในแผนที่เปรียบเทียบว่ามีพื้นที่น.ส.ล.ส่วนไหนซ้อนทับอยู่ในเขตอุทยานฯด้วย เพื่อเป็นรายละเอียดไปประกอบสำนวนคดีความเดิมต่อไป
สำหรับที่ดินบริเวณนี้ตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่5 ทรงเสด็จประพาสทางเรือถึง 14 ครั้ง ทรงสลักพระปรมาภิไธยย่อ จ.ป.ร.108 ไว้ตามโขดหินต่างๆหลายจุด พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่7 ทรงสลักพระปรมาภิไธยย่อ ป.ป.ร.2469 และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่9 ทรงสลักพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. ซึ่งถึงว่าเป็นพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติไทยอย่างยิ่ง และบังกะโลแห่งนี้ยังได้ก่อสร้างอยู่หน้าชายหาดบดบังทัศนียภาพทางทะเลของพลับพลาที่ประทับรัชกาลที่ 5 อีกด้วย นายจินดา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี