ในการประชุมวิชาการนานาชาติ APAO 2019 ครั้งที่ 34 (The 34th Congress of Asia-Pacific Academy of Ophthamology-APAO) ซึ่งจัดขึ้นในประเทศไทย วันที่ 6-9 มีนาคม 2562 บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน วิชั่น เข้าร่วมงานเพื่อจัดแสดงเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด และร่วมบรรยายด้านจักษุวิทยาระดับโลก โดยได้สำรวจคนไทยจากกลุ่มตัวอย่างกว่า 1,000 คน เกี่ยวกับปัญหาทางด้านสายตา พบว่า คนไทย8 ใน 10 คน มีอาการของโรคต่อมไมโบเมียนทำงานผิดปกติ หรือโรคเอ็มจีดี ทั้งนี้คนไทย79% ไม่รู้จักโรคนี้ และคนไทยส่วนใหญ่ 69%ยังไม่ได้พบแพทย์

มร.คริสตอฟ วอนวิลเลอร์ รองประธานหน่วยงาน Surgical Vision ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน วิชั่น กล่าวว่า โรคเอ็มจีดี ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคตาแห้ง เริ่มแพร่หลายคนเอเชีย เป็นภัยที่ร้ายแรงต่อดวงตา ซึ่งการนำผลสำรวจมาเผยแพร่ในงาน APAO ก็เพื่อช่วยสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเอ็มจีดีและทำให้คนไทยมีความรู้ในการปกป้องสายตา อาการของโรคที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ แสบตา 48% และเจ็บตา 48% อาการเหล่านี้จะเกิดร่วมกับอาการตาแห้งและน้ำตาไหลตลอดเวลา ผู้ที่มีอาการของโรคเอ็มจีดีเกือบครึ่งหนึ่ง 49% เริ่มมีอาการหลังจากใช้เวลาอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์หรือจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน รวมถึงการใช้เวลาอยู่ในสถานที่ที่เปิดเครื่องปรับอากาศเป็นเวลานานด้วย

ด้านนายแพทย์ณัฐวุฒิ วะน้ำค้างผู้อำนวยการคลินิก At Eye และจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมจักษุตกแต่งและเสริมสร้างระบบท่อน้ำตา (Oculoplastic) รพ.บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า คนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้จักโรคเอ็มจีดี จึงไม่ได้ไปตรวจหาสาเหตุและเข้ารับการรักษา ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้อาการอาจจะหนักขึ้นจึงอยากแนะนำให้คนไข้ตรวจสุขภาพตาประจำปี

“การรักษาจะนวดด้วยความร้อนเพื่อละลายและรีดสิ่งอุดตันออกจากต่อม และขยายต่อมไมโบเมียน ด้วยอุปกรณ์พิเศษ ส่วนการดูแลด้วยตัวเอง ให้ประคบอุ่นวันละ 1-2 ครั้ง และหรือทำการฟอกเปลือกตา การรับประทานอาหารเสริมประเภทโอเมก้า-3 และใช้ยาหยอดตา”นายแพทย์ณัฐวุฒิ กล่าว